สารคดีโควิด-19 สัมภาษณ์หมออู่ฮั่น ย้อนเวลา “ถูกปิดปาก” ห้ามพูดความจริงการระบาด

วันที่ 18 มกราคม 2564 เมโทร นำเสนอตัวอย่างของสารคดี การระบาด: ไวรัสที่เขย่าโลก (Outbreak: The Virus That Shook The World) ที่จะออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ไอทีวี (ITV) ของอังกฤษ ในวันที่ 19 ม.ค. เวลา 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

รายการบอกเรื่องราวทั่วโลกในปีแรกที่มีการระบาดของ โควิด-19 เปิดเผยหลักฐานใหม่เกี่ยวกับไวรัสโคโรนา 2019 ที่ชี้ว่า จีนปกปิดการระบาดของโควิด-19 และสัมภาษณ์เป็นการลับกับทีมแพทย์ที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐปิดปากจากการพูดความจริง

ข้อมูลทางการจีนที่รั่วไหลออกมาเผยว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันเป็นรายแรกที่เมืองอู่ฮั่น สามารถติดตามย้อนกลับไปถึงวันที่ 17 พ.ย. 2562 ต่อมา ปลายเดือนธ.ค. 2562 จำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลป่วยด้วยโรคปอดบวมโดยไม่สามารถอธิบายได้เพิ่มขึ้นๆ และผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ค้นพบ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่คล้ายคลึงกับ กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือ ซาร์ส ในตัวอย่างสารคัดหลั่งของผู้ป่วย

ข้อความกลุ่มของแพทย์แพร่กระจายออกไปพร้อมกับข่าวการระบาดของไวรัสชนิดใหม่ แต่แล้วทีมแพทย์ถูกเรียกประชุมตามโรงพยาบาลทั่วเมืองอู่ฮั่น

แพทย์คนหนึ่งเผยกับรายการว่า “เรารู้ว่าไวรัสชนิดนี้ติดต่อจากคนสู่คน แต่เมื่อเราเข้าร่วมการประชุมที่โรงพยาบาล เราได้รับแจ้งว่าห้ามพูดออกมา อีกทั้ง บรรดาผู้นำมณฑลอู่ฮั่นบอกโรงพยาบาลต่างๆ อย่าพูดความจริง”

แม้จะมีความเสี่ยงถูกจับกุม แต่ทีมแพทย์เปิดเผยถึงการถูกปิดปาก รวมถึงถูกยึดหนังสือเดินทาง และจำกักการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต

บรรดาแพทย์รู้เรื่องการระบาดถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติควบคุมตัว เนื่องจากกำลังจะขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางออกนอกประเทศ นอกจากนี้ สื่อทางการจีนรายงานเตือนตอนนั้นว่า “ตำรวจจะจัดการกับการปล่อยข่าวลือที่ผิดกฎหมาย”

แม้ว่ารัฐบาลจีนจะไม่แจ้งการระบาดของโควิด-19 ตอนแรก และต่อมา องค์การอนามัยโลก ค้นพบการระบาดดังกล่าว แต่จีนยังไม่เปิดเผยหลักฐานการติดต่อจากคนสู่คน

แพทย์คนหนึ่งบอกกับสารคดีว่า “หลายคนบอกว่าไม่มีการติดต่อจากคนสู่คนในระยะแรก รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากกรุงปักกิ่ง ทั้งหมดบอกตรงกัน”

ส่วนแพทย์อีกคนเสริมว่า “เราทุกคนรู้สึกว่าไม่ควรมีข้อสงสัยใดๆ ถึงการติดต่อจากคนสู่คน จริงๆ แล้ว ปลายเดือนธ.ค. 2562 หรือต้นเดือนม.ค. 2563 ญาติพี่น้องของบางคนที่ฉันรู้จักเสียชีวิตด้วยไวรัสชนิดนี้ หลายคนที่อยู่อาศัยกับคนนั้นได้รับเชื้อด้วย รวมถึงคนที่ฉันรู้จัก”

รัฐบาลจีนเคยระบุว่า ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตกระทั่งวันที่ 9 ม.ค. 2563 แต่แพทย์อาวุโสคนหนึ่งให้สัมภาษณ์รายการว่า “มีผู้เสียชีวิตทุกวันในช่วงวันแรกๆ”

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อ้างตอนนั้นว่า พรรคคอมมิวนิสต์ดำเนินการด้วยความเปิดกว้าง โปร่งใส และรับผิดชอบต่อการระบาด แต่ทีมแพทย์เชื่อว่า เจ้าหน้าที่รัฐใช้วิทยาศาสตร์เพื่อประโยชน์การเมืองเป็นการฉุกเฉิน เนื่องจากไม่ต้องการประกาศข่าวร้ายเพียงก่อนการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งบอกว่า “หากทางการจีนเห็นว่า การระบาดเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องการเมือง จะง่ายกว่านี้มาก แต่หากมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว ไม่ต้องพิจารณาเรื่องอื่นอีก การเมืองมักมาก่อนเสมอ”

แม้จะมีการเปิดเผยหลักฐานการติดต่อจากคนสู่คนแล้ว แต่เทศกาลตรุษจีนปีที่แล้วไม่มีการยกเลิก สร้างความตกใจต่อเหล่านักวิทยาศาสตร์ที่เกรงกลัวว่าจะกลายเป็นปรากฏการณ์ ซูเปอร์สเปรดดิง ขนาดใหญ่ หรือการระบาดในหมู่คนจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2563 สื่อทางการจีนรายงานให้ความมั่นใจกับประเทศว่า “ครึ่งเดือนหลังการประกาศและการเปิดเผยข้อมูลการระบาดอย่างเป็นทางการ เราสามารถเริ่มผ่อนคลายได้ และชัดเจนว่าไม่พบการแพร่เชื้อจากคนสู่คน”

อย่างไรก็ตาม 4 วันต่อมา หรือวันที่ 20 ม.ค. 2563 นพ.จง หนานซาน อายุ 84 ปี ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินหายใจชั้นนำของจีน แพทยศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเอดินบะระ ของอังกฤษ แถลงทางโทรทัศน์เฉพาะกิจว่า “มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่ไวรัสติดต่อจากสัตว์ป่าสู่คน แต่ตอนนี้ดูจะมีแต่การติดต่อจากคนสู่คน” ภายใน 3 วันถัดมา มีคำสั่งล็อกดาวน์เมืองอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ย์

แม้ว่าจุดเริ่มต้นการระบาดใหญ่จะผ่านมาแล้ว 1 ปี ทีมแพทย์ที่ให้สัมภาษณ์รายการอ้างว่า การบังคับปกปิดความจริงยังมีอยู่ แม้จะหยุดล็อกดาวน์ไปแล้ว

“ตอนนี้ที่โรงพยาบาล เมื่อเราต้องการใช้อินเตอร์เน็ต จะต้องผ่านเซิร์ฟเวอร์ภายในก่อน และคุณต้องใช้คอมพิวเตอร์จะจัดสรรให้ มิฉะนั้น คุณจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลใดได้ เป็นวิธีการตรวจสอบคุณและดูว่าคุณกำลังทำอะไร

“ก่อนหน้านี้ หากเราต้องการข้อมูลเกี่ยวกับอาการป่วยต่างๆ สามารถค้นหาทางออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย แต่เราไม่สามารถทำแบบนี้ได้อีกแล้ว เราสามารถแค่ค้นหาข้อมูลภายในแผนกของเราเท่านั้น เนื่องจากพวกเขา (เจ้าหน้าที่รัฐ) กังวลว่า หากเรามีข้อมูลจะสามารถบอกคนอื่นได้” แพทย์คนหนึ่งกล่าว

นอกจากนี้ กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหาทางการจีนยังพยายามปกปิดขนาดที่แท้จริงของวิกฤตไวรัสโคโรนา เนื่องจากประชาชนยังถูกควบคุมตัวหรือจำคุก หรือแม้แต่หายตัวไป หลังพยายามค้นหาสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เช่น จาง จ่าน นักข่าวพลเมืองหญิงชาวจีน อายุ 37 ปี ถูกตัดสินจำคุก 4 ปี เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2563 ในข้อหาเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19