มัลลิกา มาแล้ว! ขอนายกฯ แก้กม.ให้ทันสมัย เท่าเทียม ชี้ของเดิม ทุนใหญ่ผูกขาดขายเบียร์

(25 ม.ค.) นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊ก “มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข” จากรณีที่ เจ้าหน้าที่บุกจับผู้ผลิตเบียร์รายย่อย ก่อนที่นายกฯจะยืนยันว่า ไม่สามารถทำอะไรกับกลุ่มทุนใหญ่ที่ผูกขาดตลาดเบียร์ได้

เรื่องเบียร์ๆ จากคำถาม : ปัจจุบันนี้กลุ่มทุนใหญ่ไม่กี่กลุ่มยึดตลาดเบียร์เกินไป

คำตอบพล.อ.ประยุทธ์ : กลุ่มทุนทำผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็เล่นงานเขาไม่ได้ แล้วหมักเบียร์สดเองผิดกฎหมายไหม ถ้าผิดก็ดำเนินคดี ถ้าทางกลุ่มทุนทำผิดก็ดำเนินคดีกับเขา

คือ นายกฯพูดถูก มันมีกฎหมายค้ำคออยู่ซึ่งเป็นกฎหมายเขียนมาตั้งแต่นายกยังแก้ผ้าเล่นน้ำอยู่มั้งหรือก่อนนายกฯเกิดก็ไม่รู้

เหล้าอื่นทำได้เกือบหมด เพียงไปขออนุญาตสรรพสามิต (จ่ายภาษี) แต่เบียร์นั้นกฎหมายมีให้ตั้งได้แค่สองแบบคือเกิน 10,000,000 ลิตรต่อปีบรรจุได้ กับอีกแบบคือ 100,000-1,000,000 ลิตรให้กินในที่ตั้ง และทั้งหมดต้องผ่านสรรพสามิตเหมือนกัน

แปลว่า..

1.ถ้าเราจะคิดสูตรเบียร์เองและผลิตใส่ขวดบรรจุขายได้จะต้องเป็นธุรกิจที่ทำระดับ 10,000,000 ลิตรต่อปี (ผูกขาดควรแก้ไข)

2.ถ้าเราผลิตเบียร์เองกินเอง กินที่บ้าน กินที่ร้าน คือต้องผลิตระดับ 100,000-1,000,000 ลิตร และเอาไปบรรจุขวดขายไม่ได้ (จำกัด ผูกขาด ควรแก้ไข)

ดิฉันคิดว่า นายกรัฐมนตรีควรจะพูดเสียใหม่ว่า “กฎหมายใดที่ล้าสมัยผมจะนำมาพิจารณาแก้ไขถ้าหากมันเป็นการผูกขาดนานเกินไปก็จะต้องแก้ไขให้ทันกับยุคสมัยนี้เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเท่าเทียมกันในการทำธุรกิจ และอนาคตเราจะได้ส่งออกเบียร์ได้เหมือนกับประเทศอื่นมันส่งมาให้เรากินบ้าง” (ฝันว่านายกฯกล่าว)

พูดแบบนี้จึงจะสมเป็นนายกรัฐมนตรี ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประชาชนชื่นชอบนะคะ ดิฉันคิดว่า ดีกว่าพูดคำว่ากลุ่มทุนผิดตรงไหนแล้วท่านไม่แก้ไขอะไรในเรื่องนี้
ใช่ค่ะ..กลุ่มทุนไม่ผิด แต่ที่ผิดพลาดมาตลอดคือกฎหมายไทยที่ออกโดยรัฐไทยโดยนักการเมืองเก่าๆของไทยที่อาจจะตายกันไปหมดแล้ว แต่เรายังไม่ได้แก้ไขกฎหมายเก่านั้น