เป็นไปตามคาดการณ์ที่ ‘โฆษกรัฐบาล’ คนใหม่ จะเป็น ‘ผู้ชาย’ ตามที่มีเสียงจาก ‘คนในพลังประชารัฐ’ มองเอาไว้ เพื่อแก้ปัญหา ‘สงครามนางฟ้า’ ที่เคยเกิดขึ้น แต่โจทย์ยากสำคัญคือ ‘สเปกโฆษก’ ของ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ วางไว้คือมีความเข้าใจข้อกฎหมาย-เศรษฐกิจ และเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ
.
ทำให้มีหลายชื่อถูกเสนอขึ้นมา นับตั้งแต่ ‘อ.แหม่ม’นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ลาออกจาก ‘โฆษกรัฐบาล’ เพื่อเตรียมตัวนั่งเป็น รมช.แรงงาน ซึ่ง ‘บิ๊กตู่’ ก็ใช้เวลาพอสมควรในการพิจารณาแต่ละรายชื่อ จนมาสรุปที่ชื่อ ‘เจมส์-อนุชา บูรพชัยศรี’เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ ที่ลาออกจาก ‘ประชาธิปัตย์’ เพราะสอบตกเลือกตั้ง 24มี.ค.62 จึงมาทำงานร่วมกับ ‘ตั้น-ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ’ แทน
.
สำหรับ ‘อนุชา’ เป็น อดีต ส.ส.กทม. ประชาธิปัตย์ 2 สมัย ผ่านงานในสภามานาน อีกทั้งมีความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ และเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ ด้วยดีกรีนักเรียนนอก จบปริญญาตรี(เกียรตินิยม) คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเครื่องกล จากมหาวิทยาลัยอเดเลด (The University of Adelaide) ประเทศออสเตรเลีย

จบปริญญาโท(ดีเด่น) คณะวิทยาศาสตร์ สาขาการพลังงานและการเผาไหม้ มหาวิทยาลัยลีดส์ (University of Leeds) ประเทศอังกฤษ
และ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการเงินและการตลาด สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
.
มัธยมศึกษาตอนปลาย เซเครทฮาร์ท คอลเลจ (Sacred Heart College) ประเทศออสเตรเลีย และมัธยมศึกษาตอนต้น ร.ร.อัสสัมชัญ บางรัก
.
อีกทั้งเคยเป็นทีมนโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ ในการนำเสนอนโยบาย ด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม โลจิสติกส์ และด้านอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม ‘เจมส์-อนุชา’ ได้พบกับ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อราว 10 ปีก่อน ในขณะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เป็น รองผบ.ทบ. และ ‘เจมส์-อนุชา’ เป็น ส.ส.ประชาธิปัตย์ โดยพบกันที่ ศอฉ. หรือ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในช่วงที่ รบ.อภิสิทธิ์ กรำศึกกับคนเสื้อแดง โดยที่ตั้ง ศอฉ. อยู่ในพื้นที่ ร.11 รอ. เดิม
.
การเข้ามาของ ‘โฆษกเจมส์’ ก็ถูกมองว่าเป็น ‘โควต้า’ ของก๊ก กปปส. ในพรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเพิ่มจากการปรับ ครม. ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งในอดีตเอง ‘เจมส์-อนุชา’ ก็เคยขึ้นเวที กปปส. แต่ภาพจำไม่เท่า 4 ทหารเสือ กปปส. ได้แก่ ‘ลูกหมี’ชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร ‘บี’พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ‘ตั้น’ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และ ‘เสี่ยจั้ม’สกลธี ภัททิยกุล
.
ซึ่งก่อนหน้านี้จะเสนอชื่อ ‘สกลธี’ มานั่ง โฆษกรัฐบาล แต่ถูกเบรก เพราะภาพจำ กปปส. เกรงจะถูกโจมตีได้ และมี กปปส. อยู่ในรัฐบาลแล้วหลายคน

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ได้ต่อสายตรงถึง ‘อนุชา’ ด้วยตนเอง ในการทาบทามมาเป็น ‘โฆษกรัฐบาล’
ส่วนแผนการทำงานนั้น ยังคงอยู่ในการพูดคุย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ให้โจทย์เบื้องต้นไปแล้ว ในการทำงานแบบ New Normal ในการชี้แจงสิ่งต่างๆให้สอดคล้องสถานการณ์ ใช้ภาษาเข้าใจง่าย ให้ประชาชนทราบผลงานรัฐบาลที่ทำมาและในอนาคต รวมทั้งประชาชนจะได้อะไร รวมทั้งการใช้สื่อออนไลน์ต่างๆ มากกว่าการตอบโต้ทางการเมือง โดย นายกฯ หวังให้เป็นหน้าที่โฆษกพรรค ชี้แจงแทน