ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 4 - 10 มิถุนายน 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ |
ผู้เขียน | หนุ่มเมืองจันท์ |
เผยแพร่ |
ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ
หนุ่มเมืองจันท์ / www.facebook.com/boycitychanFC
นวัตกรรม ‘ทำบุญ’
เวลามีคนพูดถึง “นวัตกรรม”
ส่วนใหญ่ตัวอย่างที่ยกมาจะเป็นสินค้าใหม่ที่ “ว้าว” มากๆ
ไม่ว่าจะเป็น “ไอโฟน” ของ “สตีฟ จอบส์”
รถยนต์ไฟฟ้า “เทสล่า” ของ “อีลอน มัสก์”
หรือ “เน็ตฟลิกซ์”
ตัวอย่างแบบนี้ดีมาก แต่คิดหรือทำตามยาก
โดยเฉพาะนักธุรกิจเอสเอ็มอีที่ไม่มีเงินทุนหรือเชี่ยวชาญเทคโนโลยีใหม่ๆ มากนัก
ฟังดู “ว้าว” แต่สุดเอื้อม
ผมจะชอบตัวอย่างง่ายๆ ที่ไม่ได้ประดิษฐ์ใหม่ แต่พลิกมุมคิดนิดเดียว
กลายเป็นสินค้าที่ขายดี
“ว้าว” และเอื้อมถึง
อย่างเช่น สินค้า 2 ตัวใน “เซเว่น-อีเลฟเว่น”
ตัวแรกคือ “แบรนด์ซุปไก่”
สมัยก่อน “แบรนด์” จะเป็นสินค้าแบบเดียวกับไวน์แพงๆ
คือ คนซื้อไม่ได้กิน คนกินไม่ได้ซื้อ
เป็นสินค้าของฝากยอดนิยม
คนจะซื้อ “แบรนด์” ไปเยี่ยมคนป่วย
หรือเป็นของขวัญให้ผู้ใหญ่ช่วงปีใหม่
“แบรนด์” จะขายดีในซูเปอร์มาร์เก็ต
และขายเป็นแพ็กใหญ่
ไม่มีขายปลีกเป็นขวดๆ
ผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งของ “เซเว่น-อีเลฟเว่น” เป็นคนที่ชอบดื่ม “แบรนด์” แช่เย็นตอนเช้า
โดยเฉพาะคืนไหนที่สังสรรค์หนัก
ตอนเช้าต้อง “แบรนด์” เย็นๆ
บางวันไม่ได้กินมาจากที่บ้าน
เดินลงไป “เซเว่น-อีเลฟเว่น” ก็ไม่มีขาย
เขาเลยให้ลูกน้องลองเอาแบรนด์มาขายเป็นขวด
แช่เย็นให้เห็นชัดๆ ที่เคาน์เตอร์เลย
ปรากฏว่ามีคนทดลองชิมเยอะมาก
เพราะภาพลักษณ์ของ “แบรนด์” เป็นสินค้าสุขภาพอยู่แล้ว
เพียงแต่จะให้ซื้อทดลองเป็นแพ็ก ราคาหลายร้อยบาท
ไม่มีใครซื้อไหว
แต่พอขายปลีกเป็นขวดแช่เย็นพร้อมดื่ม
คนก็ทดลอง
ทดลองแล้วติดใจ
ขายดีมาก
กลายเป็นช่องทางขายใหม่ของ “แบรนด์” ไปเลย
สินค้าตัวเดิม เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบการขายและช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่
ขายปลีกเป็นขวดและแช่เย็นพร้อมดื่ม
ในร้านสะดวกซื้อ
แค่นั้นก็ขายดีขึ้นมาเลย
สินค้าอีกตัวหนึ่งที่ถือว่า “เซเว่น-อีเลฟเว่น” กล้าบุกเบิกมาก
“กล้วยหอม” ครับ
เป็นสินค้าพื้นๆ ที่ดูแล้วงงๆ ว่าทำไม “เซเว่น-อีเลฟเว่น” จึงนำมาขายในร้าน
วันนี้เป็นสินค้าที่ขายดีมาก
“กล้วยหอม” เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูงในเวลาที่รวดเร็ว
นักกีฬาหรือนักร้องดังๆ บางคนเขาจะกิน “กล้วยหอม” ช่วงพัก
กัดคำสองคำแล้วดื่มน้ำตาม
แต่ปัญหาก็คล้ายๆ กับ “แบรนด์”
คือ ถ้าซื้อตามตลาด เขาจะขายเป็นหวี
แต่เราไม่ได้อยากกินหลายมื้อหรือหลายวัน
เราอยากกินแค่ลูกเดียว
ถ้าซื้อจากตลาด ส่วนใหญ่จะเหลือทิ้ง
ซื้อทีไรก็เสียดายทุกครั้ง
การนำ “กล้วยหอม” มาขายเป็นลูก
…โดนมาก
ซื้อมากินรองทอง เป็นของหวาน หรือเป็นอาหารเช้าแบบรีบด่วน
ขายลูกละ 9 บาท
เพียงแค่เปลี่ยนจากขายเป็น “หวี” มาขายเป็น “ลูก”
