กัมปนาทแห่งระเบิดอันกึกก้องขึ้นในระหว่างการเคลื่อนไหวที่สามย่าน มิตรทาวน์ เท่ากับเป็นสัญญาณอันแหลมคมยิ่งในทางการเมือง

“เตือน”ให้เห็นความจำเป็นต้อง”ปรับ”รูปขบวน

ความจริง สัญญาณเช่นนี้เคยเตือนมาแล้วจากสถานการณ์หลังการชุมนุมใหญ่บริเวณหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ย่านรัชโยธิน เมื่อเกิดการขว้างระเบิด เกิดการยิงตามมา

สัญญาณนั้นเองนำไปสู่การทบทวนครั้งใหญ่ว่าจะบริการจัดการกับ”การ์ด”ที่มีอยู่มากมายอย่างไรจึงจะดำเนินไปอย่างมีระบบมีกระบวนการ

และทางเลือกของ “ราษฎร” ในขณะนั้นก็คือ การยุบการ์ดที่มีอยู่ทั้งหมด ความหมาย 1 ก็เพื่อที่จะจัดรบบใหม่ ความหมาย 1 ก็เพื่อที่จะตรวจสอบการดำรงอยู่ของการ์ด

นั่นก็คือ บทเรียนที่สำคัญและนำไปสู่การแยกตัวเป็นเอกเทศของการ์ดในแต่ละกลุ่มเพื่อนำไปสู่การทบทวนครั้งใหญ่

แต่แล้วก็เกิดการขว้าง”ระเบิด”ตามมาภายในการเคลื่อนไหวระดับ “ย่อย”

 

ตัวอย่างหนึ่ง คือ การขว้างระเบิดเข้าใส่การชุมนุมเพื่อปิ้งย่างกุ้งเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรนากุ้ง ตัวอย่างหนึ่ง คือ การขว้างระเบิดเข้าใส่การชุมนุมมวลชน ณ สามย่านมิตรทาวน์

แม้ในปฏิบัติการขว้างระเบิดเข้าใส่การชุมนุมปิ้งย่างที่ถนนราชดำเนินจะยังไม่สามารถจับกุมมือระเบิดได้

กระนั้น จากคำแถลงของกองบัญชาการตำรวจนครบาลก็ระบุว่ากรณีการขว้างระเบิดที่สามย่านมิตรทาวน์นั้นรู้เบาะแสแล้วว่ามาจากกลุ่มใดเพียงแต่รอการรวบรวมหลักฐานเพื่อจับกุมเท่านั้น

ไม่ว่าจะเรียกว่ามือที่ 3 หรืออย่างไรก็ตาม แต่การเกิดขึ้นของการขว้างระเบิดเข้าใส่ที่ชุมนุม ตลอดจนการสาดกระสุนเข้าใส่ผู้ชุมนุม ก็ถือได้ว่าเป็นสัญญาณที่ไม่พึงประสงค์ในทางการเมือง

สะท้อนว่ามีผู้ประสงค์ร้ายหรือมีเจตนาอื่นดำรงอยู่

การดำรงอยู่ของกลุ่มคนเหล่านี้และมีปฏิบัติการของตนอย่างต่อเนื่องเท่ากับเป็นจุดทำให้การเคลื่อนไหวนำไปสู่สภาพบานปลาย

 

กล่าวสำหรับผู้ชุมนุม ไม่ว่าจะเป็น”เยาวชนปลดแอก”เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 หรือในการเคลื่อนไหวในนาม”ราษฎร”ในเดือนธัน วาคม ก็ยืนยันแนวทางสันติ สงบ ปราศจากอาวุธอย่างมั่นแน่ว

การเบียดแทรกเข้ามาของระเบิด การเกิดปรากฏการณ์สาดกระสุนเข้าใส่จึงถือได้ว่าต้องการเบี่ยงเบน แทรกแซง