เรื่องสั้น | บันทึกซาตาน ในใบลานของฉัน (2)

ส่วนแม่ของเธอก็ไปพักร้อนตากอากาศที่ต่างจังหวัดกับเพื่อนเป็นเวลา 1 อาทิตย์ ทำให้ไม่มีใครอยู่คอยช่วยชีวิตเลย กายในของเธอขังเธอในห้องที่ขาดอากาศเป็นเวลาเกือบสี่วัน จนเธอสลบ จากนั้น เมื่อมารดาของเธอเปิดห้องเธอออกมา ก็พบเธอนอนขาดอากาศสลบไสลอยู่ในห้องคนเดียว เคราะห์ดีที่เธอไม่เป็นอะไร แต่ลมหายใจรวยระริน ในห้องร้อนอบอ้าวมาก เนื้อตัวของเธอมีเหงื่อไหลออกมาแต่ตัวเธอเย็นเฉียบ เธอตื่นจากการสลบไสลเพราะเธอได้ยินเสียงมารดาของเธอเรียกชื่อเธอและมีเชือกสีขาวๆ ให้เธอเกาะเดินตามมา เธอสาวเชือกสีขาวนั้น แล้วเดินตามมายังเสียงที่มารดาเรียกเธอ

…ตื่น ตื่น มารดาตบหน้าเธอ

แล้วเธอก็สะลึมสะลือตื่นขึ้นมา พร้อมเห็นรอยยิ้มของมารดา

หลังจากนั้น เธอนอนหลับใหลอยู่ที่เตียงของเธอโดยมีมารดาของเธอคอยหยอดน้ำข้าวต้มให้ที่เตียง แล้วคืนนั้นก็มีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นว่า

…เมื่อการเสร็จ จะได้สม ภิรมย์หมาย…

เป็นประโยคที่เธอจำได้ทั้งยามหลับและยามตื่น

เขาบอกเธอว่า…ข้าบอกเจ้าแล้วว่า อย่ามาเกิด ให้อยู่ป่าด้วยกัน เจ้าก็ไม่เชื่อ…การเป็นมนุษย์ มันยากลำบาก เจ้าเองน่าจะรู้…หากข้ามาช่วยเจ้าไม่ทันการณ์ เจ้าคงกลายเป็นกะหรี่อยู่ที่เขมรแล้ว เพราะเจ้านั่นแหละ หน้าโง่ อวดดี ไปยุ่งกับมัน…

เสียงที่คุ้นเคยกล่าวกล่อมเธอซ้ำไปซ้ำมา นัยว่าตัดพ้อต่อว่า

บัดนี้ ข้าแทรกเข้ากายทิพย์ของเจ้าได้แล้ว และลึกขึ้นเรื่อยๆ เจ้าจะไม่สามารถกลับไปสู่ร่างเดิมได้อีกแล้ว …เสียงที่คุ้นเคยตัดพ้อต่อว่าเธอขณะหลับ

ในถ้ำแห่งหนึ่ง เสียงดังขึ้นว่า…

สมชาย อย่า…เจ้าเลิกเถิด …การที่กายทิพย์ของนางบางลงเรื่อยๆ นั้น ทำให้นางไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้ เจ้าย่อมรู้ดีแก่ใจ อย่าก่อเวรสร้างกรรมแก่นางเลย

แต่หากข้าไม่ทำเช่นนี้ นางก็จะเป็นกะหรี่อยู่ที่เมืองเขมร จะให้ข้าทำเช่นไร เจ้ามนุษย์ใจหยาบผู้นั้น มันตั้งใจเอานางไปเป็นกะหรี่ผีเขมร ข้าจำเป็นต้องแทรกกายทิพย์ของนางแล้วนำนางมาส่งที่เมืองสยาม หากมิได้เสาร์ห้าที่ข้าโยงไว้ วิญญาณของนางคงไม่พ้นผีเขมรเสียมราฐ

แล้วเจ้าไปยุ่งอะไรกับมนุษย์ผู้นั้น ในเมื่อนางตัดสินใจไปเกิดเป็นมนุษย์ ไม่ยอมเป็นสมิง นางได้เลือกหันหลังกับเส้นทางนี้แล้ว ย่อมเป็นเครื่องเตือนใจพวกเราว่า อย่าไปยุ่งกับนาง นางมิใช่พวกเราอีกต่อไปแล้ว

