การศึกษา

 

ตรวจผลงาน ‘วธ.’

1 ปีใต้เงา ‘อิทธิพล คุณปลื้ม’

 

เพิ่งผ่านครบรอบ 1 ปีที่นายอิทธิพล คุณปลื้ม หรือเสี่ยติ๊ก เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) พร้อมๆ กับกระแสมีชื่อถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แม้เจ้าตัวจะออกมาบอกว่า เป็นแค่การคาดเดา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี…

ย้อนกลับไปวันรับตำแหน่ง นายอิทธิพลประกาศนโยบาย ‘เศรษฐกิจวัฒนธรรม’ เน้นเรื่องความเป็นเอกลักษณ์ไทย การสร้างมูลค่าเพิ่ม ต่อยอดอุตสาหกรรมไปสู่เศรษฐกิจวัฒนธรรมสร้างสรรค์ บนพื้นฐานของทุนทางวัฒนธรรมที่มี

มุ่งให้คนในวัฒนธรรมมองถึงการสร้างรายได้ให้ประเทศมากขึ้น จากเดิมมองว่าเป็นเอกลักษณ์ไทย แม้จะมีข้อจำกัดตรงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงจากของเก่าที่มี ได้อย่างเป็นนัยสำคัญมากนัก แต่ขอให้ไปช่วยกันพัฒนา ให้สังคมไทยร่วมกันคิดว่า วัฒนธรรมไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัว วัฒนธรรมไทยเป็นคุณค่าที่ไม่สามารถประเมินคุณค่าได้ พัฒนามาเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทั้งวัดวาอาราม วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนไทยในแต่ละท้องถิ่น ฯลฯ

พื้นฐานของหลักคิดมาจากพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งในเรื่องของสืบสาน รักษา และต่อยอด รวมถึงความมีธรรมาภิบาล ภูมิคุ้มกันตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

 

นอกจากเรื่องงานเชิงนโยบายแล้ว ยังมีประเด็นร้อนพิสูจน์ฝีมือ ‘เสี่ยติ๊ก’ เพราะทันทีที่เข้ามารับตำแหน่งช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2562 ก็มีข้อร้องเรียนว่า การสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการตำแหน่งนักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ สังกัดกองพระราชพิธีการศพ ที่ได้รับพระราชทาน จำนวน 150 อัตรา ปฏิบัติงานเกี่ยวกับพิธีการศพ ซึ่งเป็นงานที่สำนักพระราชวังได้โอนภารกิจงานเกี่ยวกับพิธีศพในพระราชานุเคราะห์ให้ วธ.เป็นผู้รับผิดชอบ ที่ส่อว่าจะไม่โปร่งใส

เนื่องจากมีข้อกล่าวหาว่า มีการนำข้อสอบที่ใช้สอบจริงไปให้ผู้เข้าสอบที่เป็นอดีตผู้ติดตาม และทีมงานของอดีตรัฐมนตรีว่าการ วธ.ดูก่อน ทำให้สอบติดในลำดับต้นๆ หลายราย

มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหาย ไม่มีการนำผลสืบข้อเท็จจริงออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะ

ทั้งที่เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ!!

 

ขณะที่ผลงานตามนโยบายที่ประกาศไว้ นักวิชาการอย่างนายสมฤทธิ์ ลือชัย นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ มองว่า ถ้าต้องให้คะแนนการทำงานนายอิทธิพลในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา คงต้องให้สอบตก เพราะไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม ทั้งที่สถานการณ์ประเทศในปัจจุบัน ควรใช้งานด้านวัฒนธรรมเข้ามาช่วยรณรงค์แก้ไขปัญหา โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ทั้งความมีวินัยในการเว้นระยะห่างทางสังคม การรักษาความสะอาด แต่กลับไม่เห็นผลงานในส่วนนี้

ถือว่า วธ.พลาดโอกาสในการสร้างผลงาน เพราะไปคิดแต่เรื่องระบำรำฟ้อนเพียงมิติเดียว แต่ลืมมิติด้านวิถีชีวิต การรักษาความสะอาด และการรักษาระเบียบวินัย ก็เป็นส่วนหนึ่งของงานด้านวัฒนธรรมเช่นเดียวกัน

