การนำเสนอ”วิ่งนะวิ่ง นะแฮมทาโร่”ถือว่าสร้างสรรค์อย่างยิ่งอยู่แล้ว การนำเสนอ”แจวเรือหาประชาธิปไตย”ถือว่าสร้างสรรค์อย่างยิ่งอยู่ แล้ว

การนำเสนอ”กิจกรรมเขียนจดหมายบันทึกเก็บไว้ ก่อนเกิดสู่สา ธารณะ 10 ปี”ถือว่าสร้างสรรค์อย่างยิ่งอยู่แล้ว

แต่พอมาถึงกิจกรรม”ยืนชูกระดาษเปล่า” ยิ่งนะจังงัง

ประการหลังเป็นกิจกรรมอันจัดขึ้น ณ บริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน ฝั่งห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ถนนพระรามที่ 1 แขวง วังใหม่ เขตปทุมวัน

เป็นการยืนชูกระดาษเปล่าเป็นระยะเวลา 10 นาที

เมื่อตรวจสอบรายละเอียดก็เป็นที่ทราบกันว่าจัดโดย”กลุ่มมศว.คนรุ่นเปลี่ยน”

เมื่อตรวจสอบไปอีกก็จะประจักษ์ว่า”กลุ่มมศว.คนรุ่นเปลี่ยน”นี้เองที่เคยจัดกิจกรรม “เยี่ยมชมสวนยาม 2 ทุ่ม”มาแล้ว

นี่คือนวัตกรรม นี่คือนฤมิตรกรรม

 

ตอนที่”กลุ่มมศว.คนรุ่นเปลี่ยน”ดำเนินกิจกรรม”เยี่ยมชมสวนยาม 2 ทุ่ม” ณ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็สร้างความอึกทึกครึกโครม มาแล้วในทางการเมือง

ทั้งๆที่เป็นการเยี่ยมชมสวนโดยคนเพียง 1 คน

ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองทั้งในและนอกเครื่องแบบพรึบพรับพร้อมหน้า

จุดเด่นอยู่ที่ฉายภาพความขึงขังของ”เจ้าหน้าที่”ออกมา

มาครานี้เมื่อเป็นการ”ยืนชูกระดาษเปล่า”ยิ่งสร้างความงุนงงสงกาเป็นอย่างสูง โดยเฉพาะเมื่อเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบเข้าไปสอบถามและตรวจสอบกระดาษเปล่า

สภาพการณ์ก็ดำเนินไปเหมือนกับ”เยี่ยมชมสวนยาม 2 ทุ่ม”นั่นเอง คือเป็นการปะทะและสังสรรค์กันภายในช่องว่างแห่งความเงียบและความว่างเปล่า

แปรความว่างเปล่าให้เป็นพลัง เนรมิตความเงียบให้กลายเป็นความอึกทึก

 

ไม่ว่าจะเป็น”วิ่งนะวิ่ง นะแฮมทาโร่” ไม่ว่าจะเป็น”เยี่ยมชมสวนยาม 2 ทุ่ม” ไม่ว่าจะเป็นปฏิบัติการ”แจวเรือหาประชาธิปไตย” ไม่ว่าจะเป็น”ยืนชูกระดาษเปล่า”

ปรากฏขึ้นในท่ามกลางพรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอันเข้มข้น

ปรากฏขึ้นในความเงียบ ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า