ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 2 - 8 สิงหาคม 2562 |
---|---|
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
ยานยนต์ สุดสัปดาห์/ สันติ จิรพรพนิต [email protected]
‘ปาเจโร่ สปอร์ต ใหม่’
จัดหนัก ‘ปลอดภัย-ไฮเทค’
“มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต” รถอเนกประสงค์ขนาดกลาง หรือพีพีวี ปิกอัพดัดแปลงที่ขายดิบขายดีเหลือเกินของค่าย ถึงเวลาปรับโฉมครั้งใหญ่ “โมเดลเยียร์ 2020”
โดยเลือกประเทศไทยซึ่งเป็นฐานการผลิตรถรุ่นนี้ส่งขายทั่วโลกเป็นประเทศแรกที่เปิดตัว
“ปาเจโร่ สปอร์ต” หรือในบางประเทศใช้ชื่อ “มอนเทโร สปอร์ต” ถือเป็นพีพีวีที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในเมืองไทยและในระดับโลก กวาดยอดขายราว 77,000 คันทั่วโลกในเวลาไม่ถึง 1 ปีที่ผ่านมา
ปัจจัยสำคัญไม่พ้นรูปร่างหน้าตาที่ดูทันสมัยกว่ารุ่นเก่า ออปชั่นที่จัดมาให้แบบหนักๆ บวกกับการทำราคาที่เข้าถึงง่าย
รุ่นล่าสุดเป็นแบบไมเนอร์เชนจ์ มองผาดๆ เหมือนจะคล้ายเดิม แต่เมื่อเจาะลึกในรายละเอียด มีความแตกต่างอยู่พอสมควร โดยเฉพาะออปชั่นที่ใส่เข้ามาไม่แพ้รถยุโรปก็ว่าได้
มีให้เลือก 3 รุ่นย่อยคือ 2WD 2.4 GT, 2WD 2.4 GT-Premium และ 4WD 2.4 GT-Premium
ออกแบบด้านหน้าแบบ “Advanced Dynamic Shield” รถอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ ที่เห็นในรถรุ่นหลังๆ กระจังหน้าแบบคาด 2 เส้น พร้อมช่องดักลมขนาดใหญ่
ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์ แบบ Bi-LED พร้อมระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติ มาพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ SPECTRUM LED ไฟส่องสว่างขณะเลี้ยว และไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED
มีเซ็นเซอร์ด้านหน้า 4 จุด พร้อมกล้อง
เส้นสายฝากระโปรงหน้า เชื่อมไปถึงด้านข้าง
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว มีบันไดข้างเพิ่มความสะดวกขึ้น-ลง เพราะตัวรถที่ค่อนข้างสูง
ล้ออัลลอย 18 นิ้ว แบบสปอร์ตทูโทน
ไฟท้ายคล้ายของเดิมแบบ LED
ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี เตะเท้าเข้าไปใต้ท้องรถประตูจะเปิด-ปิดอัตโนมัติ
ภายในใช้โทนดำตัดกับสีเงินในบางจุด คอนโซลหน้าและคอนโซลกลางออกแบบใหม่ เพิ่มพื้นที่ด้านฝั่งคนขับและห้องโดยสารกว้างขวางมากขึ้น
พวงมาลัย 4 ก้านพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ปรับเปลี่ยนรูปแบบหน้าจอได้ 3 แบบ รองรับเมนูภาษาไทย
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบปรับแยกอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา และเทคโนโลยี nanoeTM ที่สร้างไอออนประจุลบ เพื่อดักจับฝุ่นแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ คงความชุ่มชื้นของผิว
ตรงกลางเป็นจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว แสดงภาพจากกล้องมองรอบคัน แผนที่นำทาง และเครื่องเสียง ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนทั้งระบบไอโอเอส และแอนดรอยด์
ช่องต่ออุปกรณ์ USB 2 ตำแหน่ง พร้อม HDMI บริเวณคอนโซลหน้า เชื่อมต่อความบันเทิงกับ SDA (Smartphone-Link Display Audio) สะดวกสบายมากขึ้นด้วยช่องจ่ายกระแสไฟ AC 220 โวลต์ พร้อมช่องชาร์จอุปกรณ์ USB 2.1A 2 ตำแหน่งบริเวณคอนโซลกลางด้านหลัง
หัวเกียร์ขนาดใหญ่จับกระชับมือ ใกล้กันเป็นเบรกมือไฟฟ้าอัตโนมัติ จะทำงานเมื่อเลื่อนคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง “P” และจะปลดล็อกอัตโนมัติเมื่อเลื่อนคันเกียร์ออกจากตำแหน่ง “P”
คอนโซลกลางและแผงประตูบุด้วยวัสดุบุนุ่ม
เพิ่มช่องเก็บของใต้คอนโซลเพื่อการใช้งานที่สะดวกมากขึ้น
