ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 ตุลาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]
เทียบสเป๊ก 3 เก๋งเล็กยุโรป
ประชัน ‘บีเอ็มฯ-เบนซ์-อาวดี้’
ต่อเนื่องจากจากเนื้อหาทดสอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู “218i Gran Coupe M Sport” มีผู้อ่านส่งอีเมลเข้ามาสอบถาม โดยเฉพาะในเนื้อหาตอนแรกที่ผมเกริ่นไว้ว่า บีเอ็มฯ รุ่นนี้มาเป็นคู่แข่งของรถยุโรปอีก 2 รุ่นคือเมอร์เซเดส-เบนซ์ “A 200 AMG Dynamic” และอาวดี้ “A 1 Sportback 35 TFSI S-Line”
ทำนองว่ารุ่นไหนดีกว่ากัน คุ้มค่ากว่ากัน ฯลฯ
บอกเลยว่าตอบได้ยากมากๆ เพราะวัดจากคะแนนต่างๆ ที่ผมลองคำนวณดูถือว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกันมาก ได้เปรียบ-เสียเปรียบคนละแบบ
แม้หากดูตัวถังแล้วอาวดี้จะเสียเปรียบอยู่หน่อย แต่ราคาถูกสุดในทั้ง 3 รุ่น
อย่ากระนั้นเลย ผมนำสเป๊กของแต่ละรุ่นมาเทียบกันให้เห็นจะจะกันเลยดีกว่า
เริ่มที่ “A 200 AMG Dynamic” มาพร้อมชุดแต่งเอเอ็มจีรอบคัน กระจังหน้าแบบ diamond radiator grille ที่ประกอบด้วยเส้นเดี่ยวแนวนอน และตราสัญลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง
ไฟหน้าแบบ LED High Performance เพรียวบาง และกรอบเคลือบโครเมียมที่ทำงานร่วมกับไฟส่องสว่างขณะขับขี่ตอนกลางวันแบบ LED ที่มีลักษณะคล้ายคบเพลิง
เส้นสายด้านข้างที่ทอดตัวอยู่บริเวณช่วงล่างของตัวถัง ช่วยให้ตัวรถดูกว้าง ส่วนกระจกมองข้างนั้นอยู่ในระนาบเดียวกับขอบล่างของกระจกห้องโดยสารพอดี
ล้อขนาด 18 นิ้ว แบบ 5 ก้านคู่
ห้องโดยสารได้รับการปรับโฉมใหม่ให้ดูทันสมัย สไตล์สปอร์ตแบบ AMG พวงมาลัยท้ายตัดหุ้มด้วยหนัง nappa เดินด้ายแดง พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น
หน้าจอ Widescreen ขนาด 10.25 นิ้วต่อกัน 2 หน้าจอ แบ่งการแสดงผลเป็น 2 ส่วน คือ แผงหน้าปัดสำหรับแสดงมาตรวัดต่างๆ ซึ่งเป็นหน้าจอแบบ Widescreen ขนาดใหญ่เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ชัดเจน
อีกส่วนหนึ่งจะเป็นหน้าจออินโฟเทนเมนต์ที่ใช้ระบบสัมผัส (Touchscreen) เป็นครั้งแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่นำหน้าจอระบบสัมผัสมาใช้ในรถยนต์คอมแพกต์คาร์
คอนโซลกลางออกแบบให้มีลักษณะคล้ายปีกที่ดูแบนราบและไร้รอยต่อจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งของห้องโดยสาร มีระบบไฟส่องสว่างในห้องโดยสารที่มีให้เลือกถึง 64 สี
เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง ARTICO/DINAMICA microfibre ทั้งหมด โดยเบาะที่นั่งด้านคนขับ จะมาพร้อมหน่วยบันทึกความจำ อีกทั้งเบาะด้านหลังยังสามารถพับได้แบบ 40:20:40
ห้องโดยสารตอนหลังให้เข้า-ออกได้ง่าย ห้องเก็บสัมภาระด้านหลังมีปริมาตร 420 ลิตร ช่องกระโปรงหลังมีขนาดกว้าง 950 มิลลิเมตร
ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินแบบแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 1,332 ซีซี แต่ให้กำลังสูงสุดถึง 163 แรงม้า ที่ถือว่ามีพละกำลังมากที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ขนาดเดียวกัน แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร
เกียร์ “อัตโนมัติ 7 จังหวะ” (7G-DCT) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยเช่น ระบบช่วยหยุดรถ (Active Brake Assist) ลดความเสียหายหรือป้องกันการพุ่งชนกับรถยนต์ข้างหน้า ระบบช่วยจอดพร้อมกล้องหลัง (Parking package with reversing camera)
ทั้งมีบริการ “Mercedes me connect” เชื่อมต่อระหว่างลูกค้าและผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทำงานร่วมกับระบบมัลติมีเดียอัจฉริยะที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ล่าสุด “MBUX” (Mercedes-Benz User Experience) ใช้สั่งการต่างๆ อาทิ ติดต่อกับศูนย์อัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เตือนเมื่อถึงเวลานำรถยนต์เข้าตรวจสภาพ เชื่อมต่อผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อเปิดเครื่องปรับอากาศทำความเย็นล่วงหน้า หรือการสั่งเปิด-ล็อกประตูรถจากระยะไกล ฯลฯ
Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic ราคา 2,490,000 บาท
ถัดมากับอาวดี้ “A1 Sportback 35 TFSI S line” กระจังหน้าดักลมขนาดใหญ่ มีขนาดที่กว้างเท่ากับช่องใต้ฝากระโปรง ไฟหน้าออกแบบดูสปอร์ตมีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ follow me home พร้อมไฟเดย์ไทม์ รวมชุดเข้าไว้ด้วยกันเพิ่มมุมมองอารมณ์สปอร์ต ไฟท้ายมาในแนวนอน
ล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/40 แก้มต่ำยิ่งดูสปอร์ตมากขึ้น
เพิ่มความดุดันมากขึ้นด้วยชุดแต่ง S line อันเป็นเอกลักษณ์ของอาวดี้
ภายในมาพร้อมเทคโนโลยีแบบ fully digital ออกแบบโดยมีผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง พวงมาลัยท้ายตัดพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ virtual cockpit ขนาดใหญ่ 10.25 นิ้ว ระบบ MMI Radio plus สามารถปรับเปลี่ยนได้ 2 รูปแบบหลักๆ
จอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว มาพร้อมระบบ Audi smartphone interface รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay เอียงเข้าหาคนขับทำให้ง่ายต่อการเหลือบสายตาไปมอง รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ รองรับ MP3 ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ แยกอิสระ 2 โซน
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง เทอร์โบ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 สปีด
ระบบความปลอดภัยมีมาให้พอประมาณ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS ระบบควบคุมการทรงตัว ESC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
อาวดี้ “A1 Sportback 35 TFSI S line” ราคา 2,149,000 บาท
สุดท้ายบีเอ็มดับเบิลยู “218i Gran Coupe M Sport” ด้านหน้าโฉบเฉี่ยว กับกระจังหน้าเอกลักษณ์ไตคู่มีมิติมากขึ้น ไฟหน้าเรียวเล็กแบบ Full LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ ต่ำลงมาเป็นไฟตัดหมอก LED เรียงเป็นเส้นแนวนอน
เส้นสายด้านข้างซุ้มล้อโป่งขึ้นมานิดๆ รับกันดีกับล้ออัลลอย 5 ก้านคู่ของ M Sport ขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยางรันแฟลตขนาด 225/40
ไฟท้ายแบบ Full LED เช่นเดียวกับด้านหน้า คาดเส้นสีดำ High-gloss Black เชื่อมต่อทั้ง 2 ฝั่ง ด้านใต้ติดตั้งดิฟฟิวเซอร์
ด้านบนมีเสาอากาศครีบฉลาม
ภายในกะทัดรัดแต่เน้นความเรียบง่าย พวงมาลัย 3 ก้าน M Sport มาตรวัดดิจิตอลออกแบบให้ดูมีมิติมากขึ้น
ตรงกลางเป็นจอแสดงผล Display ทัชสกรีน ขนาด 8.8 นิ้ว ทำมุมเอียงเข้าหาผู้ขับขี่มองจากตำแหน่งคนขับง่ายขึ้น ระบบแอร์อัตโนมัติ
คอนโซลเกียร์ตกแต่งด้วยสีดำ มีปุ่มควบคุมต่างๆ และปุ่มเลือกโหมดเครื่องยนต์ 3 แบบ เบรกมือไฟฟ้า
เส้นขอบประตูและคอนโซลหน้าฝังไฟสร้างบรรยากาศเอาไว้ สามารถปรับเปลี่ยนได้ 7 เฉดสี
หลังคา Panoramic Roof ขนาดใหญ่ เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1,499 ซีซี TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 4,600-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,480-4,200 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ แบบ Steptronic
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีมาให้พอสมควร อาทิ ถุงลมรอบคัน ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ระบบช่วยนํารถเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant) ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) ระบบควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน (DBC) ฯลฯ
บีเอ็มดับเบิลยู “218i Gran Coupe M Sport” ราคา 2,399,000 บาท