จิตต์สุภา ฉิน : เน็ตไอดอลรุ่นใหญ่แต่หัวใจยังเยาว์

จิตต์สุภา ฉินFacebook.com/JitsupaChin

ความน่าชื่นใจอย่างหนึ่งของการใช้โซเชียลมีเดียคือการได้เห็นว่านี่เป็นเครื่องมือที่ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนไปได้หลากหลายรูปแบบ

หนึ่งในนั้นก็คือชีวิตของผู้สูงวัยที่เมื่อย่างเข้าสู่วัยเจ็ดสิบ หรือแปดสิบขึ้นไปแล้ว ก็จะเริ่มรู้สึกท้อแท้กับการดำรงอยู่

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากสภาพทางการเงินไม่คล่องตัวนัก หรือคาดหวังให้มีลูกหลานห้อมล้อมแต่รอบตัวกลับว่างเปล่า โซเชียลมีเดียอาจจะเป็นสิ่งชุบชูใจให้พวกเขารู้สึกว่ายังมีเรื่องดีๆ ให้เฝ้ารอได้

เรื่องล่าสุดที่กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกก็คือคู่สามี-ภรรยาวัย 80 กว่าปีชาวไต้หวันที่ดำเนินธุรกิจซักรีดมาอย่างยาวนาน

จู่ๆ วันหนึ่งก็โด่งดังจากชุดภาพถ่ายแฟชั่นที่ทั้งคู่สวมเสื้อผ้าที่ลูกค้าส่งซักรีดและไม่เคยมารับกลับไป

โดยจะโพสท่าอยู่ตามจุดต่างๆ อย่างหน้าเครื่องซักผ้า ยืนอยู่ข้างๆ ราวแขวนผ้าที่มีเสื้อผ้าเรียงรายอยู่มากมาย

แต่ละภาพก็น่ารักเสียจนทำให้มีผู้ติดตามบน Instagram เป็นจำนวนหลายแสนภายในเวลาอันรวดเร็ว

ความสำเร็จในครั้งนี้ต้องขอบคุณผู้เป็นหลานชายที่บอกว่ารู้สึกโหวงเหวงที่ได้เห็นคุณปู่-คุณย่านั่งมองออกไปที่ถนนด้วยสายตาที่ว่างเปล่าทุกวัน

เขาก็เลยปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าอยากจะชวนทั้งคู่ทำอะไรสนุกๆ ก็เลยเอาเสื้อผ้าที่ลูกค้าทิ้งไว้ซึ่งซักรีดเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่ไม่เคยได้รับค่าตอบแทนมาสวมและโพสท่าถ่ายภาพเป็นนายแบบและนางแบบ

ซึ่งไม่ใช่แค่ถูกจริตผู้คนบนอินเตอร์เน็ตในไต้หวันเท่านั้น

แต่สำนักข่าวดังๆ ทั่วโลกก็หยิบเรื่องราวของทั้งสองคนไปนำเสนออย่างพร้อมเพรียง

 

ผลตอบแทนที่เด่นชัดที่สุดจากเรื่องนี้ก็คือความกระปรี้กระเปร่าราวกับเป็นคนละคนของทั้งสามีและภรรยาสูงวัย จากที่เคยรู้สึกว่าตัวเองแก่เหลือเกิน ก็กลับมามีพลังเหมือนยังหนุ่มยังสาว

คุณปู่บอกว่าได้สวมแว่นกันแดดถ่ายภาพแล้วรู้สึกหนุ่มมากแถมเพื่อนๆ ก็ยังแซวว่ายิ่งดังก็ยิ่งหน้าเด็ก

ในขณะที่คุณย่าบอกว่าถึงตัวจะแก่ แต่หัวใจยังสาวอยู่มาก สร้างรอยยิ้มและความรู้สึกดีๆ ให้กับทุกคนในครอบครัว

และก็ยังได้รณรงค์ให้คนทั่วไปได้เห็นคุณค่าของเสื้อผ้าชุดเก่า กลับไปสำรวจตู้เสื้อผ้าของตัวเองว่ามีเสื้อผ้าเก่าๆ ที่เอากลับมาใส่หรือนำไปบริจาคการกุศลได้บ้างไหม

และที่แน่ๆ ก็คือ มีเสื้อผ้าที่ลืมทิ้งไว้ที่ร้านซักรีดบ้างหรือเปล่า

 

