จดหมาย/ฉบับประจำวันที่ 21-27 กรกฎาคม 2560

จดหมาย

ศิลปิน (1)

น่าเสียใจ

ลุงเป้า อำนาจ ลูกจันทร์ ลาจากโลกไป หลังป่วยมา 8 ปี

สิ่งที่น่าเสียใจ คือ เขาเป็นมือกลองคนสำคัญของวงดนตรีระดับร้อยล้านพันล้าน

แต่บั้นปลายชีวิตในช่วงสิบปีก่อนตาย ช่างลำบาก ไม่สมฐานะ และฟังดูไม่น่าเชื่อเลย ว่าจะเป็นไปได้

ย้อนไปดูที่ลุงเขาเคยให้สัมภาษณ์ทีวี เมื่อ 8 ปีก่อน ช่วงที่ล้มป่วยใหม่ๆ

ลุงเขาบอก พักหลังๆ นี้เพื่อนๆ ไม่ค่อยมา เพราะมาแล้วไม่มีอะไรให้เพื่อนกิน

สมัยก่อน ไปเล่นดนตรี เพื่อนๆ ก็ไปด้วยกันรถคันเดียว

เดี๋ยวนี้ต่างคนต่างนั่งรถหรูของตัวเอง

เขารวยกันหมดแล้ว

ลุงเขาเข้าใจ ว่าเพื่อนๆ ต่างก็มีภาระของตัวเอง ไม่สะดวกมาดูแลเพื่อน

แต่นี่หรือคือรางวัลจากการทุ่มเทการงานในหน้าที่อย่างเต็มที่ของลุง

เสกสรร แสงจันทร์รุ่ง

 

จากข้อมูลของวิกิพีเดีย

อำนาจ ลูกจันทร์ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ เป้า คาราบาว

เข้าร่วมวงคาราบาว ในฐานะมือกลองและเพอร์คัสชั่นในปี พ.ศ.2526

ในชุด ท.ทหารอดทน อันเป็นอัลบั้มชุดที่ 4 ของคาราบาว (ผิดพลาดขออภัย)

นี่ถ้าหากลุงเป้าร่วมคาราบาวมาตั้งแต่ชุด “ลุงขี้เมา”

คงจะมีดราม่ากันอีกประเด็น

คือ “คาราบาวกรุ๊ป” กับสุราขาว “ตะวันแดง”

อันอาจมีคำถามตามมาว่า เวลาที่ต้องเล่นเพลง “ลุงขี้เมา”

จะบิวต์อารมณ์กันอย่างไร

คำถามนี้ก็คงทำนอง “เพื่อชีวิต” แล้ว “รวย”

ที่ถามแล้วมีโอกาสวงแตกสูง–

เราจะก้าวข้ามคำถามทำนองนี้เพื่อไปสู่การปรองดองและเข้าใจกันอย่างไร–แฮ่ม

 

ศิลปิน (2)

การที่มีดาราอาบน้ำโชว์กลางห้างสรรพสินค้า

ในฐานะอาจารย์ที่สอนวิชาความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility หรือ CSR) และ Soft Laws ในสถาบันอุดมศึกษาระดับปริญญาเอกและบัณฑิตศึกษา และเป็นผู้ประเมินค่าทรัพย์สินด้าน “แบรนด์” หรือยี่ห้อสินค้า

เห็นว่าการพยายามโฆษณาขายสินค้าด้วยการนำดารามาอาบน้ำโชว์ในห้างสรรพสินค้า เป็นสิ่งที่ไม่สมควร

ทำลายแบรนด์มากกว่าสร้างแบรนด์

การอาบน้ำในลักษณะนี้ ถ้าไม่ใช่การโฆษณา

เป็นการกระทำอนาจาร

ปกติคงไม่มีใครกระทำเยี่ยงนี้

การอาบน้ำโชว์เกิดขึ้นเมื่อ 13 กรกฎาคม ศกนี้ ณ ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง

เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทขายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและประทินผิวบริษัทหนึ่ง โดยเชิญดาราสาวสวยชื่อดังมาอาบน้ำดังกล่าว

การอาบน้ำโชว์นี้ได้รับการวิจารณ์ว่าไม่อลังการเท่าที่ควร มีกลิ่นอายลูกทุ่ง รวมทั้งการร้องเพลงก็ “ไม่ได้เรื่อง” เท่าที่ควร

อย่างไรก็ตาม ข้อวิจารณ์เหล่านี้อาจเป็นแค่กลยุทธ์ในการให้คนติดตามดูงานโฆษณาชิ้นนี้ก็เป็นไปได้

