ใส่บ่าแบกหาม/พรพิมล ลิ่มเจริญ/ Always Be My Maybe

ใส่บ่าแบกหาม/พรพิมล ลิ่มเจริญ

Always Be My Maybe

 

เธอจ๊ะ

Always Be My Maybe เป็นหนังแนวโรแมนติกคอเมดี้

ผู้แสดงนำมีเชื้อสายเอเชียน ได้แก่ Ali Wong เป็น stand-up comedian กับ Randall Park นักแสดงจากซีรี่ส์ Fresh Off the Boat

หนังไม่ใช่แบบ Crazy Rich Asian ที่เราเพิ่งได้ดูกันไปเมื่อปีที่แล้ว

เรื่องนั้นเป็นคนเอเชียรวยล้ำ เรื่องนี้เป็นชาวเอเชียนชนชั้นกลางในซานฟรานซิสโก

เป็นเรื่องของสองคนที่เป็นเพื่อนกันมาแต่เยาว์วัย โตมาก็เหมือนจะชอบพอกัน

แต่ก็มีเหตุให้เลิกรากันไป มาเจอกันอีกทีเมื่อ 15 ปีต่อมา

 

เรื่องก็เริ่มที่เด็กหญิงซาช่า อยู่เมืองซานฟรานซิสโก เป็นครอบครัวชาวเอเชียน ไม่ได้ระบุว่าเชื้อชาติใด แต่รู้ว่าพ่อกับแม่อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่เมืองอเมริกา สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยการเปิดร้านขายของ ต้องทำงานหนัก ให้ครอบครัวอยู่ดีมีสุข

เด็กหญิงซาช่าโตพอจะดูแลตัวเองได้แล้ว ก็เลยมักต้องอยู่บ้านคนเดียวตลอดเวลา เดินไปโรงเรียนเอง เดินกลับบ้านเอง หาอาหารเย็นกินเอง รับผิดชอบตัวเอง

แต่เด็กหญิงซาช่าแกมีแวว อาหารเย็นก็มีเพียงข้าวสวยกับสแปมหมูกระป๋อง แต่แกก็จัดใส่จานเสียสวยงาม ข้าวอัดใส่ถ้วยเคาะออกมาเป็นทรงสวย โรยผงโรยข้าวของญี่ปุ่น สแปมหมูกระป๋องก็หั่นเป็นแผ่นวางเรียงกันเป็นใบพัดเสียสวยเลย

แต่ก็ยังดีที่ข้างบ้านมีเด็กชายมาร์คัสเป็นเพื่อนกัน ครอบครัวของมาร์คัสเป็นครอบครัวเอเชียน ด้วยเหตุนี้ บ้านติดกันเสียขนาดนี้ สองคนเลยสนิทสนมกันได้ไม่ยาก

 

เด็กชายมาร์คัสมาเคาะประตูบ้าน มาเว้าวอนให้ไปกินข้าวเย็นด้วยกัน

I’m gonna be the kid

with the leftover thermos soup,

and I don’t want to be the kid

with the leftover thermos soup

ฉันต้องเป็นเด็กที่ต้อง

เอาซุปใส่กระติกไปกินที่โรงเรียน

ฉันไม่อยากเป็นเด็ก

เอาซุปใส่กระติกไปกินที่โรงเรียน

มาร์คัสอ้อนวอนอ่อนใจ เพราะถ้าซุปที่แม่ทำมันเหลือ ก็ต้องโดนแม่บังคับให้เอาซุปไปกินที่โรงเรียน อายเพื่อนน่ะสิ แม่นะแม่ ไม่น่าทำซุปหม้อใหญ่เยอะแยะขนาดนั้นเลย

ก็ได้ครอบครัวของมาร์คัสนี่แหละ ซาซ่าเลยไม่เหงา ไม่ว้าเหว่ และที่ซาช่าชอบที่สุดคือแม่ของมาร์คัสถ่ายทอดวิชาทำอาหารให้ซาซ่า ได้ฝึกปรือฝีมือ แล้วพ่อของมาร์คัสก็คอยดูแลช่วยเหลือเด็กทั้งคู่

เด็กสองคนโตมาด้วยกัน จนเมื่อใกล้ถึงเวลาต้องแยกย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัย แม่ของมาร์คัสก็มาจากไปก่อนวัยอันควร

ซาช่าก็พยายามหาทางปลอบใจมาร์คัส

I know that you’re hurting

because you lost your mom.

You know, I lost her too…

ฉันรู้ว่าเธอเจ็บปวดใจ

เพราะต้องเสียแม่ไป

แต่ฉันก็สูญเสียไม่แพ้กัน

ซาช่าพูดปลอบใจไปอย่างซื่อๆ แต่มาร์คัสกลับเข้าใจไปอีกทาง

Because your parents don’t care enough

to ever be around

doesn’t mean you know

about how I’m feeling.

การที่พ่อแม่เธอไม่ใส่ใจจะอยู่กับเธอ

ไม่ได้หมายความว่า

เธอจะรู้ว่าฉันรู้สึกอย่างไร

อ้าว มาร์คัส ไหงงั้น?!

ฉากนี้สะเทือนใจแต่ก็ตลก เพราะสองคนไปทะเลาะกันในร้านเบอร์เกอร์คิง พนักงานขายรู้เห็นเป็นพยาน

Can I interest you in a Whopper?

You can get it to go

if you wanna eat it

in your car and cry.