ปรากฏการณ์ผู้สูงวัยครองโซเชียลมีเดียไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่นี่ที่เดียว แต่ดูเหมือนกับว่าเทรนด์ในยุคนี้คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจติดตามชีวิตของคนรุ่นก่อนมากขึ้น

อย่างในจีน แทนที่เซเลบบนอินเตอร์เน็ตจะเป็นคนวัยหนุ่มสาวที่มีไลฟ์สไตล์แอ๊กทีฟ ออกกำลังกาย มีกล้ามหน้าท้องชัดๆ เหมือนอย่างที่เราเคยเห็นกันมาโดยตลอด

แต่กลับกลายเป็นผู้ใหญ่ในวัยผมขาวที่ใบหน้ามีร่องรอยเหี่ยวย่นที่เกิดขึ้นตามวัย แต่ลุกขึ้นมาท้าทายภาพจำเดิมๆ ด้วยการถ่ายคลิปวิดีโอทั้งเต้นคัฟเวอร์เพลง เล่นมุขตลกขบขัน หรือแสดงบทบาทสมมุติสนุกๆ

ที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินความเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องความแบ่งแยกทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งหมายถึงการที่คนรุ่นใหม่มีทักษะในการใช้งานดิจิตอลในทุกแง่มุมของชีวิต ทำให้คนรุ่นก่อนซึ่งมีกระบวนการเรียนรู้เรื่องนี้ช้ากว่าถูกทิ้งไว้ข้างหลังจนไม่สามารถเชื่อมโยงเข้ากับโลกที่หมุนเร็วได้อีกต่อไป

เรื่องนี้กำลังค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปทีละน้อยเพราะผู้สูงวัยในยุคนี้กำลังเรียนรู้วิธีการใช้งานดิจิตอลโดยเริ่มจากรูปแบบง่ายๆ อย่างการใช้ LINE ในการติดต่อสื่อสารกับคนในครอบครัว หรือการใช้โซเชียลมีเดียที่ไม่มีฟีเจอร์สลับซับซ้อนสักเท่าไหร่ อย่างเช่น TikTok

ผู้สูงวัยชื่นชอบการดูวิดีโอสั้นๆ เพราะว่าแอพพ์เหล่านี้ใช้งานง่าย เพียงแค่ปาดขึ้นข้างบนเรื่อยๆ ก็จะเจอกับวิดีโอใหม่ๆ หรือถ้าจะสร้างวิดีโอของตัวเองก็แค่กดปุ่มเท่านั้น ทำให้ไม่มีกำแพงทางด้านวัยเข้ามาขวางกั้น

ใครก็ตามที่มีโทรศัพท์ มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ก็สามารถบันทึกวิดีโอตัวเองและแชร์ให้คนอื่นดูได้ จึงเหมือนเป็นการเกลี่ยพื้นที่ระหว่างคนธรรมดาทั่วไปหรือคนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วให้มาเท่าเทียมกันได้มากขึ้น

กลุ่มคนที่ได้รับประโยชน์จากโซเชียลมีเดียแชร์วิดีโอที่ใช้งานแสนง่ายนั้นควบรวมไปถึงผู้สูงวัยตามชนบท อย่างเช่นในจีนและอินเดีย ซึ่งชีวิตของคนกลุ่มนี้อาจจะไม่เคยหาดูได้ง่ายนักบนโซเชียลมีเดียที่เต็มไปด้วยวัยรุ่นในเมืองใหญ่

เรื่องราวชีวิตของพวกเขาจึงน่าสนใจสำหรับเด็กรุ่นใหม่

 

Instagram ก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่เหมาะกับผู้สูงวัยเนื่องจากใช้ภาพถ่ายเป็นหลัก

ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ก็มีคนดังในวัยเจ็ดสิบแปดสิบที่สร้างชื่อเสียงไปได้แล้วบางส่วน อย่างเช่น Helen Winkle หรือ @baddiewinkle อินฟลูเอนเซอร์รุ่นใหญ่ที่มียอดผู้ติดตามมากถึง 3.7 ล้านคน รับงานโฆษณาไม่หวาดไม่ไหว

