เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ | วิถีทะเล-วิถีชุมชน

เลียบทะเลจากปัตตานีสู่สงขลาจะผ่านสามตำบลของอำเภอจะนะ คือ สะกอม ตลิ่งชัน และนาทับ คณะเราแวะเยี่ยมชาวบ้านสวนกงที่นาทับ

ราวสิบโมง ฟ้าใส ทะเลใส มีเรือประมงชาวบ้านจอดเกยหาดเป็นหมู่อยู่

“พวกเขาออกทะเลแต่หกโมงเช้า เพิ่งกลับหาดกันนี่แหละ”

เพื่อนชาวสวนกงเล่าให้ฟังพลางพาคณะเราเดินลุยทรายสู่หมู่เรือ

มีหญิงชาวบ้านนั่งแช่น้ำตะคุ่มอยู่ชายทะเล เธอนั่งอยู่คนเดียวตั้งแต่คณะเราเพิ่งมาถึงจนเราเดินเข้ามาใกล้ เธอสวมหมวกพวกผ้าคลุมหัวและหลังไหล่

“แกมานั่งหาหอยเสียบน่ะ วันๆ ก็มานั่งอยู่อย่างนี้”

เรานึกเห็นหอยเสียบดองน้ำปลากินกับข้าวต้มอร่อยนัก

“ขายได้ดีไหม”

“วันๆ ก็พอได้สองสามร้อยแหละ”

เรารีบมุ่งเข้าใกล้ในระยะปลายคลื่นกวาดทราย ถามเธอว่า

“ได้หอยไหม”

เธอยื่นสองฝ่ามือที่เต็มไปด้วยหอยเสียบให้ดูพลางยิ้มแย้มอยู่เต็มหน้าเต็มตา

เหมือนทะเลยิ้มใสสว่างฟ้า ณ นาทีนั้น

ที่เรือลำเพิ่งขยับเกยหาด ยังไม่เข้าที่ดี เพื่อนว่านี่ก็สองผัวเมียเพิ่งกลับจากลากอวนปู เธอขยับกระดานเปิดท้องเรือที่มีน้ำหล่อเห็นปูตัวย่อมๆ ไต่กันยั้วเยี้ย รู้ชื่อภายหลัง เช่น ปูม้า ปูเสือ ปูดาว ปูหิน ปูเป่ง ปูตายาว และปูดำ ซึ่งไม่เคยรู้ชื่อและเคยเห็นมาก่อนเลย

ที่บนพื้นกระดานเรือมีถังปูและกั้งที่เมื่อจับกั้งยกขึ้นตัวหนึ่ง อีกตัวจะเกาะต่อกันเป็นสายโซ่

บางคนจุ๊ปากกระซิบ

“น่าดองน้ำปลา สดนะนี่”

นี่แหละสายตาของนักเสพก็จะเห็นกุ้งหอยปูปลาเป็นโอชะเสมอ ยิ่งสวยยิ่งสดก็ยิ่งน่าเสพดีนัก

และแน่ละ กลางวันมื้อนั้นที่ร้านเพื่อนกันในสงขลา สารพัดปูพร้อมกั้งดองน้ำปลาสด คือสดทั้งกั้งและการดอง ก็เป็นโอชารสของทะเลจะนะมื้อต้นฉบับขนานแท้

คะเนจากราคาที่คณะเรานำมาเป็นมื้อโอชะจากเรือลำที่เพิ่งเกยหาดเช้านั้น เพียงแค่หนึ่งในสามของสินทะเลวันนั้นประมาณไม่ถึงพันบาท รวมทั้งลำเรือก็ไม่น่าจะต่ำกว่าสามพันบาท

สามพันบาทจากการทำงานราวสามชั่วโมง

“รายได้ต่อปีจากทะเลของชาวจะนะรวมแล้วตกราวปีละสามถึงห้าร้อยล้านบาท”

เพื่อนหยิบทรายชายหาดให้เราขยี้ซึ่งละเอียดปานแป้งหรือน้ำตาลทรายแดงป่น

“ชาวจะนะจะเอาทรายนี่ผสมอาหารเลี้ยงนกเขาชวา ช่วยย่อยอาหารได้ดี ได้นกเขาขันไพเราะ รายได้จากอาชีพเลี้ยงนกเขาขายประเทศเพื่อนบ้าน นี่ตกปีละหนึ่งพันห้าร้อยล้านบาทเลยนะ มากกว่าอาชีพประมงอีก”

