เผยแพร่ |
---|
ปรากฎการณ์ “จุดเทียน” เพื่อส่องสว่างในการแสวงหาความยุติธรรม เพรียกหาสิทธิเสรีภาพ กำลังเป็น “ไวราล” อย่างใหม่ในทางการเมือง
เป็นการเมือง”ใหม่” เป็นการเมืองของคนรุ่น”ใหม่”
หากมองไปยังการเคลื่อนไหวก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน
๒๕๔๙ หากมองไปยังการเคลื่อนไหวก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภา คม ๒๕๕๗
มีทั้ง “เหมือน” มีทั้ง “ความต่าง”
เหมือนตรงที่มีความพยายามสร้าง”พลัง”ของคนรุ่นใหม่ว่าเป็นส่วนหนึ่งภายในม็อบ แต่ต่างตรงที่ปรากฏการณ์”จุดเทียน”เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามมหาวิทยาลัยต่างๆ
เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเอง เพียงแต่ได้ผลสะเทือนมาจาก พรรคอนาคตใหม่
จำได้หรือไม่ว่าเมื่อเกิดปรากฏการณ์ # ฟ้ารักพ่อ ในห้วงต้นปี ๒๕๖๒ แม้จะดำเนินไปอย่างคึกคัก กว้างขวาง จากเหนือลงใต้ จากตะวันออก ไปยังตะวันตก
แต่ไม่มีใครเชื่อว่า ปรากฏการณ์ # ฟ้ารักพ่อ จะได้รับการแปรให้ กลายเป็นคะแนนเสียง
คนยังเชื่อว่า คนรุ่นใหม่ไม่สนใจการเมือง สนใจแต่ IDOL
และยากเป็นอย่างยิ่งที่การเห่อเซลฟี่คู่กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะสามารถดึงคนรุ่นใหม่ให้ออกจากบ้านไปลงคะแนนเสียงตามคูหาเลือกตั้งได้
แต่แล้วคะแนนของพรรคอนาคตใหม่ก็ทะยานไปอยู่ที่ ๖.๒ ล้านเสียง ส่งผลให้พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคอันดับ ๓ ชนะแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา
นั่นคือ ปรากฏการณ์อันเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม ๒๕๖๒
จากเดือนมีนาคม ๒๕๖๒ มายังเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ก็ยังมีคนจำ นวนหนึ่งเชื่อว่า พรรคอนาคตใหม่ไม่สามารถสร้าง”พลัง”คนรุ่นใหม่ได้ อย่างเป็นรูปธรรม
แม้จะมีการทดสอบมาแล้วจากปรากฏการณ์ FLASH MOB บริเวณลานสกายวอล์ก แยกปทุมวัน
คนก็ยังไม่เชื่อ มีหลายโพลยืนยันว่าคนรุ่นใหม่ไม่สนใจการเมือง
ต่อเมื่อมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่เกิดขึ้นแม้จะมีปรากฏการณ์ “จุดเทียน”ตามมาคนเหล่านั้นก็ยังไม่เชื่อ
ยังไม่ยอมรับว่านี่ล้วนเป็นผลสะเทือนจาก”อนาคตใหม่”
ไม่ว่าจะสัมผัสได้จากการจุดเทียนที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ไม่ว่าจะสัมผัสได้จากการจุดเทียนที่มอกะเสด ไม่ใช่ขนมหวาน
และการชุมนุมของจุฬาฯข้างหอประชุมใหญ่