ในประเทศ / NEWS WAR

ในประเทศ

 

NEWS WAR

 

หลังจากที่นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม

นำผู้ประกาศข่าวเนชั่นทีวี อาทิ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายสันติสุข มะโรงศรี, นายกนก รัตน์วงศ์สกุล, นายธีระ ธัญไพบูลย์, นายวรเทพ สุวัฒนพิมพ์, นายสถาพร เกื้อสกุล และ น.ส.อุบลรัตน์ เถาว์น้อย ลาออกจากเนชั่น เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

พร้อมกับระบุว่า จะยกทีมไปอยู่สถานีโทรทัศน์นิว 18 โดยจะออกอากาศในช่องใหม่ ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมเป็นต้นไป

แต่เมื่อช่องนิว 18 เปิดเผยผังรายการเดือนธันวาคม 2563 พบว่า รายการข่าวส่วนใหญ่ยังเหมือนเดิม

ไม่ปรากฏว่ามีรายการใหม่จากอดีตผู้ดำเนินรายการสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี แต่อย่างใด

สร้างความแปลกใจให้กับเหล่าแฟนคลับ ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

ตอนแรกมีกระแสข่าวว่า การเจรจาระหว่างนางประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด หรือคุณแดง เจ้าของสถานีโทรทัศน์นิว 18 กับนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อดีตผู้บริหารเนชั่นทีวีที่ไปเสนอผลิตรายการข่าวให้กับทางช่องยังไม่ลงตัว

อาจจะต้องเลื่อน หรือระงับ “ดีล” นี้ลง

ซึ่งนายสันติสุข มะโรงศรี หนึ่งในผู้ดำเนินรายการสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี ที่ลาออก ได้เล่าผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า วันที่ 1 ธันวาคม พวกตนยังไม่ได้จัดรายการช่องไหน ขณะนี้ผู้รับผิดชอบยังไม่สรุปช่องทีวีที่จะไปร่วมงาน เท่าที่ทราบคุยกันอยู่ 4 สถานี แต่ไม่ใช่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมนิวส์วัน ตามที่ลือกัน เร็วๆ นี้คงสรุปจุดที่ลงตัวที่สุดสำหรับผู้เกี่ยวข้อง แล้วเริ่มงานกันเลย

ทำให้แฟนๆ ใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ว่า อนาคตของเหล่าผู้ประกาศเหล่านี้จะมีข้อยุติลงอย่างไร

กระทั่งเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม กลุ่มแฟนคลับอดีตผู้ประกาศข่าวเนชั่นทีวีที่ลาออกไป ก็ใจชื้นขึ้น

เมื่อมีการเผยแพร่ภาพที่นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นำทีมอดีตผู้ประกาศข่าวเนชั่นทีวีที่ลาออกไปมาถ่ายภาพเพื่อใช้โปรโมตรายการ อาทิ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายสันติสุข มะโรงศรี, นายกนก รัตน์วงศ์สกุล, นายธีระ ธัญไพบูลย์, นายวรเทพ สุวัฒนพิมพ์, นายสถาพร เกื้อสกุล และ น.ส.อุบลรัตน์ เถาว์น้อย

อันเสมือนยืนยันว่าพวกเขาได้ช่องรายการที่จะไปผลิตรายการแน่นอน

 

และที่สุด เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ THE KEY NEWS ของบริษัท เดอะ คีย์ นิวส์ จำกัด (The KEY NEWS CO., LTD.) ที่ “ประชาชาติธุรกิจ” ระบุว่า จดทะเบียนเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2563 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการผลิตและเผยแพร่การดำเนินงานเกี่ยวกับสื่อสารมวลชน โดยมีรายชื่อกรรมการ 3 คน ได้แก่ นายกิตติ์ธเนศ ตั้งสิริธนนันท์, นางสาวสาวิตรี เล็กมณี และนายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา และได้ยกเลิกกิจการในวันที่ 30 กันยายน 2563

