เมื่อวันที่ 27 ก.ย. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวตอนหนึ่งระหว่างปาฐกถาที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ว่า จะทำให้ไทยเป็นประเทศร่ำรวยภายในปี 2579 ว่า เป็นเพียงอีกวาทกรรมหนึ่งในการขายฝัน เหมือนที่เคยพูดหลายอย่างมาก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายเวลาผ่านไปกว่า 5 ปีก็ไม่สามารถทำได้จริง มีแต่ทำให้ประเทศย่ำแย่ลงไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่ภาคส่วนต่างๆ แม้กระทั่งหน่วยงานของรัฐเอง ยังเห็นพ้องกันว่าเศรษฐกิจไทยกำลังทรุดลงอย่างหนักในทุกๆ ด้าน จนกระทั่งต้องปรับลดตัวเลขจีดีพีอีกครั้ง

ขณะที่รัฐบาลทำได้เพียงแจกเงินคนจน แจกเงินเที่ยว ซื้อเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธ รวมทั้งโทษไปที่ภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ซึ่งสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านที่ดีขึ้นกว่าไทยมาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ก็เคยขายฝันเหมือนกันว่าในปี 2561 คนจนจะหมดไปจากประเทศไทย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ มีการเพิ่มตัวเลขคนจนจาก 8 ล้านคนมาเป็น 11.4 ล้านคน ในปี 2560 และเพิ่มเป็น 14.5 ล้านคนในปี 2561 จากการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนของรัฐบาล

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่คนไทยต้องการตอนนี้คือวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจของผู้นำประเทศ ว่าทำอย่างไรเศรษฐกิจจึงจะฟื้นตัวเหมือนประเทศเพื่อนบ้าน ทำอย่างไรเกษตรกรจึงจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายสินค้าเกษตร ทำอย่างไรคนจนจึงจะหมดไป ไม่ใช่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นภาวะรวยกระจุกจนกระจายอยู่ในขณะนี้

“ถึงเวลาที่สังคมไทยควรคิดกันอย่างจริงจังได้หรือยังว่า เราควรปล่อยให้พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เป็นผู้นำบริหารประเทศอีกต่อไปหรือไม่ เวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมายังไม่เพียงพอสำหรับการพิสูจน์อีกหรือ เราจะอยู่กันแบบนี้เพื่อรอเพียงว่าเมื่อไรท่านผู้นำจะมีวาทกรรมมาขายฝันให้กับพวกเราอีก” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว