คุณผู้อ่านเคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่เราหมุนตัวอยู่หน้ากระจกครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังไม่แน่ใจว่าชุดที่กำลังสวมใส่อยู่นั้นเหมาะกับตัวเองแค่ไหนหรือเปล่าคะ

หรือบางทีหมุนตัวไปมายังไงก็ยังเห็นตัวเองไม่ครบสักที ก็ต้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพตัวเองในกระจกจะได้เอามาพินิจพิเคราะห์ให้ชัดๆ หรือถ่ายเสร็จปุ๊บก็ส่งไปให้เพื่อน ส่งเข้ากรุ๊ปไลน์ไปขอความเห็นว่า เสื้อตัวนี้แมตช์กับกางเกงตัวนี้เข้าหรือเปล่า กระโปรงสไตล์นี้ต้องเลือกเสื้อตัวบนแบบไหน หรือสูทติดกระดุมแบบนี้เท่ที่สุดแล้วหรือยัง

และตราบใดที่ยังไม่ได้คำแนะนำจากคนที่เราไว้วางใจในเรื่องเซนส์ด้านแฟชั่นได้ การก้าวออกจากบ้านก็จะไม่เป็นไปด้วยความมั่นใจเต็มร้อย

ซึ่งเพื่อนที่เราขอคำปรึกษาด้วยก็คงจะไม่ว่างให้เราส่งข้อความไปขอคำแนะนำเรื่องการแต่งตัวได้ตลอดเวลาหรอกค่ะ

เพราะฉะนั้น ลองมาถามปัญญาประดิษฐ์แทนดีไหมล่ะคะ

 

อเมซอน บริษัทค้าปลีกออนไลน์ซึ่งได้ก้าวขึ้นแท่นการเป็นบริษัทเทคโนโลยีเต็มตัวไปแล้ว เปิดตัวแก็ดเจ็ตชิ้นใหม่ที่มีความสดใหม่ทางด้านไอเดียอยู่มาก

เราเคยคุยกันถึงเรื่อง Amazon Echo (อเมซอน เอ็กโค่)

แก็ดเจ็ตผู้ช่วยส่วนตัวประจำบ้านที่เราสามารถสั่งงานด้วยเสียงมาแล้วก่อนหน้านี้ แก็ดเจ็ตชิ้นใหม่นี้ก็แตกหน่อมาจาก Echo นี่แหละค่ะ

ดังนั้น มันจึงได้ชื่อว่า Echo Look (เอ็กโค่ ลุค)

เอ็กโค่ ลุค ทำอะไรได้บ้าง

หน้าที่ของมันอันดับแรกคือเป็นกล้องถ่ายเซลฟี่แบบสแตนด์อะโลน สามารถถ่ายภาพครอบคลุมทั้งตัวได้ วางมันเอาไว้ตรงหน้า แล้วเราก็ใช้เสียงสั่งการให้มันช่วยถ่ายภาพให้ ซึ่งเราก็สามารถนำภาพที่ถ่ายนั้นกลับมาเช็กลุคเต็มตัวของเราได้อีกครั้งโดยที่ตัวเราเองในภาพก็ยืนโพสท่าสวยๆ ไม่ต้องคอยถือโทรศัพท์แล้วมาถ่ายผ่านกระจกอีกต่อไป

หรือจะสั่งให้มันถ่ายวิดีโอก็ได้นะคะ พอสั่งให้ถ่ายวิดีโอปุ๊บ สิ่งเดียวที่เราต้องทำก็คือหมุนตัวไปรอบๆ ให้กล้องมันเก็บภาพเราได้จากทุกด้าน

หมดปัญหาลืมรูดซิป ติดกระดุม หรือมีรอยป้งรอยเปื้อนอะไรข้างหลังที่คนอื่นทั้งขบวนรถไฟฟ้าเห็นแต่เราไม่เห็น

แม้เอ็กโค่ ลุคจะไม่ได้มาพร้อมกับหน้าจอวิวฟายเดอร์ แต่เราสามารถเห็นทุกความเคลื่อนไหวได้แบบตามเวลาจริงผ่านทางหน้าจอสมาร์ตโฟนของเราเอง

 

ความเจ๋งไม่ได้จบแค่ช่วยเราถ่ายภาพเซลฟี่เต็มตัวหรือรอบตัวเท่านั้นนะคะ แต่ภาพที่เราถ่ายออกมาแล้วสามารถนำไปใช้งานกับแอพพลิเคชั่น Echo Look ภายใต้ฟีเจอร์ชื่อ Style Check หรือการตรวจสอบสไตล์ของเรา ด้วยการใช้แมชชีนเลิร์นนิ่งในการเปรียบเทียบชุดที่เราเลือกใส่ในแบบต่างๆ และให้คะแนนเราว่าชุดไหนใส่ออกมาแล้วดูดี และมีคำแนะนำทางด้านแฟชั่นอะไรให้เราบ้าง ซึ่งจะให้คะแนนยังไงและคำแนะนำแบบไหนก็มาจากการประมวลผลข้อมูลของแมชชีนเลิร์นนิ่งผสมผสานไปกับคำแนะนำด้านแฟชั่นจากกูรูผู้เชี่ยวชาญในวงการแฟชั่นนั่นเอง

หรือจะพูดให้ง่ายๆ ก็คือว่าตอนนี้เราได้เดินทางมาถึงยุคที่ปัญญาประดิษฐ์จะเป็นคนช่วยเราตัดสินใจแล้วว่าเราควรแต่งตัวแบบไหนออกจากบ้านถึงจะดูดีที่สุด

