ยกฟ้อง เนติวิทย์-กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง 44 คน ปรับ ‘ลูกเกด ชลธิชา’ ผู้จัดชุมนุม 1 พันบาท

ศาลดุสิตยกฟ้อง กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง 44 คน เหตุมีข้อสงสัยในพยานหลักฐานโจทก์ /ปรับ “ลูกเกด” ในฐานะผู้จัด 1 พันบาท เจ้าตัวยัน เป็นการชุมนุมโดยชอบด้วยกฎหมาย

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.62 ที่ห้องพิจารณาคดี 407 ศาลแขวงดุสิต ถนนนครไชยศรี ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ 1229/2661 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษคดีแขวง 3 (แขวงดุสิต) เป็นโจทก์ฟ้องนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล กับพวกกลุ่มคนอยากเลือกตั้งรวม 44 คน เป็นจำเลยที่ 1-44 ฐานร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาต

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง 44 ร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายคือวันที่ 24 มี.ค.2561 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยร่วมกับพวกที่แยกสำนวนดำเนินคดีที่ศาลอาญาและพวกที่ยังไม่ได้นำตัวมาฟ้องอีกประมาณ 350 คน ร่วมกันชุมนุมทางการเมือง มีวัตถุประสงค์ปราศรัยแสดงความคิดเห็นเรียกร้องให้ยุบคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยนัดรวมตัวกันที่สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยไม่ได้รับอนุญาตและกีดขวางการจราจร และ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว จำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะในการชุมนุมดังกล่าว ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ เกิดการขัดขวางต่อประชาชนที่จะใช้ทางสาธารณะ ขอให้ลงโทษตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2558 เรื่องรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติลงวันที่ 1 เมษายน 2558 ข้อ 12 พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มาตรา 6, 5(2)(4), 16(1)(8), 18, 28, 30, 31 พ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 108, 114, 148 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91, 92 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 265, 279

โดยวันนี้ นายเนติวิทย์ และจำเลยทั้ง 44 คน เดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อมทีมทนายความและบุคคลใกล้ชิดที่มาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง

ภายหลังฟังคำพิพากษา น.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า โดยสรุปวันนี้ ศาลพิพากษายกฟ้องในส่วนที่เป็นผู้ชุมนุมทั้งหมด โดยศาลเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ ไม่มีพยานมายืนยัน มีเหตุแห่งความสงสัยว่าแต่ละคนมาชุมนุมอยู่จุดไหนอย่างไร มีการเคลื่อนขบวนหรือไม่ มีการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างไร ซึ่งพยานโจทก์ไม่มีใครยืนยัน ดังนั้น ศาลเลยยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลย พิพากษายกฟ้องผู้ชุมนุมทั้งหมด ในส่วนของ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด ในฐานะที่เป็นผู้แจ้งการชุมนุมและเป็นผู้จัดการชุมนุม ศาลเห็นว่าเป็นผู้จัดมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลการชุมนุมให้เรียบร้อยและเลิกการชุมนุมตามกำหนดเวลา พิพากษาลงโทษปรับ น.ส.ชลธิชา ในฐานะเป็นผู้จัดการการชุมนุม เป็นเงินจำนวน 1,000 บาท ซึ่งแยกกันกับในส่วนของผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตาม ทางผู้จัดได้มีการดูแลผู้ชุมนุมแล้ว แต่เกิดจากปัจจัยที่เจ้าหน้าที่มารบกวนการชุมนุม จึงทำให้เกิดความล่าช้าไปบ้าง

ด้าน น.ส.ชลธิชากล่าวว่า ยืนยันว่าการชุมนุมในคดีนี้เราทำขบวนการทางกฎหมายเรียบร้อยและเป็นการชุมนุมที่ชอบด้วยกฎหมาย มีการแจ้งการชุมนุมล่วงหน้า ซึ่งตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ มาตรา 19 กำหนดหน้าที่ของตำรวจไว้ว่าในกรณีที่มีการเดินบนเส้นทางการจราจรบนถนน ตำรวจมีหน้าที่จัดการจราจร และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ดังนั้น ข้อหาที่เราถูกกล่าวหาว่าไม่ดูแลการจราจร หรือทำให้เกิดผลกระทบกับคนอื่น จึงเป็นหนึ่งในกระบวนการที่เราต่อสู้ได้ อีกทั้ง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ มาตรา 20 ระบุว่า ตำรวจต้องช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องของการชุมนุมทั้งก่อน ระหว่างชุมนุม และหลังการชุมนุม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้อื่น เราในฐานะผู้จัดการชุมนุมเราทำตามกฎหมาย แต่ก็สู้กันต่อว่าในระหว่างการชุมนุม การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจชอบด้วยกฎหมายมากน้อยเพียงใด โดยหลังจากนี้ อาจจะต้องขอคุยกับทนายความเพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อ