มองบ้านมองเมือง / ปริญญา ตรีน้อยใส / เมื่อสำนักงานถูกดิสรัปชั่น

ปริญญา ตรีน้อยใส

มองบ้านมองเมือง/ปริญญา ตรีน้อยใส

เมื่อสำนักงานถูกดิสรัปชั่น

 

หลายคนคงเคยได้ยิน เรื่องโคเวิร์กกิ้งสเปซ พื้นที่หรือห้องทำงานร่วมกัน ที่กำลังเป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่

หลายคนคงเคยได้มองโคเวิร์กกิ้งสเปซ ที่อยู่ในร้านกาแฟ สำนักงาน หรือแม้แต่ธนาคารบางสาขา

หลายคนคงเคยใช้งานโคเวิร์กกิ้งสเปซ มาบ้าง ด้วยเหตุผลว่า ทำที่ไหนก็ได้ เพราะมีพื้นที่กว้างขวาง ทำเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะบางที่เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง ทำอย่างไรก็ได้ เพราะมีที่นั่ง

โคเวิร์กกิ้งสเปซทำงานหลายรูปแบบ แบบเดี่ยว แบบคู่ แบบหมู่ หรือแบบเฉพาะกลุ่ม ทำไปคุยไปก็ได้ ทำไปกินไป ดื่มไปก็ได้

ที่สำคัญ โคเวิร์กกิ้งสเปซมักจะตั้งอยู่ในทำเลที่ไป-มาสะดวก

 

กระแสโคเวิร์กกิ้งสเปซทำให้อาคารสำนักงานสูงๆ หรูๆ สำนักงานทั่วไป สำนักงานในห้องแถวหรือในบ้าน เอาต์ไปเรียบร้อย เพราะไม่สวยงามบ้าง ไม่ถูกจริตกับวิธีทำงานของคนเจนใหม่บ้าง ไม่มีเงินลงทุนมากพอบ้าง จนถึงบริษัทไม่อยากวุ่นวายกับเรื่องที่ไม่ใช่คอร์บิสซิเนสบ้าง

สถานที่ทำงานแบบเดิมต้องมีเก้าอี้นั่งทำงาน ต้องมีโต๊ะขนาดใหญ่เอาไว้ให้กองเอกสารที่ไม่เคยใช้ หากมีไว้เพื่อบังสายตาพนักงานอื่น หรือให้รู้สึกว่ามีงานเยอะ ต้องมีตู้เอกสารสามลิ้นชักบ้าง ตู้กระจกชั้นไม้บ้าง สำหรับเก็บเอกสารที่ไม่ใช้ ถ้ามีบานปิดมิดชิด ก็จะเป็นที่เก็บอาหาร ขนมขบเคี้ยว ไปจนถึงของขวัญปีใหม่ปีก่อน

คนทำงานมักจะเรียกร้องเครื่องดื่ม โดยเฉพาะกาแฟ ชา เพราะทำให้ดูเหมือนฝรั่งทำงาน

เลยนำมาซึ่งถ้วยแก้วที่ไม่ได้ล้าง ผนวกรวมเศษอาหาร ขนม นำมาซึ่งแมลง หนู และกลิ่น ต้องจ้างแม่บ้านมาช่วยจัดการ

ทำให้ต้องมีมุมแม่บ้านสังสรรค์ หรือไวไฟให้แม่บ้านดูโทรศัพท์มือถือ หรือแชตกับเพื่อนยามว่าง

 

สถานที่ทำงานยุคก่อน ต้องมีห้องประชุมเอาไว้ นานๆ ประชุมที ส่วนใหญ่เป็นห้องเก็บเอกสาร หรือสิ่งของที่ไม่ใช้ เช่นเดียวกับห้องรับรอง ห้องรับแขก ที่นานๆ จะมีคนมาติดต่อ

เลยกลายเป็นมุมพักหลับตาตอนเที่ยง หรือที่พักค้างคืนของพนักงาน ยังต้องมีห้องน้ำสำหรับพนักงานหญิงปรับลุค พนักงานชายสูบบุหรี่

ว่ากันว่า ยิ่งบริษัทจ้างพนักงานมากเท่าไหร่ พื้นที่สำนักงานก็จะเพิ่มตามกัน ค่าเช่าหรือค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นต้นทุนสำคัญในการประกอบการ

