คนของโลก : นายแพทย์ชอน คอนลีย์ แพทย์ประจำตัวโดนัลด์ ทรัมป์

White House physician Sean Conley answers questions surrounded by other doctors, during an update on the condition of US President Donald Trump, on October 4, 2020, at Walter Reed Medical Center in Bethesda, Maryland. - US President Donald Trump has resumed making calls and tweeting from hospital, but doctors say his progress on Sunday will be crucial to see if he develops a more severe form of Covid-19. (Photo by Brendan SMIALOWSKI / AFP) (Photo by BRENDAN SMIALOWSKI/AFP via Getty Images)

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั่วโลกพุ่งความสนใจมาที่นายแพทย์ชอน คอนลีย์ นายแพทย์ประจำตัวโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ออกมาแถลงอาการล่าสุด หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19

นายแพทย์คอนลีย์ยืนที่โพเดียม พร้อมด้วยคณะแพทย์จำนวนหนึ่งในฉากหลัง แถลงอาการของทรัมป์เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ทรัมป์มีอาการไม่น่าเป็นห่วง และทีมแพทย์ยินดีกับพัฒนาการในการต่อสู้กับโรคของทรัมป์เป็นอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม นั่นยังคงขัดแย้งกับหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวที่ระบุว่ายังคงมีสัญญาณที่น่ากังวล

การให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกันดังกล่าวส่งผลให้เกิดการตั้งข้อสงสัยถึงความโปร่งใสในการให้ข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐ

โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญของประเทศในเวลานี้

 

แม้เวลานี้ทรัมป์จะเดินทางกลับไปยังทำเนียบขาวแล้ว ทั้งๆ ที่ยังคงมีสถานะผู้ติดเชื้อโควิด-19 และอาจจะแพร่เชื้อให้กับผู้อื่นได้ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง

แน่นอนว่าทุกสายตาก็ตั้งคำถามไปที่แพทย์ประจำตัวของชอน คอนลีย์ ด้วยเช่นกันว่าเพราะเหตุใดจึงอนุญาตให้ประธานาธิบดีเดินทางกลับมายังทำเนียบขาวอีกครั้งทั้งๆ ที่ยังคงเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่

นำไปสู่อีกหนึ่งคำถาม นั่นก็คือนายแพทย์ประจำตัวโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นี้คือใคร?

 

ชอน คอนลีย์ ทำงานเป็นแพทย์ประจำตัวโดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 โดยก่อนหน้านี้นายแพทย์คอนลีย์ไม่ได้ตกเป็นเป้าสายตาจากสาธารณชนมากนัก

เกิดในเมืองดอยเลสทาวน์ รัฐเพนซิลเวเนีย นายแพทย์วัย 40 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนอเธอดาม ในปี 2002 ก่อนจะศึกษาเฉพาะทางด้านการแพทย์ออสทีโอพาธี ที่วิทยาลัยแพทย์เฉพาะทางออสทีโอพาธี ในรัฐเพนซิลเวเนีย และจบการศึกษาด้านการแพทย์แผนออสทีโอพาธีในปี 2006

แพทย์แผนออสทีโอพาธีเป็นแพทย์ที่จบการศึกษาด้านแพทยศาสตร์มาก่อนและเรียนต่อเฉพาะทางสายออสทีโอพาธีต่อ แพทย์แผนนี้เป็นการรักษาทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ได้เฉพาะเจาะจงเฉพาะอาการใดอาการหนึ่ง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย นอกจากการพิจารณาด้านกายภาพแล้วยังคำนึงถึงสภาพจิตใจ อารมณ์ ความคิด โครงสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก รวมถึงการใช้ชีวิตและสภาพแวดล้อมของคนไข้ด้วย

โดยแพทย์แผนออสทีโอพาธีในสหรัฐอเมริกามีสิทธิในการรักษาเหมือนกับแพทย์ทั่วไปที่ได้รับใบอนุญาตสามารถทำงานได้ใน 50 รัฐของสหรัฐ และสามารถสั่งยาได้ตามปกติ

นายแพทย์คอนลีย์เรียนต่อในศูนย์การแพทย์ทหารเรือ ในเมืองปอร์ตสมัธ รัฐเวอร์จิเนีย จากนั้นในปี 2014 ได้เข้าร่วมทีมแพทย์ทหารในฐานะหัวหน้าทีมแพทย์ฉุกเฉินของกองกำลังนาโตในอัฟกานิสถาน และได้รับเหรียญกล้าหาญจากประเทศโรมาเนีย ผลงานช่วยชีวิตนายทหารชาวโรมาเนียที่ได้รับบาดเจ็บจากระเบิดแสวงเครื่องด้วย

คอนลีย์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในทีมแพทย์ประจำทำเนียบขาวในเวลาต่อมา และได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการแพทย์ประจำตัวประธานาธิบดีทรัมป์ในเดือนมีนาคม 2018

หลังจากทรัมป์เสนอชื่อนายแพทย์ประจำตัวอย่างนายแพทย์รอนนีย์ แจ๊กสัน ให้ไปนั่งเป็นรัฐมนตรีกิจการทหารผ่านศึก

 

นายแพทย์คอนลีย์ได้รับการแต่งตั้งเป็นแพทย์ประจำตัวทรัมป์อย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม 2018 หลังจากนายแพทย์แจ๊กสันถอนตัวจากการถูกเสนอชื่อเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าเป็นนายแพทย์ที่ไร้จรรยาแพทย์

ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2019 นายแพทย์คอนลีย์เป็นหัวหน้าทีมแพทย์ 11 คน ตรวจร่างกายของประธานาธิบดีทรัมป์ และเป็นคนประกาศว่าประธานาธิบดี “มีสุขภาพที่ดีมากๆ”

“ผมบอกได้เลยว่าเขาจะยังคงมีสุขภาพดีอย่างนี้ต่อไปตลอดช่วงระยะเวลาดำรงตำแหน่ง และหลังจากนั้นต่อไปด้วย” นายแพทย์คอนลีย์ระบุ

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจร่างกายที่ใช้เวลา 4 ชั่วโมงออกมาแต่อย่างใด

นายแพทย์คอนลีย์เป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อทรัมป์ออกมาประกาศว่า ตนได้ใช้ยา “ไฮดร็อกซีคอโลควิน” เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19

แม้ว่า “ไฮดร็อกซีคอโลควิน” จะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆ พิสูจน์ว่าเป็นยาที่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้จริงๆ

และนั่นก็เกิดคำถามพุ่งเป้าไปที่นายแพทย์ประจำตัวของทรัมป์ว่า เป็นผู้สั่งจ่ายยาดังกล่าวให้ทรัมป์ด้วยหรือไม่

ซึ่งจนถึงเวลานี้ก็ยังคงไม่มีคำตอบ

เวลานี้ โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาทำงานยังทำเนียบขาวพร้อมกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ในตัวทั้งๆ ที่เพิ่งตรวจพบเชื้อเพียงไม่กี่วันเท่านั้น

ขณะที่สื่อยังคงจับตาดูบทบาทหน้าที่ของนายแพทย์คอนลีย์ นายแพทย์ทหารเรือ ในฐานะแพทย์ผู้ดูแลสุขภาพประธานาธิบดีสหรัฐผู้นี้ต่อไป พร้อมๆ กับสุขภาพของประธานาธิบดีวัย 74 ปีต่อไปว่าจะรอดพ้นจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ไปได้หรือไม่