เลือกตั้งท้องถิ่น : “วิษณุ” อ้างงบหมดเลยต้องเลื่อน ฝ่ายค้านรุมจวก ไร้สำนึก-หาข้ออ้างไปเรื่อย

วันที่ 14 มิถุนายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นว่า ต้องไปถามกระทรวงมหาดไทย (มท.) ซึ่งตามขั้นตอนแล้วต้องมีความพร้อมในเรื่องของกฎระเบียบต่างๆ ต้องมีความพร้อมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ความพร้อมของประชาชน และความพร้อมในส่วนของงบประมาณ ซึ่งเรื่องของงบประมาณตอนนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ก่อนหน้านี้พร้อมแล้วแต่มีการดึงไปใช้ในเรื่องของโควิด-19 ส่วนจะต้องกันงบใหม่หรือไม่นั้น ส่วนใหญ่แล้วค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ท้องถิ่นนั้นๆ แต่ในส่วนของรัฐบาลจะรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายของส่วนกลางของ กกต.

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก่อนมีการเลือกตั้งท้องถิ่นต้องมีการกันงบประมาณใหม่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ในส่วนกลางนั้นใช้งบกลาง และอย่างน้อยก็มีงบที่เพิ่งมีการปรับเข้ามา ตามร่าง พ.ร.บ.โอนงบ พ.ศ.2563 แต่ท้องถิ่นไม่มีงบกลาง ไม่รู้ว่าจะโยกออกได้หรือไม่

ทั้งนี้ ตนไม่ได้หมายความว่าเรื่องงบประมาณเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด เพียงแต่บอกว่าต้องพิจารณาอะไรบ้าง หากกระทรวงมหาดไทยมีความพร้อมแล้วก็ต้องมีการเสนอมาที่รัฐบาล เพื่อแจ้ง กกต.ให้กำหนดวันเลือกตั้ง วันนี้แค่จะมีการเลือกตั้งซ่อมที่ลำปางเขต 4 ก็มีปัญหาแล้ว เพราะมีการแจ้งมาที่ตนว่าเพียงส่งเจ้าหน้าที่ไปเตรียมการเลือกตั้งก็ถูกกักตัวไว้ 14 วัน ดังนั้น การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ถือว่าเป็นปัจจัยหนึ่งด้วยเช่นกัน

“ณัฐชา” ซัดข้ออ้าง ‘วิษณุ’ ตบหน้าประชาชนฉาดใหญ่

ด้านนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกลแสดงความเห็นจากกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเลือกตั้งท้องถิ่น ต้องไปถามกระทรวงมหาดไทย (มท.) ซึ่งตามขั้นตอนแล้วต้องมีความพร้อมในเรื่องของกฎระเบียบต่างๆ ต้องมีความพร้อมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ความพร้อมของประชาชน และความพร้อมในส่วนของงบประมาณ ซึ่งเรื่องของงบประมาณตอนนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ก่อนหน้านี้พร้อมแล้ว แต่มีการดึงไปใช้ในเรื่องของโควิด-19 ส่วนจะต้องกันงบใหม่หรือไม่นั้น ส่วนใหญ่แล้วค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ท้องถิ่นนั้นๆ แต่เราจะรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายของส่วนกลางของ กกต.

ทั้งนี้นายณัฐชา กล่าวว่า คำตอบของรองนายกวิษณุ บ่งบอกถึงทัศนคติราชการรวมศูนย์ ที่ผ่านมาในช่วงวิกฤติโควิด19 น่าจะได้เห็นปัญหาหลายอย่างแล้วว่าการบริหารจัดการของรัฐบาลไม่ทั่วถึงไม่สามารถจัดการอะไรได้เลย รัฐบาลเป็นรัฐบาลของกรุงเทพมหานครเท่านั้น และหากเรามีการเลือกตั้งท้องถิ่นมีตัวแทนประชาชนในพื้นที่ ดูแลจัดการเชื่อมโยงกับรัฐเพื่อแก้ปัญา ประชาชนจะไม่ถูกทอดทิ้งและเดือดร้อนถึงเพียงนี้ อีกทั้งเหตุการณ์ไวรัสโควิดระบาดควรเป็นฉากสะท้อนให้รัฐเร่งจัดการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่นโดยเร็วด้วยซ้ำ แต่รองนายกส่งสัญญานเช่นนี้

