ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ | ระวัง! แผนเปิดประเทศ เปลี่ยนประเทศไทย เป็นคลัสเตอร์

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์www.facebook.com/sirote.klampaiboon

ข่าวเรื่องคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา มีแผนยุบสภาดังสนั่นทำเนียบและสภาอย่างน่าตกใจ และถึงแม้จะไม่มีใครรู้ว่าต้นกำเนิดของข่าวนี้มาจากไหน

ข่าวนี้กลายเป็น “กระแส” ที่รุนแรงจนสื่อถามให้รองนายกฯ ทุกคนตอบมาแล้วทั้งสิ้น ยกเว้นรองนายกฯ ที่ไม่ค่อยมีใครเห็นหัวนักอย่างคุณดอน ปรมัตถ์วินัย

“กระแส” ยุบสภาสะท้อนว่าคนอึดอัดกับรัฐบาล และบรรยากาศทางการเมืองทั้งในและนอกสภาก็ชี้ชัดว่าคนที่อึดอัดกับรัฐบาลมีมากขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ว่าจะในรูปการติดตามการอภิปรายงบประมาณของฝ่ายค้าน, การวิจารณ์ความห่วยของคุณประยุทธ์เรื่องโควิด หรือคุณจตุพร พรหมพันธุ์ ประกาศชุมนุมไล่รัฐบาล

เมื่อใดที่ประชาชนพูดถึงการยุบสภา เมื่อนั้นประชาชนกำลังแสดงออกถึงความต้องการเปลี่ยนตัวผู้มีอำนาจโดยวิธีทำให้อำนาจผู้นำเก่ายุติลงด้วยการยุบสภา ถึงแม้ผลของการยุบสภานั้นอาจเป็นได้ทั้งได้ผู้นำใหม่หรือได้นายกฯ คนเก่ากลับมาอีกครั้งก็ตาม

คุณประยุทธ์ไม่ใช่นายกฯ คนแรกที่ประชาชนอึดอัดจนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง

แต่คุณประยุทธ์เป็นนายกฯ คนแรกในรอบหลายปีที่เกิดกระแสนี้โดยหาคนสนับสนุนให้อยู่ในตำแหน่งต่อแทบไม่ได้ หากไม่นับคุณโบ้และคนแบบเดียวกันในพลังประชารัฐ, ในทำเนียบ และสื่อที่เกาะคุณประยุทธ์หากิน

พูดแบบรวบรัดที่สุด คนที่สนับสนุนให้คุณประยุทธ์เป็นนายกฯ คือคนที่ได้ผลประโยชน์ทางใดทางหนึ่งจากตำแหน่งนายกฯ ของคุณประยุทธ์ แต่ข้อเท็จจริงคือมีคนกลุ่มน้อยมากเมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่ที่ไม่รู้สึกว่าคุณประยุทธ์ทำอะไร

จึงไม่มีเหตุผลที่ควรจะเป็นนายกฯ ต่อไปอีกแม้แต่วันเดียว

คุณประยุทธ์เป็นนายกฯ ที่อ้างว่าตัวเองขยันทำงาน แม้กระทั่งในการชี้แจงต่อวุฒิสภาที่คุณประยุทธ์ตั้งขึ้นเพื่อเลือกตัวเองเป็นนายกฯ คุณประยุทธ์ก็ประกาศว่าทำเพื่อประชาชนตลอดเวลาแม้แต่ในยามฝัน ต่อให้คนไทยจะรู้กันทั้งประเทศว่าคุณประยุทธ์เป็นนายกฯ ที่ไม่ทำงานในวันเสาร์-อาทิตย์เลยก็ตาม

ตรงข้ามกับนายกฯ ในอดีตและ ส.ส.ที่เสาร์-อาทิตย์คือวันลงพื้นที่พบประชาชน คุณประยุทธ์มองวันเสาร์-อาทิตย์เป็นวันพักผ่อนในบ้านหลวงริมถนนวิภาวดีกับหมาและลูก-เมียเท่านั้น ถึงแม้จะเกิดเรื่องใหญ่อย่างประกันสังคม-หมอพร้อม-ไทยร่วมใจ เลิกฉีดวัคซีนประชาชนในต้นเดือนที่ผ่านมาก็ตาม

ขณะที่คุณประยุทธ์อวยตัวเองว่าทำเพื่อประชาชนแม้ในความฝัน ความจริงคือคุณประยุทธ์ไม่ดูดายประชาชน

ศบค.ไม่ทำอะไรเลยเพื่อหยุดปัญหาเลิกฉีดวัคซีนผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงในช่วงวันที่ 11-13 มิถุนายน เช่นเดียวกับไม่ทำอะไรเมื่อเกิดวิกฤตใหญ่ในวันหยุด ขนาดทหารกราดยิงที่โคราชช่วงปีกลาย

เจ็ดปีที่คุณประยุทธ์ยึดประเทศ คือเจ็ดปีที่ชีวิตคนเกือบเจ็ดสิบล้านผ่านไปแบบสูญเปล่า

