ก้าวไกล อัด ‘จับกัง1’ จัดม็อบชนม็อบหน้าสภา ตีแผ่บริหารเหลวรอบด้าน ปล่อยแรงงานเถื่อน แพร่โควิดซ้ำ

ก้าวไกล อัด ‘สุชาติ’ ล้มเหลว ใช้งบกว่า 2 หมื่นล้าน จัดโครงการจ้างงาน ได้แค่ 7,000 คน ทั้งบกพร่องปล่อยแรงงานเถื่อน ทำโควิดแพร่ระบาด ซ้ำลูกน้องจัดม็อบชนม็อบหน้าสภา

เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 17 ก.พ. 2564 น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า เมื่อนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เข้ารับตำแหน่ง มีโครงการแก้ปัญหาการจ้างงาน 2 โครงการ คือ โครงการการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำคัญผู้จบการศึกษาใหม่ และโครงการ Job Expo โครงการการส่งเสริมการจ้างงานใหม่ที่มีการตั้งเป้าหมาย 260,000 คน ใช้งบประมาณกว่า 2 หมื่นล้านบาท เพื่อกระตุ้นการจ้างงานให้คนจบใหม่ โดยรัฐช่วยผู้ประกอบการออกเงินเดือน แต่ก็ล้มเหลว เพราะจ้างงานได้เพียง 7,000 คนเท่านั้น จากนั้นก็กดค่าแรงในช่วงวิกฤต ประกาศยกเลิกเงินเดือนตามวุฒิการศึกษา และให้เจรจากันเอง ซึ่งค่าแรงตามวุฒิก็แทบไม่พอกินอยู่แล้ว

น.ส.วรรณวิภา กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการ Job Expo ที่โม้ว่าจะมีคนเข้าร่วมโครงการ 1 ล้านตำแหน่ง แต่มีคนเข้าไปสมัครเพียง 134,000 ครั้งเท่านั้น จึงไม่คุ้มค่าใช้จ่ายในการจัดงานเลย มิหนำซ้ำงานจากหน่วยงานรัฐเองที่มาประกาศหาในครั้งนี้ ก็กดขี่ค่าแรงเสียเอง ให้เงินเดือนเพียง 5,000 บาทต่อเดือน ชัดเจนว่าขัดต่อกฎหมายคุ้มครองแรงงาน สัญญาจ้างเพียง 12 เดือน เรียกว่าสัญญาทาส เพราะไม่ได้รับสวัสดิการอะไรเลย ถ้าท่านตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้จะรู้ว่าการมีงานมั่นคงมีค่ามากแค่ไหน หากมีงานนี้รอบหน้า เปิดแค่ตำแหน่งเดียวพอ คือรมว.แรงงาน

น.ส.วรรณวิภา กล่าวอีกว่า ในส่วนของเงินกองทุนประกันสังคม พอมีปัญหา กลับลดเงินจ่ายสมทบ ไม่ยอมจ่ายโปะคืน การกระทำเช่นนี้ ทำให้กระทบต่อกองทุนประกันสังคมโดยตรง แรงงานไม่รู้ว่าจะได้รับบำนาญหรือไม่ ทั้งที่จ่ายเงินสมทบทุกเดือน นอกจากนี้ มีการลดเงินประกันสังคมตลอด 3 ครั้ง ทำให้เสียรายได้เกือบ 7 หมื่นล้านบาท ความเสียหายจากกองทุนประกันสังคม กระทรวงแรงงานนำเงินประกันสังคมมาใช้รวมแล้ว 8 หมื่นล้านบาท ยังไม่คิดจะจ่ายเงินคืนให้กองทุนประกันสังคม เป็นการซ้ำเติม เพราะรัฐบาลมีหนี้ค้างจ่ายในส่วนนี้ ทั้งหนี้เก่าหนี้ใหม่กว่า 1.8 แสนล้านบาท

“ปัญหาแรงงานข้ามชาติลักลอบเข้าเมือง สาเหตุเกิดจาก รมว.แรงงาน ทำงานบกพร่อง ประมาท ทำให้แรงงานผิดกฎหมายเฟื่องฟู กลายเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ จากตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร นำมาสู่การแพร่ระบาดไวรัสโควิด ยังไม่เคยเห็นการแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนให้เพียงพอ หากทำให้ถูกกฎหมายมีขั้นตอนมากมาย มีค่าใช้จ่ายสูง ประกอบด้วย ต้องได้รับหนังสือรับรองหนังสือแพทย์ มีวีซ่า มีการตรวจควบคุมโรค กักกันตัว ค่าใช้จ่าย 2-3 หมื่นบาทต่อคน ขั้นตอนนำเข้ามาก็ยุ่งยาก ต้องใช้เอกสารมากมาย ไม่แปลกใจทำให้เกิดการค้ามนุษย์ ที่ค่าใช้จ่ายไม่สูงเท่านี้”

น.ส.วรรวิภา กล่าวอีกว่า เชื่อว่าหลายคนไม่อยากเป็นแรงงานเถื่อน ไม่รู้ว่า รมว.แรงงาน ไม่รู้ไม่เห็นหรือแกล้งไม่เห็นกันแน่ ความผิดพลาดนายสุชาติ ทำให้ประเทศอยู่ในภาวะถดถอย แม้ต่อมาจะนิรโทษกรรมแรงงานเถื่อนให้ลงทะเบียนถูกกฎหมาย 1 เดือน เพื่อให้เกิดการตรวจโควิด ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็เกิดข่าวนายจ้างลอยแพลูกจ้าง นำแรงงานไปปล่อยทิ้ง ตัวเลขแรงงานเถื่อนที่ลักลอบมาอาจสูงถึง 2 ล้านคน จะทำอย่างไรต่อ แรงงานข้ามชาติเป็นคนเหมือนกับเรา ในฐานะรมว.แรงงาน กลับไม่ดูแรงงานกลุ่มนี้ให้มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหมือนคนไทย

น.ส.วรรณวิภา กล่าวต่อว่า ในการชุมนุมหน้าสภาฯ เมื่อวันที่ 17.พ.ย.63 มีข่าวว่า นายสุชาติ ขนม็อบเสื้อเหลืองมาชนม็อบ ตกค่ำมีการใช้อาวุธปืนยิง โดยคนที่นำม็อบมา เป็นทั้งทีมงานในสำนักงานส.ส. เป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัวรัฐมนตรีของท่านใช่หรือไม่ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ที่ทุกวันนี้กระบวนการยุติธรรมล่าช้า เพราะเป็นคนของรัฐมนตรีใช่หรือไม่ และท่านก็สนับสนุนใช้ความรุนแรง ไม่ทำงานตัวเอง นำมาสู่การจัดงานแรงงานล้มเหลว บกพร่องต่อการทำหน้าที่ จึงไม่อาจไว้วางใจให้นายสุชาติ เป็นรัฐมนตรีต่อไปได้