สนใจสั่งวอปเปอร์ไหม?

จะห่อกลับไปได้นะ

เอาไปกินในรถจะได้ร้องไห้ได้

to go ใช้เวลาสั่งอาหารแบบไม่กินในร้าน จะห่อกลับบ้าน หรือไปกินนอกร้านก็ได้ทั้งนั้น เพราะชาวไทยเรียกว่าห่อกลับบ้าน แต่ไม่ได้ไปกินที่บ้านก็บ่อยไป ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันชอบใช้ บางทีก็ใช้ take out

ถ้าเป็นภาษาอังกฤษแบบอังกฤษก็มักใช้ take away

แต่ take home อย่างที่ชาวไทยชอบใช้ ก็ใช้ได้และเป็นที่เข้าใจ

 

15 ปีต่อมา… ซาช่าเป็นเชฟ มีร้านอาหารของตัวเอง มีชื่อเสียงโด่งดังขนาดได้ขึ้นปกนิตยสารอาหารชั้นนำ และกำลังจะแต่งงาน แต่การณ์ก็กลับกลาย

And if it’s cool with you,

I’d like to postpone the wedding.

ถ้าไม่ว่าอะไร

ผมอยากเลื่อนงานแต่งงานออกไป

ซาช่าก็ตกลงตามนั้น มาสำนึกเองได้ภายหลังว่าแถวบ้านไม่เรียกเลื่อน เรียกว่ายกเลิกต่างหาก

แล้วพี่คีอานู รีฟส์ ก็เดินสโลโมชั่นเข้ามาในชีวิต!

พี่คีอานู รีฟส์ แสดงเรื่องนี้ด้วย แสดงเป็นตัวเอง ในเวอร์ชั่นที่เป็นดารานักแสดงโด่งดัง เป็นแฟนใหม่ของซาช่า ให้ซาช่าได้ปลื้มปริ่มอิ่มเอมใจ ทำให้คิดไปเองได้ง่ายๆ การได้มาเจอมาร์คัสไม่ยากลำบากอะไรนัก แต่มาร์คัสสิลำบากใจ

พี่คีอานูมาในเวอร์ชั่นว่าเป็นนักแสดงฮอลลีวู้ดหลงตัวเอง พูดจาแบบใช้คำหรูเฟ่ตลอดเวลา หล่อไปหล่อมาทุกฉากทุกตอน ตลกดี

มาร์คัสหมั่นไส้อยู่ไม่น้อย แต่ความที่แกหล่อมาก ก็อดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยปากชมว่า ชุดที่ใส่นั้นหล่อมาก

Tom Ford made it custom for me.

ทอม ฟอร์ด ตัดให้พิเศษสำหรับผม

พี่คีอานูต้องโอ้อวดใส่

แล้วอาหารมื้อนั้น ที่มีพี่คีอานู ซาช่า มาร์คัสและแฟนสาวของมาร์คัส พี่คีอานูเขาก็เลี้ยง

It’s $6,400. Less than a residual paycheck

from my hit movie Speed…

but… a little out of your ballpark.

6,400 เหรียญ น้อยกว่าเงินค้างที่ได้จาก ‘สปีด’

หนังเรื่องดังของผม

แต่เกินตัวคุณไปหน่อยล่ะสิ

residual paycheck นี้น่าจะหมายถึง residual income ที่คนทำงานวงการบันเทิงจะทราบดี อย่างดาราเมื่อแสดงหนังเสร็จแล้วก็จะได้ค่าตัวก้อนใหญ่ไปแล้ว

แต่พอกาลเวลาผ่านไป หนังเอาไปขายในช่องทางอื่นๆ รวมถึงเอาไปพัฒนาเป็นวิดีโอเกม ทำตุ๊กตุ่นตุ๊กตา ก็จะสามารถทำกำไรได้อีก ดาราก็จะได้ส่วนแบ่งรายได้นั้นๆ อีก

หรืออย่างนักร้องก็เหมือนกัน นักร้องร้องเพลงฮิต ถ้าเพลงถูกเอาไปใช้ประกอบหนัง ประกอบละคร ประกอบโชว์ นักร้องก็จะได้ส่วนแบ่งอีก

อย่างพี่คีอานูได้ค่าแสดงแล้วแกยังได้เปอร์เซ็นต์จากรายได้หนัง แกรวยสิ นอกจาก ‘Speed’ แกก็ยังมี ‘The Matrix’ อีกสามภาค ‘John Wick’ นี่ก็ภาค 3 เข้าไปแล้ว

 

เนื้อเรื่องหนังไม่ได้แปลกใหม่อะไร คนเป็นเพื่อนกัน จากกันไปนานๆ จะกลับมาเจอกันใหม่เป็นคู่รักกันได้ไหม?

แต่เขาก็เขียนบทมาให้ดูสนุก มีฉากให้ขำๆ กัน ที่สำคัญเป็นคนเอเชียนรักกัน ไม่ต้องสร้างมุขตลกระหว่างวัฒนธรรม ตลกกับเรื่องของตนเองก็เพียงพอ

และที่สำคัญ พูดซ้ำย้ำอีกครั้ง มีพี่คีอานู รีฟส์ แสดงเป็นตัวเองแต่นิสัยไม่ค่อยดี

ตรงข้ามนิสัยจริง มันทำให้หนังตลกและสนุกขึ้นมากจริงๆ

ฉันเอง