“สนธิรัตน์” ชี้ผลกระทบ ศก.ไทย / คาดดัชนีหุ้นพุ่งพรวด 2 พันจุด / เตรียมผุดนิคมฯ เวียดนาม

แฟ้มข่าว

“อมตะ” รุกผุดนิคมฯ เวียดนาม

นางสมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้วางศิลาฤกษ์เพื่อเริ่มพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลอง เพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับนักลงทุนไปยังตอนเหนือของเวียดนามในจังหวัดกว่างนิงห์ ภายหลังจากได้รับใบอนุญาตการลงทุนจากรัฐบาลเวียดนามรวมพื้นที่ทั้งหมด 714 เฮกตาร์ หรือประมาณ 4,500 ไร่ เมื่อช่วงต้นปี 2561 ที่ผ่านมา โดยจะแบ่งการพัฒนาออกเป็น 5 เฟส เฟสแรกเริ่มพัฒนาพื้นที่ 123 เฮกตาร์ หรือประมาณ 770 ไร่ ทั้งนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณสำหรับการพัฒนาทั้งหมดกว่า 5,115 ล้านบาท รองรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ สิ่งทอ ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และอุตสาหกรรมทั่วไป และเริ่มเปิดรับนักลงทุนได้ในปี 2563 ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทพัฒนานิคมอุตสาหกรรมของอมตะในประเทศเวียดนาม 2 แห่ง คือ อมตะชิตี้เบียนหัว จังหวัดดองไน บนพื้นที่ 4,375 ไร่ และโครงการที่ 2 บนพื้นที่ 8,000 ไร่

คาดดัชนีหุ้นพุ่งพรวด 2 พันจุด

นายพรเทพ ชูพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยไตรมาส 1/2562 ช่วง 1-2 เดือนในไตรมาสแรกยังไม่ใช่ช่วงที่ดีในการขายหุ้น อาจตัดโอกาสตัวเองในตลาดได้ เพราะคาดดัชนีหุ้นจะเพิ่มขึ้น และช่วงครึ่งปีแรกเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,700-1,850 จุด และตั้งเป้าหมายค่าเฉลี่ยดัชนีหุ้นทั้งปีอยู่ที่ 2,000 จุด ทั้งนี้ ปัจจัยบวกในไตรมาสแรก คือวัฏจักรการลงทุนขาขึ้น เห็นได้จากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น คาดว่าปีนี้ดอกเบี้ยไทยขยับขึ้นอีก 1-3 ครั้ง คาดว่าเศรษฐกิจเติบโต 3.5-4% และกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จะขยายตัวได้ 12% การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว ความขัดแย้งสงครามทางการค้าสหรัฐกับจีนทิศทางบวกมากขึ้น แต่หากปัจจัยบวกไม่เป็นไปอย่างที่คาดไว้ ดัชนีอาจลดลงไปต่ำสุดที่ 1,650 จุด

แสนสิริลุ้นเกณฑ์ ธปท.เร่งซื้อ

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ต้นปี 2562 คาดว่าจะมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตจากการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่หลังจากได้รับเงินพิเศษหรือโบนัสในช่วงปลายปีที่ผ่านมา รวมทั้งมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (แอลทีวี) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเริ่มบังคับใช้วันที่ 1 เมษายน 2562 ซึ่งจะเร่งการตัดสินใจของลูกค้า บริษัทจึงจัดแคมเปญโปรหมดเปลือก เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้ผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใหม่ คาดว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั่วประเทศ และตั้งเป้าหมายยอดขายแคมเปญ 2,000 ล้านบาท โดยจัดวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ ซึ่งแคมเปญนี้ได้นำโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และทาวน์เฮาส์พร้อมอยู่ กว่า 30 โครงการทั่วประเทศมอบส่วนลดพิเศษและแจกรางวัล ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน ฟรีค่าส่วนกลาง และข้อเสนออยู่ฟรี 2 ปีสำหรับคอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่ เป็นต้น

