# สตรอง & ซอฟต์ พร้อมจะ”เป๊ะ”ไปเลือกตั้ง โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

—————-

# สตรอง & ซอฟต์

——————

เหลือ1เดือนจะถึง 24 มีนาคม แล้ว

แต่ไปวงไหน คำถามฮิตที่ต้องเจอคือ

จะมีเลือกตั้งไหม

พร้อมข้อสันนิษฐานต่างๆนานา

หาข้อสรุปไม่ได้

สะท้อนให้เห็นภาวะความไม่เชื่อมั่นต่อการเมืองไทยเป็นอย่างดี

ซึ่ง ไม่ดีเลย

เพราะเป็นคำถามที่หมุนย้อนกลับ ไม่ไปข้างหน้า

ดังนั้น เจอคำถามแบบนี้ พยายามชี้ชวนให้มองแบบโลกสวยไว้

ถึงคนมีแนวโน้มจะไม่เชื่อ

แต่ก็ป่วยการณ์ที่จะจมอยู่กับกระแส “ถอยกลับ”อย่างที่ว่า

คำถามจะมีการเลือกตั้งหรือไม่นั้น

แน่นอนส่วนหนึ่งมาจากท่าทีของคนในกองทัพ

ที่อาจจะเป็นบุคลิกของผู้นำ มีอะไรก็เปรี้ยงปร้างออกไป เลยทำให้บรรยากาศ”เครียด”

ว่าที่จริง สำหรับ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ การที่ต้องสวมหมวกอีก ใบ คือ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เป็นไปตามคำสั่งคนถือรัฏฐาธิปัตย์ ที่มัดไว้

จะเอาทหารกลับเข้ากรมกองก็ทำไม่ได้

ภาวะนี้จึงทำให้เราแยกไม่ออกว่านี่คือการพูดหรือทำในฐานะอะไร

เช่นในฐานะ ผู้บัญชาการทหารบก หรือ เลขาธิการคสช.

นี่คือสิ่งที่จะต้องสลายไปหลังมีรัฐบาลใหม่ และหวังว่านี่จะเป็นบทเรียนที่จะไม่หวลกลับไปอีก

ทหารต้องอยู่ในกรมกอง ดึงตนเองและองค์กรให้เป็น ทหารอาชีพ ให้ได้

ว่าที่จริง ประเด็นปฏิรูปกองทัพที่จุดพลุขึ้นมาโดยพรรคการเมือง อันนำไปสู่กรณี “หนักแผ่นดิน” นั้น

หากย้อนไปในอดีต ต้องถือว่า “แรง”

และอาจมีการโชว์พลัง ที่ “ทหาร”ชอบใช้มาก

คือ “การตบเท้า” ให้กำลังใจผู้บังคับบัญชา แสดงความเป็นหนึ่งเดียว

คนที่ชำนาญ”การตบเท้า”นั้นเป็นใคร ลองถามผู้บัญชาการทหารบกคนปัจจุบันดู

พอมาถึง ตอนที่มาเป็น ผู้นำกองทัพ

ก็น่ายินดี ที่เรา(ยัง)ไม่ได้เห็นใครนำ ตบเท้า

ซึ่งถ้า หวลคืนมา รับรองสถานการณ์ ตึงเครียดกว่านี้หลายเท่า

แต่ก็ไม่ใช่ถึงขั้นไม่มีเลย แต่ทำให้นิ่มนวลลง

ด้วยการแปรเป็นการตบเท้าวิ่งเพื่อวัดสมรรถภาพ

โชว์ ความ “เป๊ะ”

ตามนโยบาย “Smart Soldiers Strong Army”

เราเห็นเหล่านายพลที่อายุเฉียดเกษียณ ยังฟิตเปรี๊ยะ โชว์สมรรถภาพร่าสงบกายผ่านการทดสอบ สมกับเป็นรั้วของชาติ

ผู้สื่อข่าวถามไปถามผู้บัญชาการทหารบกว่า ว่าเหนื่อยมั้ย

คำตอบที่ได้กลับมา คือ”เหนื่อยอะไรดูสิ ทหารรักกันจะตาย” พร้อมชี้ไปที่ผู้มาร่วมทดสอบร่างกายก่อนกล่าวอีกว่า “ให้กำลังใจ ทหารรักกันขนาดนี้ …สตรองอาร์มมี่”

เจอซักไซร้อีกว่า ช่วงนี้กองทัพถูกโจมตีเยอะจะชี้แจงอย่างไร ผู้บัญชาการทหารบกกล่าวว่า “นี่ไง สตรอง”

ท่าทีที่แสดงออก “รักและสตรอง”เช่นนี้

แน่นอน ย่อมมี”นัย”อะไรอยู่หลังการ”เป๊ะ”บ้าง

แต่ก็ ไม่ได้ทำให้ตึงเครียด แถมอุ่นใจที่ถึงจะสตรอง ก็สตรองในกรมกอง

ยิ่งกว่านั้น ระหว่างการทดสอบสมรรถภาพ แม้จะมีการเปิดเพลง “หนักแผ่นดิน”คลอ ร่วมกับเพลงมาร์ชกองทัพบก

แต่ ก็เป็น “หนักแผ่นดิน”เวอร์ชันอะคูสติก

ฟังนุ่มนวล

มิได้ “ปลุกใจ”เปรี้ยงปร้างอย่างเวอร์ชั่นต้นฉบับ

แสดงว่า การแสดงออก “ตบเท้าวิ่ง”และ”หนักแผ่นดินเวอน์ชั่นอะคูสติค” ผ่าน “การไตร่ตรอง”

มิได้ขับดันออกมาจากอารมณ์

ตีความแบบบวกๆ คือ คนในกองทัพทำอะไรออกไปแล้วมีปฏิกิรยาตอบโต้ในเชิงลบ ก็พร้อมฟัง และพร้อมจะเปลี่ยนแปลง

แต่จะให้ถอยกรูดๆ ก็ไม่ใช่ชายชาติทหาร

ต้องมีท่วงท่า และทำให้ฝ่ายที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับกองทัพ โดยเฉพาะการเสนอปฏิรูปทหาร คงต้องแลกเปลี่ยนกันอย่างกว้างขวาง สร้างสรรค์

ไม่ได้เป็นไปเพราะอยู่กันคนละฝ่าย

นี่เป็นความพยายาม มองโลกในแง่สวย

และเชื่อว่าโดยพื้นฐานนี้ ทหารพร้อมจะ”เป๊ะ”ไปเลือกตั้ง