การประชาสัมพันธ์ผลงานตัวเองเต็มไปด้วยงานประจำ, งานเก่าจากอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร หรืองานก่อสร้างที่นายกฯ คนไหนก็ทำได้ แต่ไม่มีอะไรเลยที่เป็นสัญลักษณ์ว่าคุณประยุทธ์มีผลงานเพื่อประชาชนจริงๆ

คุณประยุทธ์เชื่อว่าตัวเองเก่งอยู่คนเดียว จนเชื่อว่าการที่ตัวเองกินรวบประเทศเป็นผลประโยชน์ของทุกคน อดีตรองนายกฯ อย่าง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เคยเขียนบันทึกว่าคุณประยุทธ์หลงตัวเองมากแบบที่ไม่เคยพบเคยเห็น

ทั้งที่ผลลัพธ์ซึ่งคุณประยุทธ์สร้างให้กับประเทศนั้นไม่มีอะไรให้คิดแบบนั้นได้เลย

ประเทศไทยหลังปี 2562 เผชิญภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ-วิกฤตโควิด-วิกฤตการเมือง และไม่ว่าต้นตอของแต่ละวิกฤตจะคืออะไร วิธีที่คุณประยุทธ์เลือกแก้ปัญหาได้แก่การรวบอำนาจไว้ที่ตัวเองมากขึ้น

และยิ่งคุณประยุทธ์รวบอำนาจมากขึ้น วิกฤตทุกวิกฤตยิ่งเดินทางสู่หายนะที่นับวันมีแต่จะเลวลง

เมื่อคนส่วนใหญ่ในประเทศไม่ยอมรับคุณประยุทธ์จนเลือกฝ่ายตรงข้ามคุณประยุทธ์เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล คุณประยุทธ์ใช้ ส.ว.ที่ตั้งเองมายึดตำแหน่งนายกฯ เป็นของตัวเองไม่รู้จบ จากนั้นเครือข่ายคุณประยุทธ์ยุบอนาคตใหม่, ดำเนินคดีเด็ก รวมทั้งเตะถ่วงการแก้รัฐธรรมนูญมาจนปัจจุบัน

เมื่อประเทศเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ คุณประยุทธ์ตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจจนประเทศหายนะอย่างที่รู้กัน และเมื่อประเทศไทยเผชิญโควิด คุณประยุทธ์ก็ตั้งตัวเองเป็นประธาน ศบค.นานหนึ่งปีกว่า จากนั้นก็ตั้งตัวเองเป็นประธาน ศบค.กรุงเทพฯ

แต่สถานการณ์โควิดไม่มีอะไรดีขึ้นเลย

เจ็ดปีที่คุณประยุทธ์มีอำนาจ คือเจ็ดปีซึ่งคุณประยุทธ์คนเดียวคุมทำเนียบ, คุมวุฒิสภา, คุมทหาร, คุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, คุมเศรษฐกิจ และคุมการแก้ไขปัญหาโควิด แต่ทุกเรื่องที่คุณประยุทธ์คุม คือมีคุณประยุทธ์นั่งหัวโต๊ะในการประชุมโดยไม่มีใครตอบได้เลยว่าผลงานคุณประยุทธ์คืออะไร

คุณประยุทธ์คิดแบบทหารว่าการบริหารที่ดีคือ Single Command หรือรวมศูนย์สั่งการ แต่กองทัพไทยในรอบสี่สิบปีนี้รบแต่กับประชาชนและกลุ่มติดอาวุธที่มีขนาดเล็กกว่าหลายเท่า วิธีบริหารแบบทหารจึงไม่มีหลักฐานว่าประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะในสนามรบจริงๆ หรือในสนามการเมือง

เฉพาะในวิกฤตโควิด การออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อรวมศูนย์อำนาจทุกอย่างไว้ที่คุณประยุทธ์ในนาม ศบค. ส่งผลให้ประเทศไทยเผชิญการระบาดระลอกแล้วระลอกเล่าอย่างไม่สิ้นสุด ผู้ติดเชื้อทะลุสองแสน คนตายใกล้ถึงสองพัน

และเรื่องที่ไม่ควรเป็นเรื่องอย่างการฉีดวัคซีนก็ยังตั้งหลักไม่ได้เลย

ด้วยการบริหารที่คุณประยุทธ์เป็นศูนย์กลาง ประเทศไทยจัดสรรวัคซีนไปสู่ประชาชนผ่านสามขาหลักคือ หมอพร้อม, ประกันสังคม และไทยร่วมใจ

แต่สามกลไกกลับเปิดศึกแย่งชิงวัคซีนกันเองจนแต่ละกลไกต้องสลับกันเลิกฉีดวัคซีนวุ่นไปหมด ส่วน ศบค.ของคุณประยุทธ์ไม่มีบทบาทอะไรเลย

