วันที่ 15 กันยายน 2564 ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ชาวอัฟกันหลายพันคนในเมืองกันดาฮาร์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในอัฟกานิสถาน ได้รวมตัวประท้วงคัดค้านคำสั่งของรัฐบาลตอลิบันที่ให้ชาวเมืองทิ้งบ้านเรือนของตัวเองก่อนฤดูหนาวจะมาเยือน

ผู้ประท้วงเดินขบวนไปประท้วงหน้าที่ทำการผู้ว่าการเมืองกันดาฮาร์หลังประกาศให้เวลา 3 วันในการให้ประชาชนร่วม 3,500 คนทิ้งบ้านเรือน โดยผู้ประท้วงที่เป็นชาวเมืองได้กล่าวว่า พวกเขาไม่ได้เหตุผลว่าทำไมต้องให้ประชาชนทิ้งบ้านเรือนตัวเอง แต่สั่งให้ประชาชนละทิ้งบ้านเรือนภายในวันที่ 14 กันยายน

ผู้ประท้วงหญิงรายหนึ่งกล่าวว่า หลายครอบครัวต่างสร้างบ้านเรือนด้วยเงินอันน้อยนิด และไม่คิดพยายามจะย้ายออก

ตามข้อมูลของประจักษ์พยาน มีผู้หญิงหลายคนที่โบกธงชาติอัฟกานิสถานที่เป็นสีแดง-ดำ-เขียว ถูกกระทำคุกคามโดยนักรบตอลิบัน

ด้านโมฮัมหมัด อิบราฮิม นักเคลื่อนไหวพลเมืองในกันดาฮาร์กล่าวว่า พื้นที่เขตชายขอบอย่างเฟอร์กา-อี โคร์นา เป็นพื้นที่กรรมสิทธิ์ของรัฐบาลและที่ดินถูกแบ่งให้กับเจ้าหน้าที่รัฐของรัฐบาลชุดก่อน ที่แห่งนั้นอาจมีความผิดปกติและการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับการโอนทรัพย์สินส่งผลให้มีการขายทรัพย์สินอย่างผิดกฎหมายให้กับผู้อยู่อาศัย บางครอบครัวอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้มานานกว่า 20 ปี

ขณะที่โฆษกกลุ่มตอลิบันไม่ได้ให้ความเห็นถึงคำสั่งให้ประชาชนละทิ้งบ้านเรือน

ทั้งนี้ การประท้วงต่อต้านรัฐบาลตอลิบันขยายตัวไปหลายส่วนในอัฟกานิสถานนับตั้งแต่กลุ่มติดอาวุธเข้ายึดประเทศได้ หลังสหรัฐฯทำการถอนทัพออกจากอัฟกานิสถาน และกลุ่มตอลิบันทำการสลายการประท้วงด้วยความรุนแรง อีกทั้งมีรายงานนักข่าวและนักเคลื่อนไหวถูกจับกุมและล่วงละเมิดด้วย

หรือก่อนหน้านี้ ในการประท้วงที่กรุงคาบูล มีกลุ่มผู้หญิงออกมาประท้วง หลังตอลิบันประกาศจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวที่สมาชิกทั้งหมดมีแต่ผู้ชายนั้น นักรบตอลิบันสลายชุมนุมผู้หญิงด้วยการใช้แส้และด้ามไม้เฆี่ยนตี

ทำให้สหประชาชาติเรียกร้องให้ตอลิบันยุติการใช้กำลัง การควบคุมโดยมิชอบกับกลุ่มผู้ชอบสิทธิการชุมนุมอย่างสันติและสื่อทำข่าวการประท้วงโดยทันที โดยราวินา ชัมดาซานี โฆษกข้าหลวงสิทธิมนุษยชนยูเอ็นกล่าวว่า กลุ่มตอลิบันตอบโต้การชุมนุมอย่างสันติด้วยการเพิ่มความรุนแรง รวมถึงการใช้กระสุนจริง ไม้กระบองและแส้ ทำให้มีผู้ชุมนุมอย่างน้อย 4 รายเสียชีวิต