ขณะเดียวกัน โคเวิร์กกิ้งสเปซที่มีอยู่ในปัจจุบัน ก็ไม่รองรับสำนักงานแบบที่ว่ามา หากเหมาะกับพวกทำงานฟรีแลนซ์ ทำงานคนเดียว ทำบ้างเล่นบ้าง เท่านั้น

 

มองบ้านมองเมืองฉบับนี้จะพาไปมองโคเวิร์กกิ้งสเปซ ชื่อ จัสโค JustCo Coworking Space & Serviced Office (https://www.justcoglobal.com/th) อยู่ที่สามย่านมิตรทาวน์

เป็นโคเวิร์กกิ้งสเปซที่ช่วยตอบโจทย์แก้ปัญหาต่างๆ ที่ว่ามาได้ทั้งหมด

เริ่มตั้งแต่ทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ตรงสถานีสามย่าน จึงไป-มาสะดวก เป็นที่พอใจของพนักงานเจนทั้งหลาย มีพื้นที่กว้างขวางถึงสามชั้น คือ ชั้นที่ 24, 25 และ 26 โดยแต่ละชั้นจะแบ่งเป็น

ส่วนแรก กั้นแบ่งเป็นสำนักงานเฉพาะ สำหรับบริษัทต่างๆ มีทั้งขนาดใหญ่เป็นร้อยตารางเมตร และเล็กลงมาจนเหลือไม่กี่สิบตารางเมตร รองรับได้กว่าสองร้อยกว่าบริษัท

ส่วนที่สอง เป็นส่วนที่เปิดโล่ง ทะลุสามชั้น แต่ละชั้นจะมีที่นั่งทำงานหลายร้อยที่นั่ง ในรูปแบบต่างๆ ทั้งเดี่ยว คู่ หรือหมู่

ยังมีห้องประชุม ห้องรับรอง และพื้นที่จัดกิจกรรมไว้ให้ มีตู้โทรศัพท์สำหรับพูดคุยโทรศัพท์มือถือ ที่ไม่อยากให้ใครได้ยิน ที่เลี้ยงดูเด็กเล็กหรือทารก สำหรับแม่ที่ต้องมาทำงาน ไปจนถึงห้องนั่งสมาธิ เวลาถูกเจ้านายโวย หรือเจ้าหนี้เร่งรัด

ที่สำคัญ มีร้านกาแฟตามกระแสแฟชั่นวันนี้ ที่คนทำงานต้องดื่มกาแฟ รวมทั้งที่เตรียมอาหาร อุ่นอาหาร ให้พนักงานไม่ต้องไปแย่งคนอื่นๆ ในตอนเช้า เที่ยง หรือเย็น

การแบ่งแยกและอำนวยความสะดวกแบบนี้ จึงเป็นที่พอใจของพนักงานในแต่ละบริษัท ที่จะได้มีที่ทางกว้างขวาง สะดวกสบาย จะทำอะไรก็สะดวก ยังมีแม่บ้านคอยดูแล เก็บกวาดเช็ดถูให้เรียบร้อย

ส่วนบริษัทที่มาเช่าก็พอใจ เพราะพื้นที่เช่าลดลง ส่งผลให้จ่ายค่าเช่าน้อยลง และไม่ต้องรับภาระอื่นให้เสียเงิน เสียอารมณ์

 

แม้ว่าราคาค่าเช่าต่อตารางเมตรจะสูงกว่าอาคารสำนักงานทั่วไป แต่ถ้าคิดบวกลบคูณหารแล้ว ก็จะดีกว่า ค่าเช่าถูก แต่ต้องเช่าพื้นที่มาก และยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ตามมา

ยิ่งเป็นบริษัทที่เพิ่งสตาร์ตอัพ หรือบริษัทที่เลือกวิธีเอาต์ซอร์ซ ยิ่งเหมาะมาก ค่าใช้จ่ายส่วนสำนักงานจะลดลงไปทันที

คงเป็นอีกหนึ่งดิสรัปชั่น ที่เกิดขึ้นในบ้านเรา วันที่สำนักงานเปลี่ยนไป เพราะคนทำงานเปลี่ยนไป

คงเป็นอีกหนึ่งดิสรัปชั่น หลังโควิดระบาด ทำให้คนทำงานที่บ้านได้ สำนักงานที่มีอยู่จึงไร้ผู้คน