นายพิชัย ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ที่มีประเด็นพิพาทระหว่างอธิบดีกรมการค้าภายใน กับโฆษกกรมศุลกากร ประเด็นการส่งออกหน้ากาก 330 ตัน ทำให้ดูเหมือนว่ารัฐบาลหมดสภาพในการบริหาร เพราะขนาดเจ้าหน้าที่รัฐยังต้องฟ้องร้องกันเอง ตนจึงเรียกร้องให้มีการเปิดเผยใบอนุญาตส่งออกและเอกสารการส่งออกหน้ากากอนามัยทั้งหมดให้สังคมได้รับรู้ข้อเท็จจริง หลังจากนั้นก็มีคนส่งเอกสารดังกล่าวมาให้คนและจากที่ตนได้ตรวจสอบยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารจริงจากกระทรวงพาณิชย์ ดังนั้นจึงอยากขอร้องให้รัฐบาลชี้แจงรายละเอียดการส่งออกหน้ากากอนามัยทั้งหมดในช่วงนี้ที่ประเทศไทยขาดแคลนอยู่โดยให้เปิดเผยใบอนุญาตส่งออกทุกใบเพื่อพิสูจน์ความถูกต้องและเป็นการตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการส่งออกหน้ากากอนามัย และส่วนตัวก็ไม่เข้าใจว่าในภาวะที่ประเทศขาดแคลนหน้ากากอนามัยเช่นนี้แล้วถึงขั้นบุคลากรทางการแพทย์ยังไม่มีใช้ทำไมจึงยังอนุญาตให้มีการส่งออกเช่นนี้อยู่ โดยถ้าอ้างว่าเป็นแบบที่คนไทยไม่ใช้ ก็งงว่าแบบไหนที่คนไทยจะไม่ใช้ และไม่สามารถใช้ทดแทนกันได้หรือ ในภาวะที่คนทั้งประเทศขาดแคลนนี้ และในภาวะวิกฤตที่กำลังจะเกิดการแพร่ระบาดในระยะที่ 3 ของไวรัสโควิท-19 รัฐบาลควรมีการบริหารจัดการที่ดีกว่านี้มาก