รายงานพิเศษ

 

ทัพไทย โยนหิน แผนส่งออก

ทหารม้า เสือป่า ‘บิ๊กไก่’ ชิงปลัดกลาโหม

แก้ปม เจอเสือข้ามห้วย เสียบยอด

จับตา ‘เสธ.เอี่ยว’ ข้ามฟาก

กองทัพคึกคักผสมคุกรุ่นตั้งแต่โผโยกย้ายทหารกลางปีที่ผ่านมา เพราะเริ่มมีแรงกระเพื่อมรับการโยกย้ายใหญ่ตุลาคม ที่จะเริ่มจัดโผกันราวกรกฎาคม-สิงหาคม

เพราะนอกจากจะมีการเปลี่ยน ผบ.เหล่าทัพที่จะเกษียณแล้ว ยังจะมีทั้งการวางตัว ผบ.เหล่าทัพในอนาคต

โดยเฉพาะเก้าอี้ปลัดกลาโหม ที่โผโยกย้ายนี้รู้กันดีแล้วว่า ทบ.จะส่งบิ๊กหน่อย พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ เสธ.ทบ. ข้ามมาเป็นปลัดกลาโหม แทนบิ๊กณัฐ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ เพื่อนเตรียมทหาร 20 ที่จะเกษียณ

แต่มีกระแสข่าวถึงปลัดกลาโหมที่จะมาต่อจาก พล.อ.วรเกียรติ ที่จะเกษียณกันยายน 2565 กันแล้ว

แม้จะรู้กันดีในกลาโหมว่า มีการวางตัวบิ๊กหนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสธ.ประจำ รมว.กลาโหม ลูกรักของบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ ไว้เป็นปลัดกลาโหม โดยโผตุลาคมนี้จะขยับขึ้นรองปลัดกลาโหม จ่อเอาไว้ก่อน

แต่ด้วยเพราะ พล.อ.สนิธชนกมีอายุราชการถึงกันยายน 2568 และเป็น ตท.24 จึงมีข่าวว่าจะมีนายทหารรุ่นพี่มาเป็นปลัดกลาโหมขัดตาทัพก่อน

ข่าวที่สะพัดใน บก.กองทัพไทยคือ จะมีการส่งบิ๊กไก่ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เสนาธิการทหาร ข้ามห้วยมาชิงเก้าอี้ปลัดกลาโหมก่อน 1 ปี

ทั้งนี้เพราะบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด เห็นว่า พล.อ.สุพจน์เป็นนายทหารที่มีความสามารถ แถมมีดีกรีนักรบเหรียญรามา และยังเป็นทหารม้าด้วยกัน

อีกทั้งที่ผ่านมา ตั้งแต่เป็นรองเสธ.ทหาร และจนมาเป็นเสธ.ทหาร ก็ช่วยงาน พล.อ.เฉลิมพลอย่างเต็มที่ รวมทั้งในหมวกของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ที่มี พล.อ.เฉลิมพลเป็นหัวหน้า ใต้ร่มของ ศบค. ร่วมแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด

ที่สำคัญที่สุดคือ พล.อ.สุพจน์เคยเป็นนายทหารใน บก.กองทัพไทย ที่เคยถูกวางตัวให้เป็น ผบ.ทหารสูงสุดมาก่อนหน้านี้

 

แต่ทว่าทาง ทบ. โดยบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองเลขาธิการพระราชวัง ที่ในเวลานั้นเป็น ผบ.ทบ. และ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 (ฉก.ทม.รอ.904) ส่ง พล.อ.เฉลิมพลจาก ทบ. ข้ามห้วยมาเป็นเสนาธิการทหาร และขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ที่เป็น “ทหารคอแดง” คนแรก

จึงทำให้ พล.อ.สุพจน์หมดโอกาสที่จะเป็น ผบ.ทหารสูงสุด เพราะเกษียณกันยายน 2566 พร้อม พล.อ.เฉลิมพล

และที่สำคัญที่สุด จากนี้ไป ดูเหมือนว่านายทหารที่จะเป็น ผบ.ทหารสูงสุดได้จะต้องเป็นนายทหารคอแดงด้วย แต่ พล.อ.สุพจน์ไม่ใช่ทหารคอแดงของ ฉก.ทม.รอ.904

