กองทัพพม่าจัดฉลองวันกองทัพ ด้วยการสวนสยามแสดงแสนยานุภาพ ท่ามกลางการปราบปรามอย่างรุนแรงกับผู้ประท้วงในวันเดียวกันตายแตะ 60 ราย ‘เคเอ็นยู’ โชว์ฝีมือยึดค่ายกองทัพรัฐบาลทหาร

วันที่ 27 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา สำนักข่าว รอยเตอร์ และสื่อออนไลน์ท้องถิ่นอย่าง เมียนมานาว ได้รายงานสถานการณ์การประท้วงต้านรัฐประหารเนื่องในวันกองทัพเมียนมาว่า ผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนออกมาเดินบนถนนตามเมืองต่างๆ รวมถึงเมืองมัณฑะเลย์ และนครย่างกุ้ง แม้ว่าโทรทัศน์จะประกาศเตือนห้ามแล้วเพราะอาจเสี่ยงถูกยิงเข้าที่ศีรษะและหลัง

โดยวันนี้ ทัตมะดอว์ หรือกองทัพพม่าได้จัดพิธีสวนสนามที่กรุงเนปิดอว์เพื่อแสดงแสนยานุภาพของกองทัพ ในขณะที่กองกำลังความมั่นคงเมียนมายิงสังหารประชาชนทั่วประเทศวันเดียวอย่างน้อย 91 ราย ใน 40 เมืองทั่วประเทศ นับเป็นอีกวันนองเลือดที่สุดตั้งแต่การยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ. มากกว่าก่อนหน้านี้คือวันที่ 3 มี.ค. ที่ประชาชนถูกสังหาร 38 ราย ส่งผลให้พลเรือนถูกสังหารทั้งหมดตั้งแต่วันแรกทะลุ 400 รายแล้ว

ในจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 64 ราย มาจากเมืองมัณฑะเลย์ 13 ราย รวมถึงเด็กชายอายุเพียง 5 ขวบ มาจากนครย่างกุ้ง 3 ราย รวมถึงนักฟุตบอลทีมท้องถิ่นรุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปี (ยู-21)

มาจากเมืองมยี่นชาน 2 ราย ซึ่งนายตู ยา ซอ ผู้ประท้วงคนหนึ่งบอกว่า “พวกเราถูกฆ่าเหมือนนกและไก่ แม้กระทั่งในบ้านของเรา เราจะประท้วงต่อไปไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไร…เราต้องสู้จนกว่ารัฐบาลทหารจะพ่ายแพ้”

นอกจากนี้ มีผู้บาดเจ็บจำนวนหนึ่ง รวมถึงเด็ก 1 ขวบ ในนครย่างกุ้ง ถูกยิงกระสุนยางเข้าที่ดวงตาข้างขวา

วันเดียวกัน สถานทูตสหรัฐฯประจำนครย่างกุ้ง รายงานบนทวิตเตอร์เกิดเหตุยิงที่อาคารศูนย์วัฒนธรรมสหรัฐอเมริกาในนครย่างกุ้ง แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน

เคเอ็นยูอยู่ข้างประชาชน

ขณะที่ ช่วงเช้ามืด แหล่งข่าวกองทัพกู้ชาติไทยใหญ่ SSA รายงานว่า กองพลน้อยที่ 5 KNU หรือ กองกำลังทหารกะเหรี่ยงอิสระ ได้ปฏิบัติการทางทหารเข้าโจมตี ยึดฐานที่มั่นของทหารพม่า สังกัดกองพันทหารราบที่ 73 (ฐานเซหมื่อท่า) เลยแมนือท่าไปประมาณ 2 กม. ตรงข้ามชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

โดยทหารกะเหรี่ยงอิสระ สามารถยึดอาวุธ ยุโธปกรณ์ และอุปกรณ์สื่อสารของทหารพม่าได้เป็นจำนวนมาก