Iris Apfel แฟชั่นไอคอนชื่อดังวัย 97 ปีที่ไม่มีวันไหนไม่สนุกกับการแต่งตัวตามสไตล์ฉูดฉาดและเต็มไปด้วยเครื่องประดับสีสันสดใส

หรือ Kimiko Nishimoto คุณยายขี้เล่นที่ชอบถ่ายภาพตลกๆ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นอินฟลูเอนเซอร์รุ่นใหญ่ที่ทำให้เด็กรุ่นใหม่ต้องออกปากว่าแก่ตัวไปก็อยากจะเป็นให้ได้สักครึ่งหนึ่งของพวกเธอบ้าง

เรื่องราวของคู่รักเจ้าของร้านซักรีดในไต้หวันทำให้ฉันได้คิดขึ้นมาว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่ผู้สูงวัยที่รู้สึกว่าชีวิตว่างเปล่าควรจะได้รับโอกาสในการลองใช้โซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่ในการแสดงออกหรือเชื่อมโยงกับโลกภายนอก

และจะดียิ่งขึ้นไปอีกหากได้รับแรงสนับสนุนจากคนในครอบครัว อย่างหลานชายของเจ้าของร้านซักรีดที่เป็นทั้งคนออกไอเดีย หามุมสวยๆ ในการถ่ายภาพ โพสต์บนโซเชียลมีเดีย และยังคอยมานั่งแปลอีเมลจากแฟนๆ ทั่วโลกให้ปู่กับย่าได้ฟังด้วย

จากเดิมที่เคยนั่งเหม่อมองออกไปนอกร้าน ตอนนี้ก็กลับมามีแรงในการทำอะไรใหม่ๆ และยิ่งรักงานที่ทำอยู่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

 

ในเมืองไทย คู่แรกที่ฉันได้เห็นก็น่าจะเป็นคู่อาม่า-หลาน เบ๊นซ์ อาปาเช่ ที่มีจุดเริ่มต้นขึ้นมาคล้ายๆ กันคืออยากให้อาม่าได้มีอะไรสนุกๆ ทำให้มีชีวิตชีวาขึ้น กลายมาเป็นคลิปน่ารักๆ ที่เราได้เห็นอาม่าร่วมแสดงบทบาทสมมุติด้วยอย่างสนุกสนาน

และคลิปเหล่านั้นก็เป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างอาม่ากับทุกๆ คนในครอบครัว เปิดโอกาสให้อาม่าได้ออกอีเวนต์ไปพบเจอผู้คนและได้เห็นคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเจอกันเลยแต่มาแสดงความชื่นชมและชื่นชอบจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

อ่านบทความนี้แล้วก็อยากให้คุณผู้อ่านรุ่นใหญ่ลองนึกดูว่ามีโซเชียลมีเดียไหนที่น่าจะเหมาะกับเราเองบ้าง เผื่อว่าจะค้นพบทางของตัวเองและมีกิจกรรมสนุกๆ อะไรทำ หรือหากเป็นลูกหลานก็อาจจะลองสำรวจความเป็นไปได้ว่าเราดึงเอาแง่มุมน่ารักๆ บางอย่างในชีวิตประจำวันของคุณปู่-คุณย่าเรา

มาปรับนู่นนิดนี่หน่อย ใส่ความจี๊ดจ๊าดเข้าไป และผลักดันให้พวกท่านกลายเป็นเน็ตไอดอลหน้าใหม่ได้หรือเปล่า

 


กว่า 12 ปี ของการจัดงาน Healthcare เครือมติชนร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ส่งต่อความรู้และให้บริการสุขภาพแก่คนไทยในทุกมิติ ทั้งการป้องกัน ดูแล และรักษา โดยเฉพาะการบริการตรวจสุขภาพฟรีจากสถานพยาบาลชั้นนำ เวิร์กชอป ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ รวมถึงการยกระดับเวทีเสวนาให้เป็น “Health Forum” เปิดเวทีให้แพทย์ และ Speaker ระดับประเทศ มาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการป้องกัน การรักษา และนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงเรื่องราวสุขภาพในแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมาให้อัปเดตตลอด 4 วันของการจัดงาน เดินทางสะดวกโดยทางด่วนและ MRT ลงสถานีสามย่าน ทางออกที่ 2
ลงทะเบียนเข้างานฟรี มีต้นไม้แจกด้วยนะ (จำนวนจำกัด)