ดังนั้น พล.อ.เฉลิมพลจึงต้องการที่จะชดเชยให้ พล.อ.สุพจน์ด้วยการส่งมาเป็นปลัดกลาโหม เพราะเป็นรุ่นพี่ ตท.22 ส่วน พล.อ.สนิธชนก ตท.24 และอายุราชการยังเหลือหลายปี รอได้

ที่ผ่านมา ตำแหน่งปลัดกลาโหมมักจะเป็นโควต้าของนายทหารที่มาจาก ทบ. สลับกับคนในกลาโหม ไม่ค่อยมีจาก บก.กองทัพไทย ที่ข้ามมาจ่อหรือข้ามมาเสียบ

ตรงกันข้าม ที่ผ่านมา บก.กองทัพไทยต้องเปิดตำแหน่งให้นายทหารจาก ทบ.ข้ามมาโตปีละหลายคน แถมเป็นการมาเสียบยอดในตำแหน่งสำคัญเสียด้วย

โดยเฉพาะตั้งแต่ พล.อ.เฉลิมพล ที่จะเป็น ผบ.ทหารสูงสุดคอแดงคนแรก และนั่งยาวยันเกษียณกันยายน 2566

และได้เห็นกันแล้วว่า พล.อ.เฉลิมพลก็ดึงตัวบิ๊กบุ๋ม พล.ต.สุวิทย์ บุตรศรี จากรองแม่ทัพภาคที่ 1 ข้ามมาเป็นรอง ผบ.วิทยาลัยเสธ.ทหาร แล้วก็ได้ขยับขึ้นเป็นพลโทในตำแหน่งผู้บัญชาการศูนย์ต่อต้านก่อการร้าย (ศตก.) ในโผล่าสุด

ที่ถูกมองว่าเข้าไลน์ เตรียมต่อคิวเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดต่อจาก พล.อ.เฉลิมพลที่เกษียณกันยายน 2566 ได้เลย เพราะเป็นน้องรักทหารม้า แถมเป็นทหารม้าคอแดงเช่นกัน

ไม่แค่นั้น ในโผล่าสุดนี้ ที่มีการดึงนายทหารจาก ทบ.มาหลายคน รวมทั้งการดึงตัวเสธ.เอี่ยว พล.ต.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว (ตท.26) รอง ผอ.สำนักบูรณาการและขับเคลื่อนการปฏิบัติ ปร.มน. จาก ทบ. มาเป็นผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บัญชาการทหารสูงสุด ติดยศพลโท และถูกมองว่าเตรียมเข้าไลน์ขึ้นเป็นเจ้ากรมยุทธการทหาร รองเสนาธิการทหาร และเสนาธิการทหารเพื่อจ่อขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุดในอนาคต โดยมีอายุราชการถึงกันยายน 2571

แม้ตอนนี้จะไม่ใช่นายทหารคอแดง แต่ในอนาคตก็จะมีการฝึกหลักสูตรทหารรักษาพระองค์ ของ ฉก.ทม.รอ.904 เพิ่มขึ้น ก็สามารถที่จะเข้าฝึกหลักสูตรและกลายเป็นทหารคอแดงได้เช่นกัน

เพราะในเร็วๆ นี้จะมีการฝึกนายทหารคอแดง และนายทหารราชองครักษ์เพิ่มเติม

ชื่อชั้น ว่าที่ พล.ท.ณัฐพงษ์นี่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นน้องรักมือขวาของบิ๊กหนุ่ย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี เมื่อครั้งที่ยังอยู่ในกองทัพบก และเคยเป็นผู้ช่วยทูตทหารบก ประจำกรุงปารีส ฝรั่งเศส

และหลังการรัฐประหาร คสช. 22 พฤษภาคม 2557 เสธ.เอี่ยว ว่าที่ พล.ท.ณัฐพงษ์ก็ไปทำหน้าที่เลขานุการของ พล.อ.ดาว์พงษ์ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ที่สำคัญคือ เป็นที่รับรู้กันว่า ว่าที่ พล.ท.ณัฐพงษ์คนนี้ยังเป็นคีย์แมนคนสำคัญในระดับมันสมองของการรัฐประหาร คสช. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ ที่ตอนนั้นเป็น ผบ.ทบ. เป็นผู้นำ