คิดคร่าวๆ เล่นๆ ชุมชนชาวจะนะสามตำบล มีรายได้จากสองอาชีพตกปีละเกือบสองพันล้านบาท

ลองฟังเสียงของคุณตนรอนี ระหมันยะ ผู้ประสานงานกลุ่มอนุรักษ์และฟื้นฟูทะเลบ้านสวนกง

“แรกก่อนเรามีความสุขกับการหากินของเรา เราปลูกต้นไม้ ออกทะเล หากินในทะเล มีอะไรเราก็กินอย่างนั้น มันเป็นสภาพที่สมบูรณ์และไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ คำว่าสมบูรณ์นี้คือว่า ถ้าออกทะเลไปแล้ว ก็ทำเครื่องแกงรอไว้ได้เลย ออกไปนี่คือว่าต้องได้แกงแน่ ไม่อดแน่ๆ ส่วนที่ขายก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ก็ได้ขายแน่ ตัวชี้วัดความสมบูรณ์มีเต่า มีโลมา สัตว์น้ำในทะเลมีมากเป็นร้อยชนิด อุดมสมบูรณ์มากๆ”

“แต่เมื่อได้ยินข่าวว่าอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขนาดใหญ่จะเข้ามา ทำให้ปะติดปะต่อเรื่องนี้ขึ้นมาได้ ตอนแรกมีโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซีย ต่อมาก็มีโรงไฟฟ้าจะนะ พวกเราก็เริ่มสงสัยกันว่าทำไมต้องมีโรงแยกก๊าซฯ ทำไมต้องมีโรงไฟฟ้าอีก ทั้งๆ ที่ก็มีไฟฟ้าใช้กันอยู่แล้ว”

“พอมีโรงแยกก๊าซฯ โรงไฟฟ้า ไฟฟ้ากับก๊าซก็ยังราคาแพงเหมือนเดิม แรกก่อนเขาหลอกชาวบ้านว่าราคาจะถูกลงกว่าเดิม สุดท้ายกลับแพงกว่าเดิมอีก พอมาศึกษาสิ่งที่เกิดขึ้นที่บ้านเราทั้งหมดทำให้รู้ว่า ตอนนี้บ้านเราจะมีท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่เกิดขึ้นอีก แล้วก็จะเกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่องอีก ทะเลบ้านเราก็คงเละตุ้มเป๊ะแน่”

“เราเห็นตัวอย่างที่จังหวัดระยอง เราไม่ยอมให้บ้านเราเป็นเหมือนระยอง บทเรียนความเจ็บปวดของคนระยองนั้นมีอยู่แล้ว”

วิถีทะเล วิถีชุมชนของชาวจะนะเป็น “อารยวิถี” ด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างแท้จริง ไม่แยกคนออกจากธรรมชาติ และไม่แยกธรรมชาติออกจากคน ดังโลกวันนี้ที่ต่างมุ่งทำลายกันและกันจนเป็น “หายนะยุค” อยู่ทั่วไป

สังคมไทยพึงศึกษา “อารยวิถี” จากชุมชนชาวจะนะอย่างจริงจังและจริงใจ เพื่อตระหนักถึงคุณค่ามรดกแผ่นดิน และภูมิปัญญาของแผ่นดินที่ยังดำรงอยู่

วาทะบทของผู้ประสานงานกลุ่มอนุรักษ์ฯ ย้ำไว้ท้ายสุด ดังนี้

“ทะเลคือชีวิตของเรา เพราะทุกสิ่งที่เรามีได้จากการหากินในทะเลทั้งหมด ทะเลเป็นสิ่งที่มีบุญคุณ หากปล่อยให้อะไรเกิดขึ้นกับทะเลโดยที่เราไม่ไปทำอะไรเลย ถือเป็นการเนรคุณทะเล เพราะว่าบรรพบุรุษของเราที่อยู่ที่นี่มาร้อยกว่าปีแล้ว”

จะชนะ

๐ ฟ้าใสทะเลใส

แลคนใสสืบรักษา

พิสูจน์ได้ด้วยเวลา

แลด้วยอารยวิถี

๐ นี้คือวิถีใหม่

แห่งโลกใหม่ในวันนี้

สงขลาถิ่นธานี

ยังนำทางไม่ห่างเห

๐ ทะเลกำลังแถลง

ผ่านลูกสาวแห่งถิ่นทะเล

จงมนุษย์หยุดเกเร

หยุดรังแกกันและกัน

๐ ให้ทะเลได้สำแดง

พลังแห่งการแบ่งปัน

ธรรมชาติจักจัดสรร

สัจธรรมจักนำชัย

๐ ด้วยวิถีความพอเพียง

เป็นอย่างเยี่ยงแห่งยุคสมัย

นำร่องครรลองไทย

นำชัยชนะเถิดชาวจะนะ!