โลกหมุนเร็ว/เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง/หอศิลป์ริมน่าน มีทุกอย่างครบเครื่อง

โลกหมุนเร็ว/เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง [email protected]

หอศิลป์ริมน่าน

มีทุกอย่างครบเครื่อง

 

ไปน่านครั้งนี้แวะเยี่ยม “หอศิลป์ริมน่าน” อีกครั้งหนึ่ง หลังจากไม่ได้ไปมาเป็นสิบปี

ตื่นตาตื่นใจ สนุกกว่าที่เคยไปครั้งก่อนโน้น ต้องขอชื่นชมทั้งคุณวินัย ปราบริปู ศิลปินคนน่าน เจ้าของหอศิลป์ และอาจารย์ปราณี ภรรยา ที่ทำให้การไปเยี่ยมหอศิลป์คราวนี้สนุก สดชื่น ได้รสชาติหลากหลาย

ตัวหอใหญ่ซึ่งเป็นที่แสดงงานหลัก ครั้งก่อนโน้นไม่มีความทรงจำใดๆ จำได้แต่ห้องแสดงงานของศิลปินชั้นครูชาวน่านที่อยู่ใต้ดิน ที่ทำให้ทึ่งที่คุณวินัยได้รวบรวม รักษางานเหล่านั้นไว้เป็นอย่างดี เป็นงานที่ทรงคุณค่า

แต่ไปคราวนี้ ตัวหอใหญ่ คึกคักมีชีวิตด้วยการแสดงภาพของศิลปินหลากหลาย เต็มทั้งสองชั้น ทราบว่าส่วนใหญ่เป็นศิลปินคนน่านที่กำลังเริ่มเป็นที่จับตามอง

ตัวอาคารภายนอก ออกแบบด้วยรสนิยมพื้นถิ่น กลมกลืนกับบรรยากาศของเมืองน่านโดยรวม แต่มีประโยชน์ใช้สอยลงตัว ภายในโอ่โถง ไม่น้อยหน้าหอศิลป์ที่ใช้ทุนสูง การจัดวางเหมาะเจาะ เพลิดเพลินเมื่อได้เดินชม

เมื่อเดินเข้าไปจะเห็นภาพเขียนฝีมือลูกศิษย์อาจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นรูปหน้าอาจารย์ในโพสต์ที่เห็นกันเจนตา ประดับโดดเด่นบนผนังในระดับสูง เมื่ออาจารย์ปราณีชี้ชวนว่า ลองเดินไปตามมุมต่างๆ สิคะ จะเห็นว่าสายตาของท่านมองตามคุณไป

ลองแล้วจริง

 

ที่ทางเข้าเช่นกัน บนผนังอีกด้านเป็นภาพขนาดใหญ่ยักษ์ของคุณหมอบุญยงค์ วงศ์รักมิตร อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่านในยุคความคิดต่างทางการเมือง ท่านเป็นปูชนียบุคคลของชาวน่านเพราะดูแลผู้บาดเจ็บจากการสู้รบ เป็นบุคคลที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ไว้วางพระราชหฤทัย และได้ทรงมอบเงินให้คุณหมอเปล่าๆ 2 แสนบาทโดยไม่ต้องมีใบเสร็จตามที่อาจารย์ปราณีเล่า

เดินต่อไปยังห้องจัดแสดง ชิ้นงานจัดเรียงตามศิลปิน ล้วนน่าทึ่งน่าชมด้วยฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ชื่อของศิลปินไม่คุ้นหู แต่น่าที่จะจดจำไว้นับแต่นี้ไป เพราะวันหนึ่งหลายท่านจะมีชื่อเสียง

ชุดทิวทัศน์น่านที่ใช้เทคนิคอิมเพรสชั่นนิสต์ สะดุดตาผู้เขียนเป็นพิเศษ เป็นภาพที่สดใสมีชีวิตชีวา เตือนให้นึกถึงธรรมชาติของน่านในหลายจุดที่เคยเห็นจากของจริงและจากภาพ มีความหมายที่เป็นส่วนตัวสำหรับผู้เขียน

ชุดรามเกียรติ์ที่ศิลปินนำเสนอเรื่องทศกัณฐ์และพระรามกับนางสีดาก็ชวนให้ต้องหยุดดู หากใครได้ภาพเขียนนี้ไปไว้ดูเองที่บ้าน ก็คงจะได้ดูด้วยความฉงนฉงายซ้ำแล้วซ้ำอีก

 

ที่ชั้นสอง มีภาพชุดสีน้ำมันที่เล่นกับโทนสีต่างๆ ให้ความรู้สึก ร้อน เย็น สนุก ถึงจะไม่มีเรื่องราวอยู่ในภาพ ศิลปินหลายคนในปัจจุบันเล่นสีกันแบบนี้ เป็นความงามจากการใช้สีล้วนๆ

ต้องขอขอบคุณอาจารย์ปราณีไว้ตรงนี้เลยสำหรับการนำชมที่ทำให้การเข้าชมงานมีความสนุกสนานได้อรรถรสมากขึ้นมากมายกว่าการเดินชมเอง ในบางโอกาสได้ยินว่าคุณวินัยได้เป็นผู้นำชมเองด้วย ทำให้เหมือนกับการเชื้อเชิญแขกเข้าบ้าน อบอุ่นและมีความหมายมาก

อาจารย์ปราณี มัคคุเทศก์ผู้น่ารัก ชี้ชวนให้เราถ่ายภาพกันโดยใช้ภาพลีลาสีพวกนี้เป็นฉากหลัง

ทีนี้ก็เหมือนการปลดปล่อยได้เล่นสนุกของบรรดาผู้หลงเงาตัวเองทั้งหลาย ผลัดกันยืน ผลัดกันถ่าย เปลี่ยนฉากหลังสีต่างๆ ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานไม่ยอมเลิก เรียกว่าอาจารย์ปราณีแนะนำได้ถูกจุดจริงๆ

เหมือนได้ทำกิจกรรมอินเตอร์แอ๊กทีฟ ไม่ใช่เดินดูภาพเฉยๆ แบบ passive อาจารย์ปราณีก็อมยิ้มดูพวกเราเล่นกัน

 

ถ่ายรูปกันจนได้เวลาเกือบเที่ยง ก็เดินไปยังร้านกาแฟด้านหลัง นึกในใจมันต้องอย่างนี้ถึงจะครบเครื่อง ตอนที่ไปบ้านถวัลย์ ดัชนี ไม่มีร้านกาแฟนะคะ ไม่ทราบว่าบัดนี้มีแล้วหรือยัง ไปดูการแสดงภาพเขียนของอาจารย์จักรพันธุ์ก็อยากให้มีร้านกาแฟเหมือนกันนะคะ เพราะชมภาพเขียนเสร็จเราก็อยากนั่งพักคุยกัน นึกถึงเวลาเราไปมิวเซียมหรือหอศิลป์ต่างประเทศก็มีร้านกาแฟทุกแห่ง

ที่หอศิลป์ริมน่าน มีร้านกาแฟที่นั่งเล่นได้ในร่มและกลางแจ้ง มีร้านขายผ้าและของที่ระลึก มีขนมพื้นเมืองน่านยอดอร่อยให้หิ้วติดมือไปฝากที่บ้าน เราได้นั่งคุยกับอาจารย์ปราณี ได้ดูต้นงิ้วและเห็นดอกงิ้วถนัดๆ

กาแฟอร่อยและไม่แพงด้วยค่ะ ชีวิตคนชั้นกลางขาดกาแฟไม่ได้อยู่แล้ว

ที่ชอบเป็นส่วนตัวคือการที่มีทั้งบริเวณในอาคาร และนอกอาคารให้ได้ใช้เวลานั่งเล่น

หอศิลป์ริมน่านจึงกลายเป็นที่นัดพบ ที่เชิดหน้าชูตาของน่านอย่างสมบูรณ์แบบ ที่เมื่อผ่านไป ไม่แวะไม่ได้

และที่สำคัญคือเป็นที่บ่มฟักศิลปินชาวน่านให้มีที่แสดงความสามารถให้ประจักษ์

ผู้เขียนมองเห็นหอศิลป์ริมน่านเป็นที่เริ่มต้นของการที่พ่อแม่จะปลูกฝังเด็กๆ ให้มีรสนิยมศิลปะ แม้ที่นี่จะไม่ได้จัดกิจกรรมเฉพาะไว้ให้เด็ก แต่การได้ดู ได้สนุกกับการถ่ายรูป ก็จะทำให้สนุก ความสนุกจะทำให้เขาซึมซับศิลปะได้ง่าย

หอศิลป์ริมน่านเก็บค่าเข้าชมนิดหน่อย กับความพร้อมสมบูรณ์ที่มีให้ต้องยกนิ้วให้กับความสามารถและความมีใจของผู้บริหารหอศิลป์ทั้งสองท่านเลยละค่ะ