แล้วเหตุใด ท่านยังไม่ยอมปล่อยวางจากนางล่ะ

เสียงปรึกษากันดังลั่นถ้ำ จนกระทั่งมีเสียงดังเสียงหนึ่งตัดสินใจเด็ดขาดว่า

…ชาตินี้ จะเป็นชาติสุดท้ายที่ข้าจะช่วยเหลือเจ้า…สมชายกล่าวเด็ดขาด

ญารัลสติสตังค์ไม่ค่อยดี ช่วงนี้เธอจึงคิดไปบวชชีพราหมณ์เพราะคิดว่าสามารถลบล้างกรรมเก่าในอดีตชาติได้ พระอาจารย์เมตตาสอนวางดวงแก้วที่จุดกางเขนอันเป็นวิชาสายธรรมกาย ญารัลรับวิธีปฏิบัติมาและน้อมนำดวงแก้วมาฝึกฝนเองที่บ้าน เนื่องจากวาสนาน้อย ญารัลไม่มีความสงบเลย ญารัลรำพึงในใจ

…เหตุใดจิตใจจึงเร่าร้อนเช่นนี้หนอ…เธอคิด

เธอจึงคิดวิธีแบบที่ชาวบ้านเขาทำกันคือ การดูดวง สะเดาะเคราะห์ เธอจึงค้นหาดูดวงฟรี เนื่องจากเธอไม่มีรายรับอะไรเลย จึงต้องการดูดวงฟรี และแล้วเธอก็พบกับหมอดูท่านหนึ่งที่อยู่ย่านนครปฐมซึ่งดูดวงฟรี เธอจึงมอบวันเดือนปีเกิด และเวลาตกฟากให้ไป พร้อมโทรศัพท์ไปแสดงคำขอบคุณล่วงหน้า

และแล้วในคืนนั้นเอง เสียงสมิงดังลั่นในเวลาตีสอง ขู่เสียงแหลม แต่ไม่สามารถเข้ามายังห้องนอนของเธอได้

เธอสามารถเข้าใจเสียงสมิงได้อย่างไรก็ไม่ทราบ เสียงนี้พูดว่า

…เข้าไม่ได้ นี่มึงเป็นใครเหรอ…ออกมาเดี๋ยวนี้…นี่หลอกให้มาใช่มั้ย…ออกมาให้ปล้ำเสียดีๆ…มาเป็นเมียของกูเสียดีๆ…เสียงสมิงร้องส่งเสียงให้มาผสมพันธุ์เรียกตัวเมียเสียงแหลมดังลั่น

…ญารัลตื่นขึ้นมาด้วยความกลัว แต่เข้าใจภาษาสมิงทั้งหมด…

สักครู่ เธอลุกขึ้นไปหยิบประคำที่เธอได้จากพิธีเสาร์ห้าเมื่อยี่สิบปีก่อนขึ้นมาสวมใส่

…เด็กสมชาย…ไปเถอะ

…อะไรนะ สมชายเหรอ…ไปเถอะ

…พวกสมิงนครปฐมจากไปพร้อมกับความเยือกเย็นของสายลม ญารัลนอนตัวสั่นมือจับลูกประคำบนเตียงนอนของเธอมิกล้านอนหลับ

เช้าวันรุ่งขึ้น เธอส่งข้อความไปหาหมอดูว่า

…ป่วยและนอนติดเตียงมานานแล้วค่ะ อย่าซ้ำเติมกันเลย…เป็นอันรู้กันว่า เธอมิใช่คนโง่อีกต่อไปแล้ว การเอาวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟากไปให้ใครง่ายๆ เป็นเรื่องที่โง่เง่ามาก โดยเฉพาะให้หมอดูที่ไม่คิดเงินค่าดูหมอ เพราะพวกนี้จะถือโอกาสปล่อยของและปลุกปล้ำทำไสยศาสตร์เอาได้ง่ายๆ นี่คือสิ่งที่ญารัลเพิ่งเรียนรู้

ญารัลต้องการรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนที่เธอหมดสติและบินไปเขมรโดยไม่รู้ตัว เธอพยายามค้นหาเรื่องราวของเธอ และแล้ว เธอก็ย้อนกลับไปดูวันที่ประทับตราเดินทางเข้าประเทศเขมร ว่าตรงกับวันที่เท่าไร และย้อนกลับไปดูเรื่องราวทางเฟซบุ๊ก ปรากฏว่า วันนั้น เธอโพสต์รูปถ่ายของตนเองกับโลโก้ของบริษัท lifeextension foundation ขณะที่เอไปสัมภาษณ์งานพอดี เธอจึงตัดสินใจ เขียนอีเมลไปหาคุณวิชา เจ้าของบริษัท ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ แต่ปรากฏว่า อีเมลถูกตีกลับ เสมือนว่าถูกตั้งค่าบล็อกเอาไว้ เธอไม่ล้มเลิกความพยายามในการสืบค้นหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เธอขับรถไปที่บริษัทดังกล่าว พบว่าบริษัทนี้ อยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งแปลกประหลาดมาก ภาพความทรงจำเดิมๆ ได้ย้อนมา เอ…ตึกนี้สร้างเสร็จแล้วมิใช่หรือ

ทำไมตึกนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างล่ะ…เธอคิดในใจ

เมื่อเธอขับรถกลับบ้าน เธอถูกรถยนต์คันหนึ่งตามประกบ เธอพยายามขับหนี แต่หาทางออกจากวัดวัดหนึ่งไม่ได้ ท้องฟ้าก็มืดมิด ป้ายบอกทางก็ไม่มี รถคันนั้นก็ตามประกบและวิ่งชน เมื่อเธอขับรถหนีไปยังด่านทางด่วน เธอวิ่งไปใช้ทางด่วน ด้วยความเร็วสูง เธอเหยียบคันเร่งจนกระทั่งมิดที่ความเร็ว 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เธอขับปาดหน้ารถสิบล้อ ท้ายสุด รถชนไม้กั้นด่านทางด่วนตรงด่านเก็บเงินค่าทางด่วน รถยุบไปครึ่งคัน ญารัลกระโดดออกมาจากรถที่ยับแล้วเข้าไปนั่งในตู้ด่านเก็บเงินนั้น พร้อมกับได้ยินเสียงในหัวว่า

…อีกแล้ว…บัดซบ…คราวนี้เข็ดหรือยังล่ะ ไปหามันทำไม…ถ้าไม่ได้เราจะรอดมั้ย…โง่เสียจริง…ญารัลนั่งร้องไห้มองดูสภาพรถที่ยับไปครึ่งคันของตนเองพร้อมกับร้องไห้ตัวโยนมองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยตัวอันสั่นเทา นี่คุณวิชาส่งคนมาฆ่าเธอจริงๆ เหรอ ทั้งๆ ที่ออฟฟิศว่างเปล่าขนาดนั้น

…สักครู่ ได้ยินเสียงผู้ชายสองคนทะเลาะกัน

สมชาย…วิญญาณเธอเป็นของเรา เราเป็นพญายมของเธอ เธอต้องถูกส่งไปดัดสันดานปากเสียที่เขมร ปล่อยเธอออกมาที่รถเดี๋ยวนี้

วิชา…อย่าคิดว่าร่ำรวยมีเงินทองแล้วจะรังแกใครก็ได้นะ ผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของเรา และไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมถึงเอาดวงจิตไปขายในซ่องเขมรเล่า…เสียงผู้ชายที่ชื่อสมชายเถียง

…ไม่ได้…ดวงจิตของหล่อน เป็นของข้าแล้ว เจ้าจะมาขโมยไปมิได้ สมชาย ปล่อยเธอออกมาที่รถเดี๋ยวนี้ ก่อนที่จะสาย หากเจ้ากับเราไม่อยากเป็นศัตรูกัน…วิชากล่าวขึ้น

…วิชา ท่านอย่ามาเรียกข้าเช่นนี้ ตัวข้าอายุมากกว่าท่านหลายร้อยปี และทำงานใหญ่ๆ รับใช้ประเทศมามากมาย มิใช่เศรษฐีเด็กรุ่นใหม่อย่างท่าน ฉะนั้น กรุณาให้เกียรติข้าด้วย กลับไปเถิด ดวงจิตของหญิงคนนี้เป็นของข้าไปแล้ว ข้าแทรกกายทิพย์นางเข้ามิติแล้ว และเป็นที่รู้กันแล้วว่า ทางเดินของสมิงและสำนักพญายมราชนั้นแตกต่างกัน อย่าได้มีเรื่องบาดหมางกันอีกเลย

…หากท่านเรียกหญิงไร้มารยาทคนนี้ว่าภรรยา ข้าก็จะปล่อยไป นึกเสียว่า ข้าได้ให้เกียรติท่านที่อายุน้อยกว่า และเสียมารยาทกับท่านแล้วกัน หากคราวหน้า นางเข้ามายุ่มย่ามหาเรื่องข้าอีก ข้าจะไม่ไว้หน้าท่านนะท่านสมชาย…เสียงวิชากล่าวขึ้นอย่างดุดันและจากไปด้วยความโกรธแค้นที่ไม่สามารถเอาดวงจิตของหญิงสาวไปได้ เนื่องจากถูกสมชายดูแลอย่างดีในห้องเก็บเงินด่านทางด่วนอันเป็นอีกมิติหนึ่งนั่นเอง