“1 ปีที่ผ่านมา ผมยังไม่เห็นภาพการทำงานที่หลากหลายของนายอิทธิพล ดังนั้น จะให้ประเมินเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากให้สอบตก ถ้าเต็ม 10 คะแนน ก็คงได้ต่ำกว่า 5 คะแนน ส่วนคนที่เหมาะสมจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการ วธ.แทนนั้น ผมคิดว่าจะเป็นใครก็ได้ แต่ขอให้เป็นคนใจกว้าง เปิดกว้าง มองวัฒนธรรมในมุมที่หลากหลาย นำวัฒนธรรมมาใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน หรือสร้างวัฒนธรรมใหม่ได้ จะเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก”

นายสมฤทธิ์กล่าว

 

ส่วนนายวรา จันทร์มณี เลขาธิการชมรมคนรักศิลปวัฒนธรรม กล่าวคล้ายกันว่า แทบจะไม่เห็นผลงานในเชิงรุกของนายอิทธิพล ทั้งที่เป็นคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ งานด้านวัฒนธรรม หากทำในเชิงรุกจะเกิดประโยชน์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้วัฒนธรรมสร้างความรักสามัคคี ไปจนถึงการใช้วัฒนธรรมในการสร้างชาติ แต่รัฐมนตรีว่าการ วธ.ทำงานตามระบบราชการ เห็นแต่ภาพเปิดงานตัดริบบิ้น

หากคนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีแล้วทำงานได้แค่นี้ ตนว่าใครมาเป็นก็ทำงานได้

“หากคนที่เข้ามาเป็นรัฐมนตรีแล้วทำได้แค่เปิดงานหรือตัดริบบิ้น ผมว่าใครมาเป็นก็ได้ หากให้คะแนน ผมให้สอบตก ไม่มีคะแนนให้ แถมยังติดลบ หากไม่ถูกปรับออกจาก ครม.ครั้งนี้ นายอิทธิพลก็ต้องปรับปรุงการทำงาน อย่างเช่น กรมศิลปากร เวลามีโบราณสถานชำรุดเสียหาย กรมศิลปากรมักจะอ้างปัญหาเรื่องบุคลากร งบประมาณ และข้อกฎหมาย ขณะที่กรมการศาสนาเองก็ยังมีปัญหา พระที่ประพฤติออกนอกลู่นอกทาง ตรงนี้คนเป็นรัฐมนตรีก็ต้องมาดูว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ไม่ใช่ปล่อยให้ข้าราชการทำงานเท่านั้น”

นายวรากล่าว

 

ขณะที่นายรุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (มร.) มองต่างมุมว่า เหตุที่ยังเห็นผลงานของ วธ.ไม่ชัด ส่วนหนึ่งเพราะเจอปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี การดำเนินงานต่างๆ จึงอาจสะดุดไปบ้าง

อีกทั้งการสร้างวัฒนธรรมใหม่ จะอาศัยแค่แรงขับเคลื่อนของ วธ.ฝ่ายเดียวคงไม่ได้ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะสร้างภาพลักษณ์อย่างไรและถึงแม้รัฐมนตรีว่าการ วธ.จะคิดอะไรออกมา แต่ถ้ารัฐบาลไม่เล่นด้วยก็ไม่มีประโยชน์

หากให้คะแนนการทำงานของนายอิทธิพล ตนให้ 5 เต็ม 10 คะแนน ไม่ถึงขั้นสอบตก เพราะถือว่าสานต่องานเดิมของนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการ วธ.ได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะยังไม่มีผลงานใหม่ที่เป็นของตัวเองออกมา

ขณะเดียวกันยังขาดในเรื่องการตรวจสอบเรื่องที่เป็นข้อครหา อย่างเช่นกรณีการสืบข้อเท็จจริง การสอบรับราชการตำแหน่งนักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ สังกัดกองพระราชพิธีการศพ ที่ควรออกมาเปิดเผยผลสอบและชี้แจงให้สังคมได้รับทราบเหตุผล

หาก ‘เสี่ยติ๊ก’ ยังได้ตั๋วไปต่อกับ ครม.ชุดนี้ คงต้องเร่งพิสูจน์ฝีมือให้ชาววัฒนธรรมได้เห็นเป็นขวัญตา