ด้วยเหตุที่มีการส่งนายทหารจากกองทัพบกมาเติบโตในกองบัญชาการกองทัพไทยกันมากขึ้นๆ และมาเสียบยอดโดยเฉพาะ จึงเป็นการปิดเส้นทางการเจริญเติบโตของนายทหารลูกหม้อกองทัพไทย

ส่งผลให้นายทหารหลายคนที่เคยเป็นดาวรุ่ง เป็นแคนดิเดต ผบ.ทหารสูงสุด ต้องทำใจและมองตาปริบๆ เมื่อเห็นนายทหารจาก ทบ.มายึดเก้าอี้สำคัญในกองทัพไทย

เช่นนี้จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่จะหาทางชดเชยให้นายทหารในกองทัพไทย

และเป็นที่มาของกระแสข่าวการส่ง พล.อ.สุพจน์มาชิงเก้าอี้ปลัดกลาโหมในอนาคต

แม้ว่า พล.อ.สนิธชนกจะสามารถขึ้นเป็นปลัดกลาโหมในโยกย้ายตุลาคม 2565 ได้เลย เพราะจะนั่งยาว 3 ปีเหมือน พล.อ.ณัฐ เพราะจะทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

แต่เรื่องการเปิดโควต้าปลัดกลาโหมให้นายทหารเหล่า ทบ.ในกองบัญชาการกองทัพไทย จึงยังคงถูกจับตามองในอนาคต

เพราะเก้าอี้ปลัดกลาโหมถูก ทบ.ยึดมาต่อเนื่องยาวนาน นานๆ ครั้งที่เหล่าทัพอื่นจะได้นั่งปลัดกลาโหม

ยิ่งในเวลานี้มีบิ๊กเฒ่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย รองปลัดกลาโหม ถือเป็นรองปลัดกลาโหมที่อาวุโสสุดในกลาโหม สามารถขึ้นเป็นปลัดกลาโหมแทน พล.อ.ณัฐได้

แต่เพราะเป็นทหารเรือ จึงไม่มีพลังมากพอที่จะต่อรอง แม้ว่า พล.อ.ณัฐจะเป็นเพื่อน ตท.20 กับทั้ง พล.ร.อ.สมประสงค์ และบิ๊กอุ้ย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร. แต่ก็อาจมีลูกเกรงใจ

แต่กลับกลายเป็นว่า กลาโหมอาจจะส่ง พล.ร.อ.สมประสงค์กลับไปชิงเก้าอี้ ผบ.ทร.ในปีสุดท้ายก่อนเกษียณ

แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ พล.ร.อ.สมประสงค์จะเป็นเพื่อนรักของ พล.ร.อ.ชาติชายก็ตาม แต่ พล.ร.อ.สมประสงค์นั้นออกจาก ทร.มาหลายปีแล้ว

ที่สำคัญคือ มีแคนดิเดตคนใน ทร.อยู่ถึง 3 คน ทั้งเสธ.โต้ง พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ (ตท.21) เสนาธิการทหารเรือ และผู้ช่วยโต๊ะ พล.ร.อ.ทรงวุฒิ บุญอินทร์ (ตท.22) ผช.ผบ.ทร.

และโดยเฉพาะบิ๊กปู พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ (ตท.22) ผบ.กองเรือยุทธการ ที่มาแรง เกษียณกันยายน 2566 แถมมีพลัง ตท.22 รุ่นของบิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. แบ๊กอัพอีกด้วย

แต่ พล.ร.อ.ชาติชายยังไม่ตัดสินใจเลือกใคร แต่จะดูจากการทำงานไปอีกสัก 2-3 เดือน

เพราะอีกไม่กี่เดือน ผบ.เหล่าทัพก็เตรียมจัดทัพแล้ว เค้าลางความวุ่นวายรออยู่เบื้องหน้า