คนของโลก : ไมเคิล โคเฮน จากมหามิตรสู่ศัตรูทรัมป์

“ไมเคิล โคเฮน” เป็นชื่อที่น่าจะสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐมากที่สุดในเวลานี้

เมื่อบุคคลผู้ที่เคยได้ฉายาว่า “ทรัมป์ ฟิกเซอร์” หรือ “นักแก้ปัญหาให้ทรัมป์” รวมไปถึงชายผู้เคยประกาศพร้อม “กระโดดรับกระสุนแทนทรัมป์”

เวลานี้กลับออกมาแฉอดีตเจ้านายอย่างดุเดือด

โคเฮน อดีตทนายความคู่ใจที่เคยยืนเคียงข้างโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นเวลานานกว่า 12 ปีผู้นี้ กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกเมื่อเขาปรากฏตัวเข้ารับการไต่สวนต่อหน้าคณะกรรมาธิการตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งของการสืบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงเลือกตั้งสหรัฐ

ในการไต่สวนที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ โคเฮนผู้ที่ถูกตัดสินให้มีความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมด้านการเงิน ต้องรับโทษจำคุก 3 ปีไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แฉทรัมป์อย่างดุเดือด ทั้งเรื่องการจ่ายค่าปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ ไม่ให้เปิดเผยเรื่องราวสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทรัมป์ ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2016 ที่ชัดเจนว่าเป็นการละเมิดกฎหมายการหาเสียง

รวมไปถึงการเปิดเผยว่า ทรัมป์รู้ล่วงหน้าว่าเว็บไซต์ “วิกิลีกส์” จะแฉเอกสารข้อมูลทำลาย “ฮิลลารี คลินตัน” คู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นต้น

โดยโคเฮนเรียกทรัมป์อย่างดุเดือดว่า ทำตัวเป็นมาเฟีย อันธพาล เหยียดผิว โกหกปลิ้นปล้อน และเผด็จการ อย่างไรก็ตาม โคเฮนก็ให้การเช่นกันว่า ตนไม่มีหลักฐานใดๆ ที่จะระบุได้ว่าทรัมป์สมรู้ร่วมคิดกับรัสเซียเพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐหรือไม่

 

โคเฮนวัย 52 ปี เกิดและเติบโตในเมืองลอว์เรนซ์ บนเกาะลองไอซ์แลนด์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ลูกชายของศัลยแพทย์ชาวโปแลนด์ ผู้ที่รอดชีวิตจากการสังหารหมู่ชาวยิวในโปแลนด์ และแม่ที่เป็นนางพยาบาล

โคเฮนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอเมริกันยูนิเวอร์ซิตี้ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่ซึ่งเขาเริ่มต้นธุรกิจนำเข้ารถหรู ธุรกิจที่ทำให้โคเฮนกลายเป็นจุดสนใจด้วยการขับรถปอร์เช่สุดหรูไปรอบๆ มหาวิทยาลัย

หลังเรียนจบ โคเฮนตั้งบริษัทด้านกฎหมายของตนเองขึ้นมาโดยให้บริการด้านกฎหมายกับเหยื่ออุบัติเหตุทางรถยนต์ นอกจากนี้โคเฮนยังลงทุนในธุรกิจหลายด้าน เช่น ธุรกิจกาสิโนบนเรือ

รวมไปถึงคลินิกด้านการแพทย์หลายแห่ง

 

โคเฮนพบกับทรัมป์เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2006 เมื่อได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือทรัมป์ในการต่อสู้ทางกฎหมาย ระหว่างทรัมป์กับบอร์ดบริหารคอนโดฯ ที่ “ทรัมป์เวิลด์ทาวเวอร์” ตึกระฟ้าในเมืองแมนฮัตตัน

ทรัมป์จ้างโคเฮนมาทำงานในตำแหน่งเป็นรองประธานบริหาร “ทรัมป์ออร์แกไนเซชั่น” และเป็นที่ปรึกษาพิเศษของทรัมป์ ทำหน้าที่ตั้งแต่ดูแลข้อตกลงด้านอสังหาริมทรัพย์ในรัสเซีย จอร์เจีย และคาซัคสถาน โปรโมตบริษัทด้านศิลปะป้องกันตัวอย่าง “อาฟฟลิกชั่นเอนเตอร์เทนเมนต์” รวมไปถึงการจัดการกับนักข่าวที่สอดรู้สอดเห็น

“หากใครทำอะไรที่คุณทรัมป์ไม่ชอบ ผมจะทำทุกอย่างในอำนาจของผมเพื่อจัดการเรื่องดังกล่าว เพื่อผลประโยชน์ของคุณทรัมป์”

โคเฮนระบุกับเอบีซีนิวส์ เมื่อปี 2011

 

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนความจงรักภักดีก็ไม่ได้รับผลตอบแทนที่ดีนักเมื่อทรัมป์เคยพูดล้อเลียนโคเฮนในที่สาธารณะอยู่บ่อยๆ ขณะที่พันธมิตรและนักยุทธศาสตร์การเมืองของทรัมป์อย่างโรเจอร์ สโตน ระบุว่า ทรัมป์นั้นปฏิบัติกับโคเฮนราวกับเขาเป็นขยะ

มีรายงานด้วยว่า หลังทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง โคเฮนหัวเสียอย่างยิ่งที่ถูกละเลยจากตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว” ที่คาดหวังเอาไว้ จนแสดงออกถึงความไม่พอใจด้วยการเปิดทางให้ปาปารัซซี่ถ่ายภาพตนเองขณะทานอาหารกลางวันกับผู้วิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์ตัวยง

อย่างไรก็ตาม โคเฮนก็ดูจะมีความสุขกับชัยชนะของเจ้านาย ด้วยการตั้งบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ขึ้นในปี 2016 ดึงดูดการลงทุนมหาศาลจากนานาชาติ

และยังผลักดันตัวเองเป็นหนึ่งในล็อบบี้ยิสต์ และเป็นผู้คัดกรองผู้คนที่จะเข้าถึงตัวประธานาธิบดี

 

ความจงรักภักดีของโคเฮนถูกทดสอบในเดือนเมษายน 2018 เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางเข้าตรวจยึดเอกสารจากสำนักงานและบ้านพัก ส่วนหนึ่งของการสืบสวนของ “โรเบิร์ต มุลเลอร์” ในคดีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐในปี 2016

ซึ่งสุดท้ายในเดือนกันยายน โคเฮนก็รับสารภาพทุกอย่างอย่างหมดเปลือก จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้โคเฮนผู้จงรักภักดี

กลายเป็นศัตรูที่ทรัมป์เรียกว่า “คนโกหก” ในที่สุด