หมอพร้อมคือกลไกที่กระทรวงสาธารณสุขเปิดให้ผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนก่อนทุกคน คนกลุ่มนี้ลงทะเบียนตั้งแต่ 1 พฤษภาคม แต่พอถึง 12 มิถุนายน ศบค.กลับปล่อยให้ประกันสังคมของรัฐมนตรีแรงงานและไทยร่วมใจของผู้ว่าฯ กทม.เอาวัคซีนไปฉีดคนที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงอย่างไม่มีเหตุผลเลย

แน่นอนว่าปัญหาการแย่งชิงวัคซีนเกิดจากวัคซีนมีไม่พอ แต่ขณะที่ชาวบ้านทุกคนเข้าใจว่าวัคซีนที่มีจำกัดควรให้กลุ่มเสี่ยงซึ่งลงทะเบียนก่อนคนอื่นที่สุด คุณประยุทธ์และผู้มีอำนาจที่เป็นพวกคุณประยุทธ์กลับดึงวัคซีนไปให้ประชากรวัยทำงานซึ่งลงทะเบียนหลังกลุ่มอื่นอย่างไม่ควรเกิดขึ้นเลย

ความมั่วในการบริหารวัคซีนสะท้อนความเหลวแหลกของระบบรวมศูนย์ใต้คุณประยุทธ์ แม้ตอนนี้การตัดสินใจที่โง่เขลาจะยุติลงเพราะเสียงด่าดังก้องทั้งแผ่นดิน แต่ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าความเขลาแบบนี้จะไม่ปรากฏในกรณีอื่น ไม่ว่าจะเป็นกรณีโควิด, เศรษฐกิจ หรือเรื่องการเมือง

คุณประยุทธ์สร้าง “ระบอบประยุทธ์” ที่ไม่ฟังคนส่วนใหญ่ในประเทศเลย

คนที่คุณประยุทธ์ฟังคือคนที่คุณประยุทธ์ชี้ให้พูด และด้วยวิสัยของคนแบบคุณประยุทธ์ คนที่จะได้รับการชี้ให้พูดคือคนที่คุณประยุทธ์เห็นว่าเป็นพวกเดียวกันเท่านั้นเอง

โดยปกติแล้วผู้นำที่ไม่ฉลาดอาจชดเชยความด้อยปัญญาของตัวเองด้วยการมีกุนซือหรือลูกน้องที่ดี แต่ผู้นำแบบคุณประยุทธ์ไม่มีทั้งกุนซือและลูกน้องที่ดีจน “ระบอบประยุทธ์” จะนำประเทศไปสู่หายนะในเรื่องใหญ่แทบทุกเรื่อง เพราะเป็นระบอบที่คนส่วนน้อยซึ่งเขลานั้นไม่ฟังคนส่วนใหญ่เลย

ยิ่งนึกถึง “ระบอบประยุทธ์” ก็ยิ่งเห็นว่าทุกองคาพยพในระบอบเต็มไปด้วยคนด้อยคุณภาพซึ่งอยู่ในทำเนียบ, พรรคพลังประชารัฐ, วุฒิสมาชิก, องค์กรอิสระกลุ่มลิ่วล้อ, อาจารย์นิด้ากลุ่มเกาะประยุทธ์ ฯลฯ

โดยทั้งหมดรังเกียจประชาธิปไตยจนกลายเป็นระบอบที่ประชาชนเป็นเพียงคนใต้ปกครอง

เจ็ดปีของระบอบประยุทธ์คือห้วงเวลาที่ประเทศตกต่ำลงเหวซึ่งลึกไม่สิ้นสุด ความถดถอยที่ผ่านมาเป็นเรื่องเศรษฐกิจหรือการเมือง แต่ในสถานการณ์วิกฤตโควิดแบบนี้ ความถดถอยทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่มีใครควรอยู่ภายใต้ระบอบนี้อีกต่อไป

คนไทยเสียชีวิตและล้มละลายในรอบสองปีนี้เพราะนายกฯ ปัญหา พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่เป็นแค่ปัญหาเรื่องการเลือกระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย แต่คือปัญหาเรื่องการเลือกว่าคนไทยจะอยู่ในประเทศที่ไม่มีอนาคตไปอีกเกือบทศวรรษ หรือจะเดินหน้าสู่สังคมที่อนาคตดีกว่าปัจจุบัน

ทุกวันที่คุณประยุทธ์รวบอำนาจนานขึ้นคือทุกวันที่คนไทยเสี่ยงติดเชื้อ, เสี่ยงตาย, เสี่ยงเจ๊ง และเสี่ยงมีชีวิตที่เลวลงอย่างที่เห็นกันมาตลอดเจ็ดปี

ไม่มีผู้นำสติดีที่ไหนด่าหมอว่าฉีดวัคซีนเร็วจนวัคซีนขาดอย่างที่ระบอบประยุทธ์และพวกทำกับประเทศไทย