แหล่งข่าวเคเอ็นยู เปิดเผยว่า ว่า การสู้รบดังกล่าว มีทหารเมียนมาหนีไปได้หลายคน แต่ทางเคเอ็นยู สามารถยึดฐานที่มั่นของทหารพม่า และอาวุธยุทโธปกรณ์ ได้เป็นจำนวนมาก อาทิ เช่น อาวุธปืนกล อาวุธปืนประจำกาย ปืนพกสั้น ปืนค.ขนาดต่างๆ ซองกระสุนปืน กระสุนอาร์พีจี.แผงโซล่าเซล และยุทโธปกรณ์อื่น ๆ อีกมากมาย

ยิงกระสุนยางใส่เด็กเล็ก

สำนักข่าว Myanmar Now รายงานผ่านทวิตเตอร์ ว่า มีเด็กวัย 1 ปี ในย่างกุ้ง ถูกยิงเข้าที่ดวงตา ด้วยกระสุนยางขณะที่เขากำลังเล่น โดยผู้ยิงคือกองกำลังติดอาวุธของรัฐบาลทหารเมียนมา ทั้งนี้ ในวันนี้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 60 คนทั่วประเทศ

นับตั้งแต่ รัฐประหาร ผู้ประท้วงออกไปตามท้องถนนเกือบทุกวัน ประชาชนเชื่อว่า การชุมนุมประท้วงจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยในเมียนมาได้ แม้จะเป็นไปอย่างเชื่องช้าและมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นก็ตาม

“วันกองทัพเมียนมาไม่ใช่วันกองทัพหรอก แต่เป็นเหมือนวันที่ทหารจะทำการสังหารผู้คน” “ถ้าพวกเขายังคงยิงใส่ผู้ประท้วงและรังแกประชาชน ฉันคิดว่ากลุ่มชาติพันธุ์ทั้งหมดจะไม่ยืนเฉยหรือไม่ทำอะไรเลย” นายพลยอว์ด เซิร์ก ประธานสภาบูรณะรัฐฉาน-กองทัพรัฐฉานใต้ กล่าวกับ รอยเตอร์

ขณะที่ ถั่น มินอู นักเขียนและนักประวัติศาสตร์ ไว้ใน ทวิตข้อความ ผ่าน ทวิตเตอร์ ว่า “รัฐที่ล้มเหลวในเมียนมา มีศักยภาพที่จะดึงเอาประเทศมหาอำนาจทั้งหมดรวมทั้งสหรัฐฯจีนอินเดียรัสเซียและญี่ปุ่นในลักษณะที่อาจนำไปสู่ความร้ายแรง วิกฤตการณ์ระหว่างประเทศ (เช่นเดียวกับภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่กว่าในเมียนมาร์เอง”

การสู้รบครั้งนี้ ถือว่า เป็นการสู้รบครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง นับแต่การเจรจาหยุดยิง เพราะหลังจากการรัฐประหารที่ผ่านมา มีชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่ม ไม่พอใจการกระทำของ พล.อ.มินอ่อง หล่าย หัวหน้าคณะรัฐประหาร

สำหรับค่ายดังกล่าวตั้งอยู่ลึกจากบริเวณทูมวยทะ ตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย ต้องนั่งเรือหางยาวเป็นเวลา 4 ชั่วโมง ซึ่งที่มั่นทหารเมียนมา อยู่ใกล้กับกองบัญชาการกองพลที่ 7 ทำให้ฝ่ายเคเอ็นยู ต้องจัดการยึดพื้นที่ไว้ก่อน

ก่อนหน้านั้นวันที่ 25 มี.ค. ทหารกะเหรี่ยงอิสระ เคเอ็นยู ได้ปฏิบัติการทางทหารต่อทหารพม่า สังกัดกองพันเคลื่อนที่เร็ว ที่ 341 ฐานตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย ที่เคยเข้ามารับข้าวสารจากไทยที่บ้านแม่สามแลบ โดยทางกลุ่มได้ทำการซุ่มโจมตีทหารพม่ากองพันดังกล่าว เสียชีวิตไป 3 นาย และบาดเจ็บอีก 2 นาย