ขายดีขึ้นทันที
ทั้งที่คำนวณแล้วราคาแพงกว่าซื้อเป็น “หวี” อีก
“ราคา” จึงไม่ใช่ตัวกำหนด
สินค้าอะไรก็ตามขอให้อยู่ให้ถูกช่องทางก็ขายได้
ตอนนี้ “เซเว่น-อีเลฟเว่น” ขายกล้วยหอมได้วันละเกิน 1 แสนลูก
เป็นสินค้าขายดีของเขา
เฉพาะกลุ่มสหกรณ์การเกษตรท่ายาง เพชรบุรี ที่เริ่มบุกเบิกมากับ “เซเว่น-อีเลฟเว่น” รายเดียวก็ขายได้วันละ 50,000 ลูกแล้ว
พลิกชีวิตไปเลย
สำหรับผม หรือ “แบรนด์” หรือ “กล้วยหอม” ใน “เซเว่น-อีเลฟเว่น” เป็นตัวอย่างที่เอื้อมถึง
เอามาคิดต่อยอดกับธุรกิจตัวเองได้
อีกคนหนึ่งที่ถือเป็นสุดยอดนักคิดที่ผมชอบมาก
“บก.ลายจุด” หรือ “สมบัติ บุญงามอนงค์”
ก่อนที่จะมีบทบาททางการเมือง เขาทำงานเอ็นจีโอมายาวนาน
โดยเฉพาะมูลนิธิกระจกเงา ที่มีภาระหลักคือช่วยเหลือเด็กที่สูญหาย
วันนี้เขาก็ยังทำอยู่
เวลาที่เกิดปัญหาอะไรขึ้นมา มูลนิธิกระจกเงาจะเข้าไปช่วยเหลือแบบคิดละเอียด
เช่น การแจกถุงยังชีพให้ชาวบ้าน ของในถุงยังชีพแต่ละเหตุการณ์ก็ไม่เหมือนกัน
น้ำท่วมแบบหนึ่ง
ตอนช่วงโควิดก็อีกแบบหนึ่ง
หรือการใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือคนยากจน
“บก.ลายจุด” จะเขียนเรื่องคนที่เดือดร้อนในเฟซบุ๊กของเขา
ถ้าใครอยากช่วย หลังไมค์มาขอเบอร์บัญชี
พอได้เงินบริจาคมากพอก็จะปิดรับบริจาค
ไม่ให้เยอะเกินไป
ง่ายๆ แบบนี้เลยครับ
หรือที่ผมชอบมากก็คือ แทนที่จะระดมทุนเป็น “เงิน” เพียงอย่างเดียว
เขาเห็นโอกาสจากโลกทุนนิยมเรื่องการสะสมแต้ม
คนซื้อเยอะ ก็จะได้คะแนนเยอะ
เอา “คะแนน” ไปเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า หรือแลกสินค้าต่างๆ ได้
แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจ จะทิ้งแต้มเยอะมาก
เขาขอบริจาค “แต้ม” ครับ
เอาไปซื้อของมาให้คนที่เดือดร้อน
อย่างเช่น เวลาเราซื้อของจาก “เซเว่น-อีเลฟเว่น”
ถ้าเป็นสมาชิก “ออลล์เมมเบอร์” แค่บอกเลขสมาชิกเราก็จะได้แต้ม
เอาไว้แลกซื้อของได้
ผมเชื่อว่ามีคนจำนวนมากไม่ได้ใช้แต้มนี้
หรือบางคนก็ขี้เกียจสมัครเป็นสมาชิกออลล์เมมเบอร์
“สมบัติ” เขาขอบริจาคครับ
เปลี่ยนแต้มเหล่านี้เป็น “อาหารสำหรับเด็ก”
ตอนนี้เวลาผมซื้อของที่เซเว่น-อีเลฟเว่น
พอเด็กในร้านถามเบอร์ “ออลล์เมมเบอร์”
ผมจะบอกเบอร์ของมูลนิธิกระจกเงา
06-3931-6340
พอได้แต้มมาพอสมควร มูลนิธิกระจกเงาจะเอาคะแนนนี้ไปแลกเป็นของ
ล่าสุดที่ลงรูปในเพจ
เขาตระเวนแลกนมกล่องจากร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นได้เป็นคันรถเลย
เป็นกองทุนน้ำนมเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ประสบภัยโควิด-19
ผมเชื่อว่าคงมีเด็กเป็น 100 คนที่ได้ 1 อิ่มจากนมกล่อง
อย่าลืมนะครับ
เข้าเซเว่น-อีเลฟเว่นเมื่อไร
ให้ท่องเลขนี้ไว้
06-3931-6340
จะเป็นการซื้อของที่มีความสุขมาก
เพราะได้ทำบุญ
นึกภาพเด็กเล็กๆ คนหนึ่งกำลังได้ดื่มนมกล่องจากการซื้อของใน “เซเว่น-อีเลฟเว่น” ของเรา
แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
เป็น “นวัตกรรม” การทำบุญที่ดีมากเลยครับ
แค่บอกเลข 10 ตัว
06-3931-6340