แต่ต่อมาวันที่ 12 ตุลาคม 2563 มีการจัดตั้งบริษัท เดอะคีย์ 2020 จำกัด (THE KEY 2020 CO., LTD.) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการเหมือนเดิม โดยมีรายชื่อกรรมการ 3 คน (ในจำนวนนี้ 2 คน เป็นคนเดิม) ได้แก่ 1.นายกิตติ์ธเนศ ตั้งสิริธนนันท์, นางสาวสาวิตรี เล็กมณี และนางสาวอุบล ชาญปรีชาสมุทร (กรรมการคนใหม่)

แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการใหม่ แต่เว็บไซต์ THE KEY NEWS ก็ถือว่า มีคนของสื่อเครือเดลินิวส์ ที่แตกลูกออกไปทำช่องนิว 18

ทำให้รู้ตื้นลึกหนาบางของช่องนิว 18 เป็นอย่างดี

ได้นำเสนอข่าวเอ็กซ์คลูซีฟ เกี่ยวกับช่องนิว 18 ความว่า

แหล่งข่าวจากบริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ จำกัด เจ้าของคลื่น New TV 18 เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้บริหารบริษัทมีการเจรจาตกลงที่จะขายสัมปทานช่อง New TV 18 ที่จะเหลือเวลาสัมปทานอีกประมาณ 8 ปี ให้กับกลุ่มของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

การเจรจาที่ผ่านมา หารือกันประมาณ 5 รอบ ในห้วงเวลา 3 สัปดาห์ โดยคนกลางที่เป็นผู้เจรจาคือ นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ ได้เรียกคุณแดง-ประภา เหตระกูล มาหารือโดยตรงกับนายสนธิญาณ เพื่อหาข้อยุติ เนื่องจากกลุ่มนายสนธิญาณได้นำใบเซ็นสั่งซื้อโฆษณาระยะยาวจากบริษัทที่มีชื่อเสียงประมาณ 6-7 บริษัท ซึ่งเป็นการการันตีว่า มีรายได้โฆษณาแน่นอน โดยจบที่ตัวเลข 800 กว่าล้านบาท

“ระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนการโอนที่ดิน โอนตึก โอนเครื่องมือ เปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทใหม่ สำหรับบุคลากร ทราบมาว่า ทีมของนายสนธิญาณจะคัดเลือกบุคลากรบางคนมาร่วมงาน อย่างนายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ หรือเป๊ปซี่ ก็จะได้ไปจัดรายการใหม่กับทีมนายสนธิญาณ ส่วนคนอื่นๆ ยังไม่ทราบแน่ชัด ก็คงต้องมีการเจรจากันต่อไป” แหล่งข่าวคนเดียวกันกล่าว

ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้รับการสนับสนุนด้านโฆษณาจาก 7 บริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มูลค่าหลายร้อยล้านบาท โดยผู้ให้การสนับสนุนโฆษณาเหล่านี้ ไม่กลัวเรื่องการถูกแบนโฆษณา และวางแผนการลงโฆษณาระยะยาว ซึ่งนายสนธิญาณจะเปิดแถลงข่าวเป็นทางการในวันที่ 16 ธันวาคม นี้ เวลา 15.00 น. ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล และจะออนแอร์อย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ธันวาคม เวลา 15.00 น. โดย 2 ชั่วโมงแรกจะเป็นรายการพิเศษ จากนั้นหลัง 17.00 น. เป็นต้นไป จะเข้าสู่ผังรายการปกติ

 

ถือเป็นข้อมูลในเชิงลึก และสร้างความประหลาดใจให้กับคนในแวดวงพอสมควร

เพราะนี่ไม่ใช่เป็นการยกทีมเข้าไปเป็นสตาฟฟ์งาน

แต่เข้าไปเป็นเจ้าของแทนคุณแดง-ประภา เหตระกูล เลยทีเดียว

หากเป็นจริงย่อมสะท้อนให้เห็นว่า “กองหนุน” นายสนธิญาณไม่ธรรมดา

สอดคล้องกับกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า มีบุคคลสำคัญระดับ “ลุง” ได้ระดมทุนเพื่อให้นายสนธิญาณเข้าไปทำช่องทีวี โดยมีเป้าหมายหลักในการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างเข้มข้น

