นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางมาร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 15-17 มกราคม ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมครั้งแรกภายใต้การเป็นประธานอาเซียนของประเทศเวียดนามภายใต้หัวข้อหลักของการประชุมปีนี้ที่เวียดนามกำหนดไว้คือ “Cohesive and Responsive” หรือการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนซึ่งจะมีขึ้นในเดือนมกราคมของทุกปีจะเป็นการประชุมเพื่อกำหนดทิศทางของอาเซียนตลอดทั้งปีว่าจะเป็นไปอย่างไร

นายดอนกล่าวว่า สำหรับประเด็นที่จะมีการพูดคุยกันจะเป็นเรื่องที่ประธานอาเซียนนำเสนอในเรื่องที่เห็นว่าอยู่ในความสนใจ โดยประเด็นสำคัญจะมีการหารือกันคือการเพิ่มบทบาทของอาเซียนในเวทีระหว่างประเทศให้เป็นที่รับรู้กันมากขึ้นได้อย่างไร นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเด็นที่รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนต้องช่วยกันพิจารณา

นายดอนกล่าวอีกว่า หนึ่งในประเด็นที่อยู่ในความสนใจคือความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(อาร์เซ็ป) ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการจะสนับสนุนให้สามารถลงนามได้ภายในปีนี้ที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพ แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เชื่อว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของทั้งอาเซียนและประเทศคู่เจรจาที่เกี่ยวข้อง

นายดอนกล่าวว่า สำหรับไทยในช่วงที่เราทำหน้าที่ประธานอาเซียนถือว่าได้รับการยอมรับจากนานาประเทศว่าประสบความสำเร็จตามหัวข้อที่เรากำหนดไว้คือ “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” ซึ่งเป็นประเด็นที่สามารถสานต่อและมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยในประเด็นเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนในเดือนกุมภาพันธ์นี้จะมีการประชุมร่วมระหว่างอาเซียนกับสหภาพยุโรปในเรื่องดังกล่าว ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งไทยจะรับหน้าที่ประเทศผู้ประสานงานในเรื่องนี้ต่อไป

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า นอกจากนี้อีกหนึ่งในความสำเร็จระหว่างการทำหน้าที่ประธานอาเซียนคือเอกสาร “มุมมองของอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก” ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีคนพูดถึงว่าอาเซียนได้มีการเปิดกว้างบริบทของความร่วมมือกับนานาประเทศจากที่มีเพียงประเทศคู่เจรจา และยังมีเรื่องการสร้างความเชื่อมโยง ทั้งในแง่ของโครงสร้างพื้นฐาน ความคิด ความเชื่อมโยงระหว่างบุคคล และความเชื่อมโยงในมิติอื่นๆ อีกมากมาย

นายดอนกล่าวว่า ในประเด็นเรื่องรัฐยะไข่ของเมียนมา ไทยอยากเห็นความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเดินทางกลับของชาวโรฮีนจา โดยจะหารือว่าอาเซียนจะช่วยให้มีการขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าวอย่างไร นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญคือเรื่องของการพัฒนา เพราะเมื่อชาวโรฮีนจาเดินทางกลับมาแล้วจะต้องสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เมียนมาก็มีความตั้งใจที่จะทำ และประเทศสมาชิกอาเซียนก็อยากจะช่วยเมียนมาในเรื่องดังกล่าว