อำลามาราโดน่า

การเสียชีวิตแบบเฉียบพลันด้วยอาการหัวใจล้มเหลวขณะอายุ 60 ปีของดิเอโก้ มาราโดน่า ยอดนักฟุตบอลเอกของโลกเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นำความโศกเศร้าครั้งยิ่งใหญ่มาให้คนอาร์เจนตินาทั้งประเทศ

ประธานาธิบดีอัลแบร์โต้ เฟอร์นานเดซ ประกาศลดธงชาติไว้ทุกข์ทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน

มีแฟนบอลหลายหมื่นคนต่อแถวเข้าคิวยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร ยืนรอเป็นชั่วโมง เพื่อจะได้ร่ำลาคารวะมาราโดน่าที่อยู่ในหีบศพห่มธงชาติวางอยู่ในห้องโถงทำเนียบประธานาธิบดีกลางกรุงบัวโนสไอเรส โดยมีโอกาสได้เห็นและอำลาอาลัยมาราโดน่าเพียงไม่กี่วินาที

ใครหยุดยืนร้องไห้ เจ้าหน้าที่ รปภ.ของทำเนียบจะสะกิดให้เดินทันที ไม่งั้นการจราจรจะติดขัด

ชายสูงวัยคนหนึ่งบอกว่า ภรรยาของเขาไม่อยากให้ออกมาเข้าแถวยาวท่ามกลางผู้คนมากมายเพราะเกรงว่าจะติดโควิด-19 แต่เขาได้ขอร้องลูกชายให้แอบพาออกมาต่อคิว

เพราะนี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้เห็นมาราโดน่า

เปเล่ ตำนานนักฟุตบอลตลอดกาลวัย 80 ปี เขียนไว้อาลัยมาราโดน่าผ่านทาง Twitter ว่า

“ผมสูญเสียเพื่อนรัก โลกสูญเสียตำนานนักฟุตบอล มีหลายอย่างที่ผมอยากกล่าวถึงมาราโดน่า แต่ตอนนี้ขอให้พระเจ้าประทานความเข้มแข็งให้กับสมาชิกครอบครัวของมาราโดน่า หวังว่าสักวันหนึ่ง เราจะได้เล่นฟุตบอลด้วยกันบนสวรรค์”

มาราโดน่าจากโลกนี้ไปแล้ว แต่สิ่งที่แฟนลูกหนังทั่วโลกไม่ลืมก็คือ ในฟุตบอลโลกปี 1986 รอบก่อนรองชนะเลิศที่ประเทศเม็กซิโก มาราโดน่าทำสองประตูให้อาร์เจนตินาชนะอังกฤษ 2-1 หลังจาก 4 ปีก่อนหน้านี้อาร์เจนตินาพ่ายแพ้อังกฤษในสงครามช่วงชิงเกาะฟอล์กแลนด์

ประตูแรกเป็นประตูที่รู้จักกันในชื่อ “Hand of God” หรือ “หัตถ์พระเจ้า” เกิดขึ้นในนาทีที่ 51 มาราโดน่าใช้มือซ้ายชกลูกฟุตบอลเข้าประตู แต่ผู้ตัดสินมองไม่เห็นว่ามาราโดน่าทำแฮนด์บอล จึงให้เป็นลูกได้ประตู

หลังจากนั้นอีก 4 นาที มาราโดน่าก็ยิงประตูที่ 2 ให้กับอาร์เจนตินา

ประตูนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นประตูแห่งศตวรรษ หรือ The Goal of the Century

โดยมาราโดน่าเลี้ยงเดี่ยวเกินครึ่งสนามจากระยะ 60 หลา หลบหลีกซิกแซ็กนักฟุตบอลอังกฤษ 7 คน ยิงลูกเข้าประตู ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียง 10 วินาที

หลังแข่ง มาราโดน่าพูด “ชื่นชม” นักฟุตบอลทีมอังกฤษว่า เป็นผู้ดีมีคุณธรรมที่สุดในโลก เขาไม่คิดว่าจะทำประตูเลี้ยงหลบหลีกได้แบบนี้กับนักฟุตบอลชาติไหน เพราะทุกทีมต้องเสียบเขาล้มกลิ้งไปแล้ว