ในรุ่น GT-Premium ยังเพิ่มจอภาพแบบ Widescreen ขนาด 12.1 นิ้ว ติดเพดานเพื่อผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมกับรีโมตและหูฟังอินฟราเรด เชื่อมต่อ HDMI และ USB
เบาะนั่งแถว 2-3 ปรับเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบตามการใช้งาน
ขุมพลังเครื่องยนต์ MIVEC 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว 2,442 ซีซี พร้อมวาล์วไอดีแปรผัน, เทอร์โบแปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์ ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500 รอบต่อนาที
ระบบรองรับด้านหน้า ดับเบิลวิชโบน คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง แบบทรีลิงก์ ทอล์กอาร์ม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
เทคโนโลยีความปลอดภัยและไฮเทค ต้องถือว่าใส่มาแน่นคัน
ระบบสัญญาณเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด
ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน
ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว โดยใช้เรดาร์ประเมินระยะห่างจากรถคันหน้า หากพบว่าเสี่ยงที่จะชนรถคันหน้าในช่องทางเดียวกัน ระบบจะเตือนและช่วยชะลอความเร็ว พร้อมเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกเพื่อประสิทธิภาพเบรกที่ดีขึ้น
ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ฯลฯ
มีกล้องมองภาพรอบคัน ทำงานผ่านกล้อง 4 ตำแหน่งรอบตัวรถ เพื่อประมวลผลและแสดงภาพแบบ Bird’s Eye View ผ่านหน้า ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพได้รอบตัวรถ เพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการจอดรถได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวในสภาวะที่รถเสียสมดุล เพื่อป้องกันการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง เช่น กรณีเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็ว ถนนลื่น หรือหักหลบกะทันหัน พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบจะช่วยควบคุมการหมุนของล้อทั้ง 4 อย่างสมดุล
สะดวกมากขึ้นด้วยระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ ระบบจะล็อกความเร็วให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ได้ตั้งค่าไว้ โดยทำงานร่วมกับเรดาร์ หากตรวจพบว่ามีรถยนต์ด้านหน้าใช้ความเร็วต่ำกว่า ระบบจะปรับลดความเร็วอัตโนมัติ เพื่อรักษาระยะห่างจากรถยนต์ด้านหน้า และจะปรับความเร็วกลับสู่ระดับเดิมที่ตั้งค่าไว้ เมื่อรถยนต์ด้านหน้าพ้นจากระยะตรวจจับของเรดาร์ (เฉพาะรุ่น GT-Premium)
นอกจากนี้ ยังมี MITSUBISHI REMOTE CONTROL ระบบการเชื่อมต่อรถยนต์ผ่านแอพพลิเคชั่น พร้อมสั่งการทำงานบนสมาร์ตโฟน
สามารถสั่งงานต่างๆ ของรถยนต์ เช่น เปิด-ปิดประตูท้ายอัตโนมัติได้ล่วงหน้าจากสมาร์ตโฟน (ในระยะเวลาไม่เกิน 20 นาที)
แจ้งเตือนถึงสถานะของรถ เช่น ลืมล็อกรถ, ลืมปิดไฟหน้า สามารถเช็กสถานะของรถได้ เช่น เปิด-ปิดไฟหน้า, เปิด-ปิดไฟฉุกเฉิน
สามารถจัดการรถยนต์ผ่านสมาร์ตโฟน เช่น ปิดไฟฉุกเฉิน, สั่งล็อกประตูรถ เป็นต้น
มีระบบช่วยเหลือพร้อมแจ้งสาเหตุผ่านสมาร์ตโฟน ในกรณีที่ไม่สามารถล็อกรถได้ เช่น ไม่มีกุญแจ ประตูปิดไม่สนิท ลืมดับเครื่องยนต์ หรือลืมนำกุญแจออกจากรถ
ค้นหารถยนต์ โดยสั่งการให้เปิดไฟหน้าจากสมาร์ตโฟนได้
ระบบ MITSUBISHI REMOTE CONTROL สามารถสั่งการทำงานผ่านสมาร์ตโฟนในระยะสัญญาณบลูทูธเท่านั้น
สนนราคา ปาเจโร่ สปอร์ต ใหม่
รุ่น 2WD 2.4 GT 1,299,000 บาท
รุ่น 2WD 2.4 GT-Premium 1,469,000 บาท
รุ่น 4WD 2.4 GT-Premium 1,599,000 บาท
ถ้ามีงบฯ เพียงพอแนะนำรุ่น “GT-Premium” เพราะให้ออปชั่นมาเต็มกว่า