ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของ “คาร์ม็อบ”ที่นำโดย”สมบัติทัวร์”ในวันที่ 1 สิงหาคม ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของ #ม็อบ7สิงหาคม ที่กลุ่มฟื้นฟูประ ชาธิปไตยร่วมกับเยาวชนปลดแอก

เป้าหมายอยู่ที่ “ทำเนียบรัฐบาล” เป้าหมายอยู่ที่การร้องตะโกน “ออกไป ออกไป”ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

สถานการณ์เดือนสิงหาคมจึงร้อนระอุขึ้นโดยอัตโนมัติ

การเคลื่อนไหวของ”คาร์ม็อบ”ได้ผ่านระยะแห่งการซ้อมใหญ่ใน ลักษณะอุ่นเครื่องไปแล้วโดยสิ้นเชิง และกำหนดนัดหมายวันที่ 1 สิงหาคมจึงทรงความหมายเป็นอย่างสูง

ไม่เพียงแต่เป็นการสรุปจาก”คาร์ม็อบ” 2 ครั้งที่ผ่านมา หากแต่ยังเป็นการสรุปความจัดเจนจากการเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันจากหัวเมืองใหญ่อย่างเชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา

เพียงแต่ครั้งใหม่คำขวัญเด่นชัดคือ ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม

คำว่า”กรุงโรม”ในที่นี้ความหมายยังหมายอยู่ที่กรุงเทพมหานครไม่แปรเปลี่ยน และนั่นก็คือ”ทำเนียบรัฐบาล”

และเป้าหมายนี้เน้นย้ำอีกคำรบหนึ่งจาก#ม็อบ7สิงหาคม

 

ขณะที่”คาร์ม็อบ”มิได้ถือเอาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเหมือนกับเมื่อ 2 ครั้งที่ผ่านมา หากแต่ถือเอาถนนวิภาวดีมาเป็นจุดแห่งการรวมพล ไม่ว่าจะมาจากทางเหนือ ตะวันตก ตะวันออกหรือทางใต้

นี่คือการไหลของขบวนแห่งรถเหมือนกับการไกลของแม่น้ำหลายสาย ปิง วัง ยม น่าน จนกลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา

ความจัดเจนจากการเคลื่อนไหว 2 ครั้งทำให้”สมบัติทัวร์”ดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ ปล่อยให้แต่ละกลุ่มตัดสินใจร่วมกันโดยอัตโนมัติ

นี่ย่อมดำเนินไปเหมือนกับ#ม็อบ7สิงหาคม อันสะสมความจัดเจนในการเคลื่อนไหวมาอย่างต่อเนื่องจากเดือนกรกฎาคม 2563

กลายมาเป็นบทเรียนอันอุดมสมบูรณ์ในเดือนสิงหาคม 2564

 

สถานการณ์ในเดือนสิงหาคมจึงเป็นสถานการณ์ที่กังวานแห่งเสียงร้องตะโกน”ออกไป ออกไป”ดังกระหึ่มในขอบเขตทั่วประเทศและดำ เนินไปอย่างมีลักษณะรวมศูนย์

นั่นก็คือ รวมศูนย์ไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ท่ามกลางการแวดล้อมที่เริ่มมีการคลายตัวจากพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ เด่นชัดขึ้นเป็นลำดับ

จากความผิดพลาดและล้มเหลวในการต่อสู้กับ”โควิด”