ผมมองว่าไม่ต่างกับการเดินไปตบหน้าประชาชน หนำซ้ำยังโยนภาระให้ประชาชนว่าการที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นได้โดยเร็วเพราะนำเงินมาเยียวยาประชาชนหมดแล้ว ทั้งนี้เชื่อว่าทุกประเทศประสบปัญหาวิกฤติต่างๆ ไม่ว่าจะโรคระบาด ภัยธรรมชาติ พิษเศรษฐกิจกันอยู่แล้ว แต่ฝ่ายบริหารที่ดีควรมีการจัดการและวางแผนการทำงานพร้อมรับมือได้ทุกรูปแบบคำตอบของรองนายกวิษณุ เหมือนยอมรับกลายๆว่าฝ่ายบริหารห่วยแตก

ทั้งนี้นายณัฐชา กล่าวทิ้งท้ายว่า ถือเป็นข่าววันหยุดที่อ่านแล้วหดหู่ใจยิ่งหนัก เพราะสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไม่เคยสำนึก รัฐบาลไม่เคยเข้าใจความเดือดร้อนและความจำเป็นของประชาชน

“สุทิน” ซัดหาข้ออ้างไปเรื่อย ชี้รัฐบาลไม่จริงใจ ไม่อยากให้มีประชาธิปไตย

ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นอาจล่าช้า เพราะโยกงบประมาณไปแก้ปัญหาโควิด-19 ว่า เราตั้งข้อสังเกตมาตลอดว่ารัฐบาลไม่จริงใจที่จะกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น ไม่ให้ความสำคัญกับท้องถิ่น แช่แข็งการเลือกตั้งโดยหาข้ออ้างไปเรื่อยๆ เพราะรัฐบาลไม่อยากให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น กระทั่งมาเกิดปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ คนที่ร่างรัฐธรรมนูญมาไม่อยากให้อำนาจอยู่ในมือประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย จึงพยายามสกัดทุกวิถีทาง นอกจากนี้ จะเห็นว่านอกเหนือจากท้องถิ่นแล้ว ทุกกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ถูกรวบอำนาจไว้ที่ส่วนกลางหมด ทั้งนี้ ปัญหาท้องถิ่นเป็นเพียงปลายน้ำ ต้นน้ำคือการไม่อยากให้เกิดการกระจายอำนาจ เราไม่ได้มีการเลือกตั้งกันมาเกือบสิบปีนับตั้งแต่ คสช.ยึดอำนาจ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น

นายสุทินกล่าวอีกว่า การที่นายวิษณุบอกว่าไม่มีงบประมาณ ก็เป็นเพียงแค่ข้ออ้าง เพราะท้องถิ่นกันงบประมาณส่วนนี้เอาไว้แล้ว ท้องถิ่นไหนที่งบไม่พอ ส่วนกลางสามารถช่วยเติมงบประมาณได้ ดังนั้นเมื่อนายวิษณุระบุแบบนี้ ตนเชื่อว่าปีนี้คงไม่มีการเลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว คงโดนลากยาวไปอย่างไม่มีเป้าหมาย ดังนั้นอยากฝากรัฐบาลให้ประกาศออกมาให้ชัด ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่มี ที่ผ่านมาหลายคนก็อยู่ในวาระแบบน็อกรอบคืออยู่มา 8 ปี บางแห่งไม่มีนายกฯ ก็เอารองปลัดฯ ขึ้นมารักษาการแทน อย่างใน จ.มหาสารคามบ้านตน ใช้วิธีให้รักษาการกันครึ่งจังหวัด แบบนี้ประชาชนเสียประโยชน์

“ต้นน้ำคือรัฐบาลไม่จริงใจ ไม่อยากให้มีประชาธิปไตย ดูได้จากการเลือกตั้งใหญ่ที่แบ่งอำนาจไปให้ ส.ว.ดังนั้นรัฐบาลต้องจัดลำดับความสำคัญ เริ่มต้นจากการเลือกตั้ง กทม.และพัทยาก่อน จากนั้นก็เป็น อบจ. เทศบาล แล้วค่อยไปเลือก อบต.” นายสุทินกล่าว

 


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย.63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่