E-DUANG : สภาวะ ระส่ำระสาย การเมือง ภายใน ขุนพล “ประชาธิปัตย์”

ทำไมจึงมีการปล่อยข่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์อาจจับมือกับพรรคเพื่อไทยเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่เข้าแทนที่รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เพราะต้องการดึงพรรคประชาธิปัตย์ให้ยังคงอยู่กับรัฐบาล หรือ เพราะต้องการทำลายพรรคประชาธิปัตย์

เรื่องนี้ต้องเริ่มจากคนที่มีบทบาทในการ”มโน”ข่าวนี้

หากดูจากตัวละครของพรรคประชาธิปัตย์ที่เข้าไปตอบโต้ทั้งอย่างนุ่มนวลและด้วยความเผ็ดร้อน ไม่ว่าจะเป็น นายเทพไท เสน เนียม ไม่ว่าจะเป็น นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ

สะท้อนให้รับรู้ได้เลยว่า ตัวละครเหล่านี้ตกเป็น”เหยื่อ”ของนักปล่อยข่าว เนื่องจากการสร้างภาพว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะหวนกลับมายึดพรรค

แม้ว่าการระบุว่าจะมีการต่อสายไปเชื่อมกับ”คนแดนไกล”จะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ เหมือนกับการส่งคนไปยึดพรรคก้าวไกล

กระนั้น ความเหลือเชื่อก็ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ถึงกับต้องส่ง”โฆษก”ออกมาแสดงบทบาทด้วยความหวาดกลัวเป็นอย่างสูง

 

ความหวาดกลัวซึ่งบรรดาแต่ละ”ตัวละคร”ของพรรคประชาธิปัตย์แสดงออกนั้น ไม่เพียงแต่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ถอยห่างจากลักษ ณะ”เสรีนิยม”ซึ่งเคยประกาศเท่านั้น

หากแต่ยังทำให้ถลำลึกลงไปในปลักแห่งการต้องผูกติดอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างยากที่จะถอนตัวออกมาได้

ทั้งๆที่ในความเป็นจริง พรรคประชาธิปัตย์เล่นบทของ”นักฉวย โอกาส”ทางการเมืองมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นในการรัฐประหาร 2490 ไม่ว่าจะเป็นในสถานการณ์พฤษภาคม 2535

อย่าลืมเป็นอันขาดว่าหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2490 พรรคประชาธิปัตย์ก็เล่นบทเป็น”สมิงพระราม”อาสาเข้าไปเป็นรัฐบาล

และสโลแกน”จำลองพาคนไปตาย”ก็เกิดขึ้นเมื่อปี 2535

ยิ่งกว่านั้นการเล่นละครหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ก็ยังจำหลักหนักแน่นอยู่กับความรับรู้ของชาวบ้าน

 

ความหวาดกลัวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะหวนกลับมายึดคืนตำ แหน่งหัวหน้าพรรค ก่อให้เกิดอาการผวาอย่างหนักในพรรคประชาธิ ปัตย์ยุค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์

กระทั่งตกเป็น “เหยื่อ” ของการมโนทางการเมืองโดยลูกแหล่งตีนมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างน่าใจหาย