และเป็นสื่อมวลชนที่มีจุดยืนตรงข้ามกับกลุ่มคณะราษฎร อย่างไม่ปิดบังอำพราง

พร้อมๆ กับยืนข้างฝั่งฟากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างไม่ปิดบังอำพรางเช่นกัน

 

ซึ่งคงต้องรอชมว่า รายการทางช่องนิว 18 จะเลือกเดินทาง “ขวา” เข้มข้นขนาดไหน

แต่คงไม่ธรรมดา เพราะหากติดตามเฟซบุ๊กของนายสนธิญาณ จะสัมผัสได้ถึงความจัดจ้าน เช่น

“เมื่อมึงเปิดหน้าจะเอาสาธารณรัฐ

กูก็ต้องประกาศให้โลกรู้

ว่ากูต้องการ ‘ราชประชาสมาสัย’

ที่พระมหากษัตริย์กับประชาชนคนไทย

จะผนึกหัวใจเข้าด้วยกัน

เพื่อมุ่งมั่นสู่สังคมศิวิไลซ์ที่งดงาม

แล้วเราจะได้เห็นกัน

#สนธิญาณว่าไว้

#ราชประชาสมาสัย”

ช่องนิว 18 ซึ่งครบครันด้วยพิธีกรปากกล้า น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายสันติสุข มะโรงศรี, นายกนก รัตน์วงศ์สกุล, นายธีระ ธัญไพบูลย์, นายวรเทพ สุวัฒนพิมพ์, นายสถาพร เกื้อสกุล และ น.ส.อุบลรัตน์ เถาว์น้อย จึงย่อมไม่ธรรมดา

และคงไม่หวาดหวั่นกระแส “แบน” ไม่ดู-ไม่โฆษณา เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นกับช่องเดิม–เนชั่น จนเป็นเหตุที่ต้องยกมือบ๋ายบาย นายฉาย บุนนาค ออกมา หลังได้ผลกระทบทางธุรกิจอย่างหนัก

เพราะหากดูดีลที่ตกลงกับผู้บริหารเดิมของช่องนิว 18 คงต้องขีดเส้นใต้รายงานข่าวที่ระบุว่า นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้รับการสนับสนุนด้านโฆษณาจาก 7 บริษัทในระยะยาว

จึงทำให้ไม่ต้องห่วงว่าจะเผชิญกระแสแบนจากผู้บริโภคอีก

สามารถเดินหน้า NEWS WAR และปฏิบัติการข่าวสารหรือไอโอ กับฝ่ายอุดมการณ์ตรงกันข้ามได้อย่างเต็มที่!?!?

 

เมื่อกล่าวถึงนายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นายเก่าที่นายสนธิญาณยกพวกจากมา

ก็พบความพยายามฟื้น “เนชั่น” กลับขึ้นมาอีก

ซึ่งนอกจากย้ำอุดมการณ์จุดยืนขององค์กรสื่อสารมวลชน เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างไม่เปลี่ยนแปลง

ยังดึงนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ลูกหม้อเก่า เข้ามาเพื่อฟื้น “เนชั่น เวย์” ของยุคสุทธิชัย หยุ่น ให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง

พร้อมกับเสริมบุคลากรที่หวังจะเป็นแม่เหล็กดึงเรตติ้งที่ตกลงไปให้กลับมา

หนึ่งในนั้นคือ การคว้านายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จอมแฉ มาจัดรายการทางเนชั่นทีวี โดยเริ่มต้น 3 วันต่อสัปดาห์ก่อน โดยจะจัดร่วมกับอดีตพิธีกรหญิง รพีพรรณ เรือนศรี

ซึ่งจะแซบขนาดไหน คงต้องติดตามกันต่อไป

นอกจากนั้น มีโอกาสสูงที่จะดึง น.ส.นรากร ติยายน ผู้อำนวยการฝ่ายงานบริหารข่าวช่องวัน 31 มาร่วมงาน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวระแคะระคายมาก่อน แต่ได้รับการปฏิเสธ