แหม ซู่ชิงรอเวลานี้มานานแล้วค่ะ เบื่อเหลือเกินกับเช้าวันที่เขวี้ยงทุกอย่างที่ลองใส่แล้วไม่ถูกใจลงไปกองกันเป็นพะเนินอยู่บนเตียงเนี่ย

 

คําถามข้อต่อไปก็คือ แล้วอเมซอนได้อะไรจากการคิดประดิษฐ์แก็ดเจ็ตแบบนี้ขึ้นมา

แน่นอนว่าทุกอย่างที่อเมซอนทำมาโดยตลอดนั้นก็คือการปูทางให้ทุกคนสามารถเข้าไปสั่งซื้อของบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของตัวเองได้ง่ายขึ้น

นอกจากจะทำกำไรได้จากยอดขายตัวแก็ดเจ็ตอย่าง Echo Look เองแล้ว

เสื้อผ้าเครื่องประดับทั้งหลายแหล่ที่วางขายอยู่บนเว็บไซต์ก็จะถูกนำมาเสนอแนะให้ลูกค้าได้สั่งซื้อไปประดับเรือนร่างให้สวยเก๋อย่างแน่นอน

นอกจากการให้คำแนะนำด้านแฟชั่นแล้ว Echo Look ก็ยังสามารถทำหน้าที่พื้นฐานอื่นๆ ที่ Echo สามารถทำได้ อย่างเช่น การใช้งานในการถามข้อมูลสำคัญต่างๆ อย่างสภาพอากาศ ตารางนัดหมาย ก็สามารถสวมทำแทนกันได้เลย

ซู่ชิงอยากชี้ให้เห็นเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือความเก่งของปัญญาประดิษฐ์ค่ะ

ไม่เพียงแต่มันจะเห็นและรู้ได้ว่าสิ่งที่อยู่ในภาพคืออะไร แต่มันยังสามารถเข้าใจลักษณะของสิ่งๆ นั้นได้ด้วย

เช่น มันไม่ได้แค่รู้ว่าที่เราสวมอยู่คือเสื้อเชิ้ต แต่มันรู้ไปถึงว่าเสื้อเชิ้ตที่เราสวมอยู่สีอะไร ลายอะไร และเสื้อเชิ้ตแบบนี้เข้ากับกระโปรงสีและลายที่เราเลือกสวมอยู่ด้วยหรือเปล่า

เช่นเดียวกับที่เวลาปัญญาประดิษฐ์วิเคราะห์ภาพถ่ายเดี๋ยวนี้ มันไม่ได้รู้แค่ว่านี่คือสุนัข

แต่มันรู้ว่านี่คือสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลที่นั่งอยู่บนโซฟาสีเขียวอะไรทำนองนั้น

 

อีกประเด็นคือ ก่อนหน้านี้แค่ Echo มาพร้อมไมโครโฟนก็ทำให้คนรู้สึกหวาดระแวงนิดหนึ่งแล้วว่าจะแอบบันทึกเสียงอะไรไว้ตอนเราไม่รู้หรือเปล่า แล้ว Echo Look มีทั้งไมค์และทั้งกล้อง แถมยังสามารถวิเคราะห์สิ่งที่อยู่ในภาพได้อีก ก็ทำให้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกแขยงว่ามันคุกคามความเป็นส่วนตัวมากเกินไปหรือเปล่า

แถมเวลาเราถ่ายภาพตัวเราเองแต่งตัวส่วนใหญ่แล้วเราก็มักจะอยู่ในส่วนของบ้านที่เป็นส่วนตัวมากที่สุดอย่างในห้องนอน หรือในห้องน้ำ

แล้วปัญญาประดิษฐ์จะสามารถเห็นและวิเคราะห์บริบทรอบๆ ของภาพนั้นด้วยหรือไม่

อย่างไรก็ตาม อเมซอนก็ทำให้เราคลายความกังวลไปเปลาะหนึ่ง (เปลาะหนึ่งเท่านั้นนะคะ) ด้วยการบอกว่า Look จะติดตั้งปุ่มปิดกล้องและไมค์เอาไว้เพื่อความสบายใจของลูกค้า และปัญญาประดิษฐ์จะไม่เจ๋อไปวิเคราะห์อะไรอย่างอื่นนอกจากเครื่องแต่งกายของคนที่อยู่ในภาพ

นี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งแหละค่ะที่เรามาถึงทางแยกว่าเราจะเลือกให้แก็ดเจ็ตประเภทนี้เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้เราโดยที่เราอาจจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวในบางแง่มุมไปหรือเปล่า

ดูเหมือนนี่ก็จะยังเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันต่อไปแบบไม่มีวันจบสิ้น

และคนที่จะทำให้เรื่องนี้เคลียร์ได้มากที่สุดก็คืออเมซอนผู้ผลิตแก็ดเจ็ตชิ้นนี้นี่แหละที่จะต้องออกมาชี้แจงแถลงไขถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อย่างละเอียดถี่ถ้วน

ซึ่งถ้าชั่งน้ำหนักดูแล้วว่าคุ้ม วางขายเมื่อไหร่ก็เตรียมควักเงิน 199 ดอลลาร์ (หรือประมาณเกือบ 7,000 บาท) รอไว้ได้เลยค่ะ