ของดีมีอยู่ : คำทำนายของ อ.เกษียร เตชะพีระ / ปราปต์ บุนปาน

 

ของดีมีอยู่ / ปราปต์ บุนปาน

 

พื้นที่คอลัมน์ “ของดีมีอยู่” สัปดาห์นี้ ขออนุญาต “รีเพลย์” เนื้อหาบางส่วนจากบทสัมภาษณ์เก่าของ “ศ.ดร.เกษียร เตชะพีระ” แห่งคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่สนทนากับทีมข่าวมติชนทีวีตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม 2563 หรือช่วงการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ในระลอกแรก

ซึ่งส่องสะท้อนมาถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดขั้นรุนแรงของ “โควิด-19” ณ เดือนเมษายน 2564 ได้อย่างแหลมคม

ดังรายละเอียดต่อไปนี้

 

“เราเลยได้เห็นวิกฤตความไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งมัน perfect storm มันบวกกัน ก็คือวิทยานิพนธ์ของท่านเสียไปแล้ว อดีตผู้ว่าฯ ธวัช มกรพงศ์ ที่ทำเรื่อง 2475 บอกการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เกิดขึ้นในภาวะที่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เดิมเจอวิกฤตสองเรื่องทับซ้อนกัน

“คือ crisis of legitimacy วิกฤตความชอบธรรม… crisis of efficiency ประสิทธิภาพในการบริหารบ้านเมือง เพราะวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกปี 1929-1930 กระทบกับเศรษฐกิจประเทศไทย ข้าวราคาตก รายได้จากการส่งออกตก ต้องดุลข้าราชการออก ดังนั้น เมื่อไหร่ที่วิกฤตชอบธรรมกับวิกฤตไร้ประสิทธิภาพมาประกบกัน อันตราย!

“แล้วผมคิดว่าเราได้เห็นอันนี้แหละต้นปีนี้ เริ่มเห็นชัดต้นปีนี้ เนี่ยคือสิ่งที่รัฐบาลกำลังเผชิญ แล้วพอเจอวิกฤตเข้า ต้องบริหารงานวิกฤตเข้า เราเห็นธาตุแท้ของนักบริหารของรัฐบาล ว่าทำอะไรได้แค่ไหน ก็ทำอะไรไม่เป็นเลย…

“ไวรัสโคโรนาเนี่ยมันติดได้ ต่อให้คุณสนับสนุนลุงตู่นะครับ… นึกออกไหม? มันไม่เลือกหน้าคน แล้วแบบมันก็อีกไม่กี่จุดเท่านั้นแหละ ที่คุณจะต่อจุดได้ว่า เออแล้วที่แม่งมาถึงบ้านเราเนี่ยเพราะว่ามันบริหารเฮงซวย…

“คือผมคิดว่ามี คนที่คิดว่าลุงตู่ยังเป็นความหวังที่จะรักษาอดีต ที่ไม่เหลืออยู่แล้วนะครับ อดีตที่เขาอยากได้จบไปแล้ว มันมีแต่ซากอดีตที่เขารักษาไว้ด้วยอำนาจ เขากำลังกอดซากอดีตที่อยู่ด้วยอำนาจบังคับ แล้วคิดว่ามันคืออดีต ไม่ใช่แล้ว

“แล้วยิ่งเขากอดซากอดีตที่ถูกบังคับให้อยู่ไว้ได้ด้วยอำนาจไปนานเท่าไหร่ อนาคตยิ่งมาช้าเท่านั้น การปรับตัวเพื่อรับมืออนาคตยิ่งล่าช้าออกไปเท่านั้น เพราะคนที่มีความสามารถที่สุดหรือมีแนวโน้มที่สุดที่พร้อมจะรับมือปรับเปลี่ยนเพื่ออนาคตได้ ถูกซากอดีตเหล่านี้ทำลายขัดขวาง

“ที่คุณอยากรักษา คุณรักษาไว้ไม่ได้แล้ว คุณไม่เข้าใจเหรอ? มันจบไปแล้ว แล้วในกระบวนการที่คุณพยายามจะรักษามัน คุณกำลังขวางการที่คุณจะรับมือกับอนาคตที่กำลังมา ในภาวะปกติคุณอาจจะไม่เห็นอันนี้เท่าไหร่ แต่ตอนนี้คุณจะเห็น

“เพราะอนาคตที่กำลังจะมาเนี่ยมันรวมไวรัสโคโรนาด้วย ไม่กี่เดือนก่อน ผมไม่คิดหรอกว่ามันจะมี เราคิดว่า 20 ปีข้างหน้าราบรื่น เหมือนปีแรกของ 20 ปี บ้า! คุณรู้ได้ยังไง?

“แล้วพอมันมาถึง ผมคิดว่า ผมเห็นหน้า พล.อ.ประยุทธ์ตอนนี้นะครับ อย่าว่าแต่ 20 ปีเลย ผมว่าแกอยู่อีกไม่กี่เดือน แกคงไม่ไหวแล้ว… ก็น่าสงสารนะครับ แกลุกไม่ได้ แกไม่ได้รับอนุญาตให้ลุก แกมัดตัวเองกับเก้าอี้ไว้แน่นเกินไป แกมัดเองด้วยนะ แกมัดเองด้วย 250 ส.ว. รัฐธรรมนูญนี้ออกแบบมาเพื่อพวกเรา มัดซะแน่นเลย

“คือเป็นคนอื่น โดนด่าขนาดนี้ ผมคิดว่าพอแล้ว ขอเก็บชีวิตไว้แบบสงบๆ บ้าง ก็เลยลุกออกไปนะครับ ปลีกตัวออกไป แกลุกไม่ได้ แกมัดตัวเองไว้กับเก้าอี้แน่นเกินไป คนเขาด่ามา เพราะแกไร้ประสิทธิภาพ แกจะทำให้ตัวเองมีประสิทธิภาพ แกก็ทำไม่ได้ แกก็ต้องรับคำด่าไปทุกวันๆๆ ใจแกก็แย่ลงๆๆ น่าสงสารนะ…”

 

ดูเหมือนในปี 2563 รัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยเครือข่ายอำนาจรัฐ-อำนาจทุน จะสามารถฟันฝ่าวิกฤตที่อาจารย์เกษียรวาดเอาไว้มาได้อย่างฉิวเฉียดทุลักทุเล

แต่ในปี 2564 นี้ละ “รัฐบาลประยุทธ์” จะสามารถเอาตัวรอดจากวิกฤตเก่าที่หวนย้อนกลับมาด้วยอัตราความรุนแรงยิ่งกว่าเดิม ได้หรือไม่?