ความรับผิดชอบต่อสังคมนั้น แบ่งเป็น

1. ระดับที่กำหนดตามกฎหมาย (Hard Laws) เช่น กฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายอาคารและผังเมือง ฯลฯ

การไม่ทำตามถือเป็นการละเมิดต่อปัจเจกบุคคล กลุ่ม ชุมชน หรือความสงบสุขของสังคม ถือเป็นอาชญากรรม

องค์กรที่มี CSR ต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด การแสดงลักษณะ “อนาจาร” (แม้จะพยายามปิดป้องของสงวน) ย่อมหมิ่นเหม่ต่อข้อกฎหมาย

2. ระดับที่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณหรือจริยธรรม ซึ่งถือเป็น “ข้อกฎหมายอย่างอ่อน” (Soft Laws)

ข้อนี้หากไม่ปฏิบัติ อาจไม่ถึงขนาดติดคุก หรือถูกศาลสั่งปรับ

แต่อาจถูกพักใบอนุญาตหรือกระทั่งถูกไล่ออกจากวงการ ไม่สามารถประกอบอาชีพได้

ในกรณีนี้คนทำโฆษณา เจ้าของสถานที่ เจ้าของสินค้าควรมีจรรยาบรรณ

ไม่ใช่มุ่งแต่ค้ากำไรท่าเดียว

3. ระดับอาสาสมัคร เช่น เป็นผู้อุปถัมภ์ ผู้บริจาค ผู้อาสาทำดีในรูปแบบต่างๆ ทั้งต่อบุคคล กลุ่ม ชุมชนหรือสังคมโดยรวม

สิ่งเหล่านี้จะทำหรือไม่ก็ได้ ไม่ได้มีกำหนดไว้ แต่หากทำดี สังคมก็จะยกย่องและชื่นชม

การโฆษณาที่แท้ต้องชี้ให้เห็นว่า

1. สินค้าและบริการของเราดีกว่าคนอื่นอย่างไร

2. ราคาคุ้มค่ากว่าอย่างไร

3. มีหลักประกันที่ดีต่อผู้บริโภคอย่างไร

4. รักษาสิ่งแวดล้อมอย่างไร

5. มีจรรยาบรรณและส่งเสริมศีลธรรมอันดีงามอย่างไร

6. ไม่ฉ้อฉลหรือข้องแวะกับการฉกฉวยผลประโยชน์หรือไม่ทุจริตอย่างไร

ธุรกิจที่ดีจึงไม่ควร “ตีหัวเข้าบ้าน” ด้วยการโฆษณาหวังสร้างให้คนรู้จักโดยขาดความรับผิดชอบต่อการยั่วยุทางเพศ ขาดความรับผิดชอบต่อศีลธรรมจรรยาอันดีของสังคม

ดร.โสภณ พรโชคชัย

www.area.co.th

 

ขอ ยั่ว ให้ แย้ง

ด้วยข้อความในเว็บดังแห่งหนึ่ง ที่นำเสนอไว้ เป็นเหตุการณ์เดียวกัน

แต่คนละมุม

“…ทำเอาหนุ่มๆ ในงาน ต้องรีบหยิบกล้อง หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพเก็บช็อตเด็ดแบบรัวๆ กันเลยทีเดียว

เมื่อนางเอกสาวพันล้าน “ใหม่ ดาวิกา”

ลุกขึ้นมาคืนกำไรครั้งใหญ่ ด้วยการโชว์ลีลาลงอ่าง พร้อมอาบน้ำเล่นฟองสบู่กลางห้าง

ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าในส่วนของความขาวและความเนียนนั้น สาวใหม่เธอได้คะแนน 10 เต็ม 10 จริงๆ

เพราะนอกจากงานนี้จะจัดหนักเวอร์ชั่นชุดใหญ่ไฟกะพริบแล้ว ก็ยังถือได้ว่าการโชว์อาบน้ำครั้งนี้ เธอ สวยแซ่บ สตรอง ครองเวทีได้อยู่หมัดจริงๆ”

ในความชัง มีความชอบ

ดังไปรษณียบัตรของ

ผู้ใช้นามว่า “หวังดี”

กระแทกมายัง “ศิลปินแห่งชาติของมติชนสุดสัปดาห์”

ซึ่งก็ต้อง “หูหนัก-ใจหนัก” กันพอควร

โดยเฉพาะการตัดสินคน ระหว่าง “เหมารวม” กับ “พิจารณาเป็นกรณีๆ ไป”

อันไหนจะเข้าท่ากว่ากันหนอ

เรา “เหล่ามุ่งกระแทกกลาง” บ่ฮู้ (ฮา)