สำหรับประตูที่ยิงด้วยมือข้างถนัด มาราโดน่าตั้งชื่อว่า Hand of God หรือหัตถ์พระเจ้า เพราะประตูนี้เป็นการผสมผสานระหว่างศีรษะของมาราโดน่ากับหัตถ์ของพระเจ้า

ทุกครั้งที่มาราโดน่าย้อนหลังเล่าเหตุการณ์การทำประตู Hand of God เขาพูดถึงด้วยความสนุกขบขัน

มาราโดน่าให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2012 ว่าไม่รู้สึกผิด และไม่ขอโทษกับการทำแฮนด์บอลลูกนี้ เพราะในเกมฟุตบอลที่ทั้งคนเล่นและคนดูมีความสุข หากมีใครคนหนึ่งทำเรื่องซุกซนที่แฟน 1 แสนคนมองไม่เห็น ถือเป็นเรื่องชวนขบขัน

มาราโดน่าบอกว่า ไม่ใช่เรื่องที่เขาภูมิใจที่ทำประตูด้วยแฮนด์บอล แต่เห็นว่าเป็นเรื่องตลกมากที่เขาสามารถทำประตูด้วยมือ

ตอนที่ลูกลอยอยู่ในอากาศ มาราโดน่าเล่าว่า เขาพูดกับตัวเองว่า ยังไงก็ไม่มีทางโหม่งถึง จึงเกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าต้องยกมือขึ้น และทำเนียนด้วยการยกศีรษะขึ้นด้วยเพื่อทำเป็นโหม่งลูก

มาราโดน่าซึ่งสูงเพียง 167 เซนติเมตร เตี้ยกว่าผู้รักษาประตูอังกฤษ ปีเตอร์ ชิลตัน ถึง 15 เซนติเมตร วิ่งกระโดดตัวลอยเข้าถึงลูกฟุตบอลก่อน และใช้มือซ้ายชกลูกเข้าประตู

มาราโดน่าบอกว่าตอนชกลูกฟุตบอลเสร็จ ก็ไม่รู้ว่าลูกฟุตบอลลอยไปไหน จนกระทั่งหันไปเห็นว่าเข้าประตูไปแล้ว

หลังจากลูกเข้าประตู เพื่อนร่วมทีมไม่ได้วิ่งมาแสดงความดีใจเพราะเห็นว่าเป็นแฮนด์บอล แถมยังถามอีกด้วยว่าทำแฮนด์บอลใช่มั้ย

มาราโดน่าเล่าว่า เขาสั่งให้เพื่อนร่วมทีมหยุดถามและรีบวิ่งเข้ามากอดทำเป็นดีใจ เพราะเดี๋ยวผู้ตัดสินจะเปลี่ยนใจไม่ให้ประตู

ผู้ตัดสินชาวตูนิเซีย อาลี บิน นาสเซอร์ (Ali Bin Nasser) มองไม่เห็นมาราโดน่าทำแฮนด์บอล เมื่อมองไปที่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่อยู่ในมุมที่เห็นการทำลูกเข้าประตูได้ชัดกว่าเขา ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณบอกว่ามาราโดน่าทำแฮนด์บอล

หลังจากความผิดพลาดในการตัดสินฟุตบอลนัดนั้น อาลีก็ไม่ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่ผู้ตัดสินฟุตบอลอีกเลย

อาลี บิน นาสเซอร์ ให้สัมภาษณ์หลังจากมาราโดน่าเสียชีวิตว่า

เขาก็มีส่วนร่วมในการทำประตู Goal of the Century

เพราะหากเขาเป่าฟาวล์นักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษที่พยายามเสียบสกัดมาราโดน่า

โลกก็ไม่มีวันได้เห็นการทำประตูอันมหัศจรรย์นี้ของมาราโดน่า

ชาวไทยคุ้นเคยกับมาราโดน่าในฉายา “เสือเตี้ย”

แต่สำหรับชาวอาร์เจนตินา ฉายาของเขาคือ “El Pibe de Oro” หรือ “The Golden Kid” จากเด็กชายที่เติบโตในชุมชมแออัด ต่อสู้ชีวิตเลี้ยงพ่อ-แม่และพี่สาว 4 คน กับน้องชายอีก 2 คนด้วยการเล่นฟุตบอล มีฝีเท้าเยี่ยมยอดเหนือเด็กคนอื่นตั้งแต่อายุ 8 ขวบ นำทีมชาติอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1986 รองแชมป์โลกปี 1990…

และเกียรติยศอื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน