ไม่เอานะ “เกรงใจ”

ถือเป็นคลิปประกาศจุดยืนที่ทรงพลังมากของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”

แบบฟังชัดๆ

“ผมไม่มีวันที่จะยอมให้พรรคที่ทุจริตมานำประเทศ”

พรรคที่มีคุณสมบัตินี้ประกอบด้วย

1. บกพร่องโดยสุจริต

2. ทุจริตเชิงนโยบาย

และตบท้ายด้วยประโยคที่ใช้ในการหาเสียงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

“หมดเวลาเกรงใจแล้วครับ”

ถามว่าทำไมพรรคประชาธิปัตย์ต้องประกาศจุดยืนเช่นนี้

คำตอบอยู่ที่กระแสที่แปรเปลี่ยนของฐานเสียง “ประชาธิปัตย์”

ต้องยอมรับว่าการเผชิญหน้ากับ “ทักษิณ ชินวัตร” มานานเกือบ 20 ปี

ทำให้คนที่เลือก “ประชาธิปัตย์” ไม่ได้เลือกด้วย “ความรัก” เพียงอย่างเดียว

แต่เลือกเพราะ “ความเกลียด”

เกลียด “ทักษิณ”

กระแสปลุกปั่นที่ยาวนาน ทำให้เมื่อเกิดการเมืองแบบ 3 ก๊กในการเลือกตั้งครั้งนี้

ฐานเสียงเก่าของพรรคเริ่มหวั่นไหว

เพราะการปราศรัยหรือการดีเบตของ “อภิสิทธิ์” ทุกครั้ง เขาจะโจมตีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกติกาที่ไม่เป็นธรรมโดยตลอด

จนคนที่เคยเลือก “ประชาธิปัตย์” หลายคนไม่แน่ใจว่า “อภิสิทธิ์” จะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่

เสียงส่วนหนึ่งเริ่มเอนเอียงไป “พลังประชารัฐ”

เพราะชัดเจนว่ายืนอยู่คนละฝั่งกับ “เพื่อไทย”

เกมนี้เองที่บีบให้ “อภิสิทธิ์” ต้องประกาศจุดยืน

ไม่ยอมร่วมรัฐบาลที่ “เพื่อไทย” เป็นแกนนำ

เพื่อดึงฐานเสียงเก่ากลับคืนจาก “พลังประชารัฐ”

แต่ที่น่าสนใจก็คือ เขาไม่ได้ผูกมัดว่า ถ้า “เพื่อไทย” ยอมให้ “อภิสิทธิ์” เป็นนายกฯ

แบบนี้ “โอเค” ไหม

เมื่อมี “รายรับ” ก็ต้องมี “รายจ่าย”

“รายจ่าย” ของพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ก็คือ เขาจะถูกมองว่าพร้อมเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ

เป็นขั้วเดียวกัน

เกมการแบ่งแยกระหว่างการสนับสนุน “สืบทอดอำนาจ” กับฝ่ายประชาธิปไตยก็จะทำให้คนที่ไม่อยากให้ คสช.มีอำนาจต่อไป

เขาจะปฏิเสธพรรคประชาธิปัตย์ทันที

แบบ “ไม่เกรงใจ” เช่นกัน

นี่คือ “รายจ่าย” ที่ “อภิสิทธิ์” ต้องจ่าย