“อนุทิน” ซัด “สุภรณ์” ไม่ใช่ลูกผู้ชาย เอี่ยวจ้างคนใส่ร้ายผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ซื้อเสียง

“อนุทิน” ซัด “สุภรณ์” ไม่ใช่ลูกผู้ชาย หลังเล่นนอกเกม มีเอี่ยวจ้างคนใส่ร้ายผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ซื้อเสียง บอก เจอกันก็ขอโทษ-สาบาน แต่ยังทำซ้ำ จี้ “พลังประชารัฐ” ชี้แจง

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจในการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในการตรวจสอบผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในพื้นที่ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ที่ใส่ร้ายผู้สมัครพรรคภท. ว่า เรามั่นใจว่าผู้สมัครของพรรคภท.ทำถูกกฎหมาย และบริสุทธิ์ยุติธรรรม ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้กกต.ตรวจสอบคดีดังกล่าวอย่างเต็มที่ ให้เห็นว่าผู้บงการที่แท้จริงคือใคร เหตุใดจึงทำขนาดนี้ เพราะหากมีการเอาเปรียบกันในการแข่งขัน อยากถามว่าจะเกิดความภาคภูมิใจได้อย่างไร

“คู่กรณีอย่างนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ก็ทำอย่างนี้ไม่รู้กี่ครั้งแล้ว และเมื่อมาเจอผมข้างนอกก็มาขอโทษ บอกว่าอย่าเอาเรื่องต่อเลย สาบานก็หลายรอบ กอดกับผมไม่รู้กี่รอบจนผมไม่ไหวแล้ว ก็ยังทำอีก ไม่รู้อะไรกันหนักหนา ถ้านายสุภรณ์มั่นใจในคะแนนนิยมก็ดวลๆกันไปเลย คนที่ช่วงชิงความได้เปรียบ เพราะใกล้ชิดอำนาจรัฐก็เท่ากับยอมรับว่าตัวเองกำลังแพ้ ถึงกับต้องมาดึงขาคนอื่นลงมา ไม่ใช่ลูกผู้ชาย” นายอนุทิน กล่าว

ด้าน นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภท. กล่าวว่า ตนกับนายพรชัย อำนวยทรัพย์ ผู้สมัครส.ส.เขต 10 อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ของพรรค ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อกกต. หลังถูกนายประยุทธ บัวประดิษฐ์ คนใกล้ชิดนายสุภรณ์ จ้างวาน นายดี สิมตะมะ, นายใบ เชิดชื่อ และนายสมนึก คูณงูเหลือ เพื่อใส่ร้ายผู้สมัครพรรคภท. ว่าทำผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 73 (5) และมาตรา 143 ซึ่งมีโทษจำคุก และตัดสิทธิ์ทางการเมือง หลังมีการรับสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เสิงสาง และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีคลิปวิดีโอคำรับสารภาพอย่างชัดเจน โดยนายดียอมรับว่านายประยุทธ ได้ใช้ให้มาปรักปรำผู้สมัครของพรรคภท. ซึ่งพรรคขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะพรรคภท.ไม่เคยซื้อเสียง แต่การกระทำของนายประยุทธ ซึ่งเป็นคนสนิทของนายสุภรณ์ จะอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ เพราะตนเห็นว่าเป็นการแสดงเจตนาที่ประสงค์ต่อผล เพื่อใส่ร้ายป้ายสีนายพรชัย และพรรคภท. จึงขอให้กกต.สอบสวนให้สิ้นกระแสความ รวมทั้งสอบด้วยว่าพรรคพปชร.รู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่ และให้พรรคพปชร. ออกมาชี้แจงสังคมด้วย

มติชนออนไลน์