หนุนเรือประมงออกนอกระบบ

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้ความเห็นชอบการประเมินราคาตามสภาพเรือประมง กำหนดเกณฑ์การประเมินราคาเรือตามสภาพความเป็นจริงของเรือที่ประสงค์นำออกนอกระบบ ตามที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองการนำเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนเสนอ ซึ่งมีนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน เบื้องต้นคาดว่าจะใช้วงเงินประมาณ 600 ล้านบาท ในการจ่ายชดเชยการนำเรือประมงออกนอกระบบ จำนวน 570 ลำ ที่แจ้งความประสงค์ไว้กับกรมประมงไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นเรือประมงที่ไม่สามารถออกทำประมง ตั้งแต่เริ่มมีการแก้ไขปัญหาไอยูยูตั้งแต่ปี 2558 เพราะไม่มีใบอนุญาตประมง ทั้งนี้ การดำเนินการหลังจากคณะทำงานประเมินราคาตามสภาพเรือประมง จัดทำสรุปผลการประเมินราคาเรือเป็นรายลำ และรวบรวมสรุปจำนวนเรือและราคาประเมินทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว จะเสนอต่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน คาดว่าจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 22 มกราคมนี้ และจ่ายเงินชดเชยให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

แบงก์กรุงไทยประเมินจีดีพีโต

นางรุ่ง มัลลิกะมาส รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารประมาณการว่าอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2562 คาดว่าจะขยายตัว 4.1% ขณะที่ปี 2561 คาดขยายตัวที่ 4.3% โดยจีดีพีปีนี้ได้ประเมินผลกระทบจากสงครามการค้าแล้ว ซึ่งการส่งออกไทยคาดขยายตัว 4-5% เพราะอาจจะมีสินค้าบางรายการที่อยู่ในซัพพลายเชนของจีนได้รับผลกระทบ โดยบางรายการสินค้าอาจจะมีการซื้อไทยแทน ทั้งนี้ อาจจะมีผลบวกจากการย้ายฐานการลงทุนเข้ามาได้ด้วย ด้านการท่องเที่ยวคาดว่ายังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป และนักท่องเที่ยวชาติอื่นและจีนน่าจะยังเดินทางเข้ามา แต่ต้องจับตากำลังซื้อของจีน เพราะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอลงและค่าเงินหยวนอ่อนลง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท ทำให้อำนาจซื้อของคนจีนลดลง และยังต้องจับตาภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นตลาดจีนด้วย ทั้งนี้ เศรษฐกิจฐานของไทยยังไม่ฟื้นตัวเพราะราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ซึ่งการใช้จ่ายด้านสวัสดิการและการเบิกจ่ายงบฯ ลงทุนภาครัฐยังมีความจำเป็นไม่ให้เศรษฐกิจสะดุดและผลักดันการบริโภคให้ขยายตัว

“สนธิรัตน์” ชี้ผลกระทบ ศก.ไทย

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในงานสัมมนา “Krungthai Next-Thailand Economic Challanges 2019” ว่า ขณะนี้เศรษฐกิจโลกปั่นป่วน ผลจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงขาลง และยังมีปัจจัยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเข้ามากระทบ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยในประเทศเข้ามากระทบเศรษฐกิจ คือ การเลือกตั้งซึ่งช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์ค่อนข้างนิ่งแต่กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทิศทางเศรษฐกิจไทยจึงหนีไม่พ้นที่จะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะการส่งออกซึ่งเป็นเครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจไทย สำหรับเป้าหมายการส่งออกในปี 2562 ตั้งเป้าหมายเติบโต 8% เป็นการตั้งเป้าหมายที่ต้องทำงานหนักมาก ส่วนปี 2561 ตั้งเป้าหมายการส่งออกที่ 8% โดยต้องลุ้นตัวเลขการส่งออกในเดือนธันวาคมที่จะออกมา เพราะช่วงครึ่งปีแรก 2561 ขยายตัวดีมาก แต่ช่วงครึ่งปีหลังปัจจัยกระทบมาก

ประเมินเบื้องต้นว่าทั้งปีถ้าขยายตัวไม่ได้ถึง 8% ก็อาจจะยังขยายตัวที่ 7% กว่า