กระทั่งเมื่อเกิดความเคลื่อนไหวในวงการสื่ออีก 2 ช่อง

คือสถานีโทรทัศน์ช่องวัน 31 กับสถานีโทรทัศน์ช่อง GMM25

ซึ่ง น.ส.นรากร ติยายน อดีตผู้อำนวยการฝ่ายงานบริหารข่าวช่องวัน 31 ระบุในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ช่องจีเอ็มเอ็ม 25 จะมีการยุบฝ่ายข่าว แล้วให้ฝ่ายข่าวช่องวัน 31 เป็นผู้ผลิตข่าวให้ ส่วนผังรายการอื่นๆ นอกเหนือจากรายการข่าว ยังจะมีทั้งละคร วาไรตี้ และรายการอื่นๆ เหมือนเดิม

แต่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้ประเด็นที่ น.ส.นรากรจะย้ายไปช่องเนชั่น มีโอกาสสูงยิ่งขึ้น

ซึ่งนั่นย่อมเป็นที่คาดหวังของนายฉายว่า สิ่งที่เสริมเข้ามาจะทำให้เรตติ้งของเนชั่นดีขึ้น

และทำให้มีเรี่ยวแรงในการทำสงครามข่าวสารอันดุเดือดต่อไป

 

แน่นอนว่า ทั้งนิวช่อง 18 และทีวีเนชั่น คงจะเป็นคู่แข่ง คู่แค้น ที่ต่อสู้แย่งเรตติ้งกัน เหมือนกับแข่งขันกับทีวีดิจิตอลช่องอื่นๆ

แต่ทั้ง 2 ช่องก็คงแสดงจุดยืนที่จะเป็นช่องปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างเข้มข้น เหมือนๆ กัน

โดยเฉพาะนิว 18 นั้น คงไม่ปิดบังจุดยืน ที่จะยืนฝั่งตรงข้ามกับกลุ่มคณะราษฎร รวมถึงคณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล ที่ถูกมองว่าเป็นฝ่ายเสรีนิยมเอียงซ้าย

ขณะเดียวกัน คงหลอมรวมเข้ากระแส “อนุรักษ์” และฝ่ายจารีต ที่ไม่ได้จำกัดวงเฉพาะสื่อมวลชน หากแต่แผ่กว้างไปยังองค์กรแนวร่วมอื่นอย่างชัดเจน เพื่อที่จะสกัดกั้นฝ่ายที่มีอุดมการณ์แตกต่างๆ แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน

บทบาทที่เป็นเจ้าของช่อง ไม่ใช่ “ลูกจ้าง” ย่อมทำให้มีสิทธิแสดงบทบาทเต็มที่ไม่หยุดยั้ง

เปิดแนวรบ NEWS WAR อย่างเต็มตัว

ซึ่งจะเกินเลยไปจากบทบาทของสื่อมวลชนไปสู่การโฆษณาชวนเชื่อ และมีเบื้องหลังที่มากไปกว่าธุรกิจสื่อหรือไม่

นี่เป็นสิ่งที่สังคมต้องช่วยกันจับตามอง!

 

อย่างไรก็ตาม ในท่ามกลางกระแสว่าดีลช่องนิว 18 ลงตัว

แต่ล่าสุด นายเสริมสุข กษิดิประดิษฐ์ ผู้จัดรายการช่องนิว 18 โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ความว่า

“ยันนิว 18 ยังไม่ได้มีผังรายการใหม่ ทีมสนธิญาณ-อัญชะลี-กนก ยังไม่ได้เริ่มจัดรายการ 21 ธันวาคม ขณะที่ปอง อัญชะลี โพสต์กรุยทางจัดรายการออนไลน์แทน เผยสาเหตุปัญหาคือนิว 18 ตั้งราคาขายสัมปทาน 2 พันล้าน ขณะที่สนธิญาณขอจ่ายปีละ 100 ล้าน 8 ปี”

ทั้งนี้ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก โพสต์เฟซบุ๊กวันเดียวกันว่า “ถ้าพวกเราไม่มีทีวีสักช่อง ในวันนี้ พรุ่งนี้ หรือตลอดไป จะติดตามเราทางออนไลน์ไหมคะ ถ้าตอบว่าตาม ตามเลยค่ะ อย่าลังเล”

  เป็นสัญญาณล่าสุด ว่าการเปิดฉากทำสงครามข่าวสารยังไม่พร้อม!?!?