เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่อาคารบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร (กทม.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานจดทะเบียนสมรสนอกสถานที่ เนื่องในวันแห่งความรัก หรือ วันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2562 โดยสำนักงานเขตบางรัก ร่วมกับสภาวัฒนธรรมเขตบางรัก บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจัดขึ้น ภายใต้ชื่องาน “ลิขิตรัก ณ บางรัก Sign of love” พบคู่รักที่มีความประสงค์จดทะเบียนสมรสเดินทางมาร่วมงานจำนวนมากตั้งแต่เวลา 04.00 น.ที่ผ่านมา

คู่รักต่างชาติ—น.ส.วรัชยา ฟิลลิปส์ อายุ 42 ปี และนายสตีเฟ่น จอห์น ฟิลลิปส์ ชาวอังกฤษ เดินทางมากจากพัทยา โดย น.ส.วรัชยา กล่าวว่า ได้เดินทางมากทม.ตั้งแต่ช่วงค่ำของเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ก่อนเข้าพักยังโรงแรมใกล้เคียงกับบริเวณจัดงาน คู่ของตนมีความตั้งใจที่จะจดทะเบียนสมรสที่เขตบางรัก เนื่องจากมีชื่อเป็นสิริมงคลและในทุกปีมีคู่รักเดินทางมาจดทะเบียนจำนวนมาก จึงเชิญสามีมาจดทะเบียนสมรสที่นี่ สำหรับคู่ของตนคบหาดูใจกันมาเป็นระยะเวลา 2 ปี

“แม้เป็นเวลาไม่นานมาก แต่หลังจากที่อยู่ด้วยกันแล้ว เราต่างมั่นใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป ที่ผ่านมาคู่ของเราได้เรียนรู้และผ่านเรื่องราวต่างๆ มาด้วยกัน สามารถรับนิสัย ข้อเสียของกันและกันได้ โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องภาษาที่แตกต่างกัน ส่วนข้อคิดสำหรับชีวิตคู่อื่นนั้น ไม่อยากให้มองความรักเป็นเรื่องฉาบฉวย รักแล้วเลิกรา อยากให้มองความรักเป็นสิ่งที่ดี และเมื่อเลือกที่จะคบหาดูใจ หรือตกลงปลงใจกับใครสักคนแล้ว ขอให้เข้มแข็งในความรักและก้าวผ่านอุปสรรคไปด้วยกัน เชื่อว่าจะทำให้ชีวิตคู่ยืนยาว” น.ส.วรัชยา กล่าว

คู่รักมาราธอน— น.ส.พรรณเลขา เดชพงศ์ อายุ 29 ปี และนายสามารถ อัคษร อายุ 30 ปี เดินทางมาจากย่านบางขุนเทียน กทม. โดย น.ส.พรรณเลขา กล่าวว่า คู่ของตนคบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยจนถึงขณะนี้คบหากันมา 10 ปีแล้ว ตัดสินใจเดินทางมาจดทะเบียนสมรสยังเขตบางรัก เพราะชื่อเป็นสิริมงคลและอยากร่วมลุ้นทะเบียนสมรสทองคำ โดยคู่ของเราได้ร่วมพูดคุยกันมาระยะหนึ่งแล้ว ตอนนี้ชีวิตคู่ของเราลงตัว ก่อนตัดสินใจจดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากนี้มีแผนที่จะแต่งงานในช่วงปลายปี พร้อมวางแผนจะมีลูกที่น่ารักด้วยกันด้วย

น.ส.พรรณเลขา กล่าวอีกว่า คู่ของตนไม่ค่อยเชื่อว่าการอยู่ก่อนแต่งงานนั้นเป็นสิ่งที่ผิด เพราะมองว่าเป็นการทดลองใช้ชีวิตด้วยกัน สามารถยอมรับในตัวตนของกันและกันได้ ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่าอนาคตจะอยู่กันได้หรือไม่ ส่วนเรื่องการจัดงานแต่งงานนั้นมองว่าไม่สำคัญ แต่เราจำเป็นต้องทำให้ความรักนั้นเป็นสิ่งถูกต้อง หรือจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย ท้ายสุด อยากฝากถึงคู่รักอื่นว่าความรัก คือ ความเข้าใจระหว่างคนสองคน อย่ารักฉาบฉวย ไม่เห็นแก่ตัว การให้เกียรติซึ่งกันและกัน เมื่อเกิดปัญหาขอให้หันหน้าคุยกันด้วยเหตุผล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กิจกรรมในช่วงเช้า สำนักงานเขตบางรักได้จำลองพิธีการแห่ขบวนขันหมาก และพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์(รดน้ำสังข์) เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีการแต่งงานของไทยอีกด้วย โดยพบบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและมีคู่รักทยอยเดินทางมาร่วมงานต่อเนื่อง.

มติชนออนไลน์