เมื่อวิชาไม่สามารถสั่งสอนผู้หญิงปากเสียอย่างญารัลได้ เขาก็ครุ่นคิดถึงแผนการร้ายต่างๆ นานา เนื่องจากหากเขาได้ดวงจิตของญารัลมาครอบครอง เขาย่อมมีอำนาจต่อรองกับสมชาย อันเป็นเรื่องได้เปรียบ เนื่องจากสมิงเป็นผู้เฝ้าเส้นทางเข้าออกสำคัญของประเทศมากมาย เส้นทางเชื่อมมิติเก่าแก่ต่างๆ รวมทั้งเมืองลับแลที่หายสาบสูญไปตามกาลเวลา วิชาวางแผนหลบซ่อนและซ่องสุมกำลังอย่างมาดมั่นว่าจะให้สำเร็จจงได้

นิทรรศการงานศิลปะเหรอ…ญารัลกล่าวถามอ้นเสียงใสทางโทรศัพท์

ใช่…อ้นตอบ

ที่นั่นเปิดตัวงานมหกรรมสินค้าโอท็อปด้วยนะ และอยู่ไม่ไกลเท่าไร แค่ขึ้นรถไฟฟ้าไปสุดสถานีแล้วจะมีรถของนิทรรศการมารับเพื่อเข้าชมงานเลยนะ…อ้นเพื่อนสนิทของญารัลขยายความทางต้นสาย

เมื่อนัดแนะกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อ้นก็มารับญารัลที่บ้านของเธอ เสียงมารดาสั่งว่า…อย่ากลับดึกนะลูก…

ค่ะ…ญารัลรับคำอย่างว่าง่าย

อ้นเอารถมาจอดที่บ้านของญารัล เพราะบ้านของญารัลอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า แล้วทั้งสองจึงขึ้นรถไฟฟ้าไปด้วยกันจนสุดสถานี ทั้งสองก้าวลงจากรถไฟฟ้า และมองหารถจากนิทรรศการมารับ

ทำไมสถานีนี้ไม่ค่อยมีคนเลยอ่ะ…อ้นเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย

นั่นน่ะสิ…ญารัลก็สงสัยเช่นกัน

สักครู่มีรถตู้คันสีขาว มีป้ายคำว่า นิทรรศการ ปิดอยู่หน้ารถ อ้นชี้ไปที่รถตู้คันดังกล่าว ญารัลดีใจ จึงรีบโบกให้รถหยุด รถตู้รีบหยุด จากนั้น รถตู้จอดรอผู้โดยสารคนอื่นๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะเคลื่อนที่ไปไหนเป็นเวลาร่วมครึ่งชั่วโมง เมื่อไม่มีผู้โดยสารคนไหนแล้วนอกจากอ้นและญารัล รถตู้จึงเคลื่อนตัวออกจากสถานีเพื่อไปยังงานนิทรรศการแสดงภาพเขียนและโอท็อป

เป็นเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยเลย ทั้งอ้นและญารัลต่าง งงงวยเพราะเส้นทางนี้มุ่งตรงสายชลบุรีเก่า เสียงอ้นบ่นว่า ทำไมไกลจัง เป็นระยะๆ จนคนขับรถตู้เริ่มถอนหายใจดังๆ อันส่งสัญญาณว่ารำคาญนั่นเอง

และแล้วก็ถึงจุดหมายปลายทาง คือปราสาทที่ตั้งตระหง่านงดงามประหลาดแปลกตา ดูคล้ายศิลปวัฒนธรรมขอมเพราะสร้างจากอิฐมอญ แต่ก็มิใช่เพราะรูปทรงเป็นปราสาทสมัยใหม่ โครงสร้างอลังการเกินอธิบาย สำหรับคนรุ่นใหม่อย่างญารัล นับว่าปราสาทแห่งนี้อะเมซิ่ง อ้นและญารัลอ้าปากค้างเมื่อก้าวเดินลงเข้าไปในงานนิทรรศการแสดงศิลปะหลากหลายภายในปราสาทแห่งนี้ งานศิลปะหลายชิ้นที่ญารัลจ้องมองด้วยความเวียนหัวและไม่เข้าใจในอารมณ์ของภาพด้วยความที่เธอเข้าไม่ถึงการถ่ายทอดของชิ้นงานและความไร้รสนิยมของเธอ หากเธอมีรสนิยมจะสามารถเสพย์ศิลปะที่น่าเวียนหัวเหล่านี้ได้

อ้นสาธยายให้เธอฟัง