รมว.ยธ.วางไทม์ไลน์จ่ายค่าชดเชย เหยื่อแพรวา 28 ส.ค. หากเกินจะเข้าสู่การบังคับคดี

รมว.ยุติธรรมวางไทม์ไลน์ชดใช้ค่าชดเชย เหยื่อแพรวา 28 ส.ค. หากเกินจะเข้าสู่การบังคับคดีแนะขายที่ดินให้ได้เร็วๆ

เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ดร.กรศุทธิ์ ขอพ่วงกลาง ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมด้วยผู้แทนจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกันแถลงข่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมกับศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มีการหารือร่วมกันเพื่อรับทราบแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับคดีอุบัติเหตุฯ ซึ่งพบว่า คดีดังกล่าวมีผู้เสียหายที่เป็นโจทก์ มีจำนวน 25ราย และมีจำเลย จำนวน 4 ราย

ศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 และได้มีการส่งคำบังคับให้จำเลยทั้ง 4 ราย รับทราบแล้ว ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 1ถึงที่ 3 ร่วมกันชำระค่าเสียหายให้แก่โจทก์ในแต่ละคดี รวมเป็นเงินประมาณ21.9 ล้านบาท และให้จำเลยที่ 4ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3จำนวน 2.8ล้านบาท รวมค่าเสียหายที่จำเลยที่ 1-4 ต้องร่วมกันชำระ จำนวนประมาณ 25 ล้านบาท ซึ่งจะต้องชำระพร้อมดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2553 (วันเกิดเหตุ) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ ซึ่งเมื่อคำนวณจนถึงปัจจุบัน (เดือนกรกฎาคม 2562 ) จำเลยทั้ง 4จะต้องชำระหนี้รวมเป็นเงินประมาณ 41 ล้านบาท

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากคดีดังกล่าวมีจำเลย 4ราย อยู่ต่างจังหวัด2 ราย จึงต้องส่งหมายไปตามภูมิลำเนา จำเลยที่ 4 ปิดหมาย 6 ก.ค. จำเลยที่1 และ 3 ปิดหมาย 3 ก.ค.
ทั้งนี้คำบังคับคดีจะครบกำหนด ในวันนี้ 28 ก.ค.จากนั้นจำเลยมีเวลา 30 วัน จะครบกำหนดจ่ายชดเชย คือ 28 ส.ค.ตามกำหนดของกฎหมาย หากผ่านพ้นช่วงเวลา ดังกล่าวตากนั้นโจทก์ จะต้องขอกำหนดตัวเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อเริ่มต้นการเช้าสู่ขั้นตอนการบังคับคดี

“ตอนนี้ยอด ชำระตามกม.อยู่ที่ 41 ล้าน รวมดอกเบี้ย หากล่าช้าออกไปภาระก็จะตกอยู่ที่จำเลย เลยอยากแนะนำให้รีบขายที่ดิน ให้ได้โดยเร็ว ถ้าจำเลยขายได้เร็ว ก็จะเป็นประโยชน์ ถ้าช้ากว่านี้ภาระดอกเบี้ยจะต้องอยู่ที่จำเลย’นายสมศักดิ์กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สถานะของคดีในปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการบังคับคดี ซึ่งโจทก์ได้มอบให้ศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นผู้แทนในการดำเนินการ โดยกระทรวงยุติธรรม สามารถให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีในชั้นบังคับคดีผ่านกองทุนยุติธรรมสำหรับเป็นค่าจ้างทนายความ ค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี ในขณะเดียวกันก็จะมีสำนักงานยุติธรรมจังหวัดช่วยประสานงานอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียหายที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดต่างๆ ในการยื่นคำขอรับการสนับสนุนจากกองทุนยุติธรรม และช่วยติดตามแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ให้ผู้เสียหายได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง หากจำเลยไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ก็จะมีการยื่นขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี ซึ่งกรมบังคับคดีจะสามารถดำเนินการยึดทรัพย์ได้ทันที

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวกระทรวงยุติธรรมและศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เห็นความสำคัญในการยกระดับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้เข้าถึงความยุติธรรม โดยจะมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงการบูรณาการความร่วมมือ เพื่อให้ความช่วยเหลือ ประขาชนร่วมกันต่อไป

มติชนออนไลน์