อิตาลีไม่แผ่ว “โควิด-19” วันเดียวตาย793 ศพแน่นโบสถ์

A convoy of Italian Army trucks arrives from Bergamo carrying bodies of coronavirus victims to the cemetery of Ferrara, Italy, where they will be cremated, Saturday, March 21, 2020. The transfer was made necessary since Bergamo mortuary reached maximum capacity. For most people, the new coronavirus causes only mild or moderate symptoms. For some it can cause more severe illness, especially in older adults and people with existing health problems. (Massimo Paolone/LaPresse via AP)

สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานสถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนักในโลก โดยอิตาลีเป็นประเทศที่มีคนเสียชีวิตสูงสุดแทนจีน ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศอิตาลี เพิ่มอีกถึง 793 ราย ภายใน 24 ชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้น 19.6% ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมเพิ่มเป็น 4,825 ราย

สำหรับยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในอิตาลี เพิ่ม 13.9% หรือจาก 47,021 เป็น 53,578 ราย วันที่ 21 มี.ค.2563

ตัวเลขที่สูงมากดังกล่าว มาจากสถานการณ์น่าวิตกที่แคว้นลอมบาร์ดี พื้นที่เชื้อระบาดหนัก ทางภาคเหนือของอิตาลี มีผู้เสียชีวิตภายในวันเดียวถึง 546 ราย สูงสุดนับจากเชื้อปรากฏในดินแดน ทำให้ยอดคนตายในแคว้นนี้เพิ่มเป็น 3,095 ราย

นายจูลีโอ กัลเลรา หัวหน้าสำนักงานสวัสดิการของแคว้นลอมบาร์ดี กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากนั้น รวมถึงที่นครมิลาน เพิ่มจากเดิม 3,251 คนเป็น 25,515 คน

นิวยอร์กไทมส์ รายงานบทความวิเคราะห์สถานการณ์ในอิตาลี ว่า ศูนย์กลางใหม่ของการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาแห่งนี้ ได้มอบบทเรียนให้กับโลก ว่าความประมาทนำมาซึ่งโศกนาฏกรรม

บทความย้อนไปในช่วงที่อิตาลียังมีผู้ติดเชื้อ 400 คน และเสียชีวิตหลักสิบ นายนิโกลา ซินกาเร็ตติ หัวหน้าพรรคเดโมเครติก และประธานคณะมนตรีแคว้นลาซิโอ ยังโพสต์ภาพนั่งชนแก้วสังสรรค์กลุ่มอยู่ในผับที่นครมิลาน พร้อมข้อความ กระตุ้นให้ประชาชนอย่าเปลี่ยนวิถีชีวิต

แต่ 10 วันจากนั้น วันที่ 27 ก.พ. นายซิงกาเร็ตติ โพสต์วิดีโอ แจ้งว่าตนเองติดเชื้อไวรัสโคโรนาเข้าแล้ว

มิลาน เป็นอีกที่ที่นายกเทศมนตรี เบปเป ซาลา โปรโมตแคมเปญว่า “มิลานจะไม่หยุด” และทำให้มหาวิหารดูโอโม แลนด์มาร์กของเมือง หวนกลับมาเปิด ทำให้ผู้คนออกนอกบ้าน ส่วนบาร์ไวน์ กลางใจเมืองมีผู้คนหนาแน่นกลางค่ำคืน

ทั้งที่ช่วงเวลาเดียวกันนั้น ที่ชั้น 6 ของสำนักงานรัฐบาลท้องถิ่น นายจิอาโกโม กราสเซลลี ผู้ประสานงานแผนกฉุกเฉินของแคว้นลอมบาร์ดี กำลังกลุ้มใจว่า ยอดผู้ป่วยโควิดเพิ่มจนแบกรับไม่ไหว ขณะที่หน้าที่ของผู้ประสานงานคือต้องคอยจัดหาเตียงในแผนกไอซียูที่ใกล้ที่สุดให้ลำเลียงผู้ป่วยไปได้

การประชุมทุกวัน ที่มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและนักการเมือง 20 คน กราสเซลลีแจ้งตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กับนายอัตติลิโญ ฟอนตานา ประธานคณะมนตรีแคว้นลอมบาร์ดี

นายฟอนตานาเองก็พยายามเรียกร้องให้รัฐบาลกลางใช้มาตรการคุมเข้มที่หนักขึ้น แต่กลับได้รับปฏิกิริยาสองแบบจากรัฐบาลกลาง ช่วงหนึ่งที่มีการผ่อนกฎระเบียบลง ทำให้ชาวอิตาเลียนเชื่อว่า ทุกอย่างเป็นมุขขำขัน ทำให้คนยังใช้วิถีชีวิตแบบเดิมอยู่

แต่ขณะนี้ อิตาลีมีผู้ติดเชื้อสะสมเกิน 53,000 คน และเสียชีวิตเกิน 4,800 ราย อัตราการตายและติดเชื้อมีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกวัน รัฐบาลกลางต้องส่งทหารเข้ามาปิดแคว้นลอมบาร์ดี ขณะที่ศพกองสูงอยู่ในโบสถ์เพื่อรอประกอบพิธี ชาวอิตาลีรู้แล้วว่าสถานการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป

นายลูกา ไซอา ประธานคณะมนตรีแคว้นเวเนโต ที่ใช้มาตรการเข้มในแคว้นจนลดจำนวนผู้ติดเชื้อลง เรียกร้องให้รัฐบาลกลางดูตัวอย่างแคว้นเวเนโต บังคับใช้มาตรการแยกคนออกห่างกันให้มากขึ้นกว่านี้ ต้องปิดห้าง และห้ามกิจกรรมทางสาธารณะอย่างเด็ดขาด เพราะตอนนี้ระบบสาธารณสุขรองรับไม่อยู่แล้ว แต่อย่างน้อยต้องชะลอการระบาดลงก่อน

“การระบาดของไวรัสลดลง จะยิ่งทำให้โรงพยาบาลหายใจได้มากขึ้น” นายไซอา กล่าว