“วัฒนา” แขวะ ป.ป.ช.ควรเอาผิด ครม.ประยุทธ์ กรณีใช้งบกลางเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดรายละ 5 พัน เหตุไม่มีกม.รองรับ ชี้อย่าเลือกปฏิบัติ

“วัฒนา” แขวะ ป.ป.ช.ควรเอาผิด ครม.ประยุทธ์ กรณีใช้งบกลางเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดรายละ 5 พัน เหตุไม่มีกม.รองรับ ชี้อย่าเลือกปฏิบัติ

นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก โดยระบว่า เมื่อปี พ.ศ. 2555 ครม. ยิ่งลักษณ์ มีมติให้ใช้งบกลางเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ตามความเห็นของคณะกรรมการประสานงานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะ ของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.)

ต่อมารองหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่งได้ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินคดีกับ ครม. ยิ่งลักษณ์ ในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือโดยทุจริต กรณีการจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง พ.ศ.2548-2553 และ ป.ป.ช. รับเรื่องและมีมติให้ไต่สวน โดยเห็นว่าเป็นการจ่ายเงินโดยไม่มีกฎหมายรองรับและเพื่อช่วยเหลือพวกพ้องของตนเอง ทั้งที่เป็นการเยียวยาแก่ประชาชนทุกสีและทุกกลุ่มการเมืองโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ

นายวัฒนาระบุอีกว่า เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ครม. ประยุทธ์มีมติให้ใช้งบกลางเยียวยาประชาชนรายละ 5,000 บาท ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับ ครม. ยิ่งลักษณ์คือใช้งบกลางและใช้มติ ครม. เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับ โดยคนที่เคยยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ก็อยู่ใน ครม. นี้ด้วย แต่มีความแตกต่างคือ พรรคเพื่อไทยไม่ได้ฉวยโอกาสไปร้อง ป.ป.ช. เพื่อเอาคืนแบบที่เคยโดนทำ ส่วนองค์กรอิสระอย่าง ป.ป.ช. ก็ไม่ได้ดำเนินคดีกับ ครม. ประยุทธ์เหมือนที่ทำกับ ครม. ยิ่งลักษณ์ ทั้งที่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างเดียวกันทุกประการ

นี่เป็นอีกตัวอย่างของการเลือกปฏิบัติ และเป็นสาเหตุของความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจนนำไปสู่เหตุการณ์ความรุนแรงโดย ป.ป.ช. เป็นองค์กรอิสระที่ถูกกล่าวหาว่า มีการเลือกปฏิบัติมากที่สุดเพราะหากเป็นการกระทำของอีกฝ่ายจะไม่เป็นความผิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนาฬิกาเพื่อน หรือคดีซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด GT 200 ลวงโลก หรือหลักฐานถูกน้ำท่วม ฯลฯ ส่วนจะเป็นพรรคการเมืองใดที่เคยไปร้อง ป.ป.ช. ก็ลองค้นหาความจริงดู

วัฒนา เมืองสุข
19 พฤษภาคม 2563