“กุลธิดา” ชี้ ต้องมี “เงินอุดหนุนเยาวชน” เพิ่มอิสระเลือกเรียนรู้เพื่อตอบโจทย์ชีวิตตัวเอง

วันที่ 15 มกราคม 2562 ที่เฟชบุ๊กเพจพรรคอนาคตใหม่ – Future Forward Party ‘ครูจุ๊ย’ กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงนโยบายรัฐสวัสดิการสำหรับวัยรุ่น ที่พรรคเสนอการให้เงินอุดหนุนเยาวชนอายุ 18-22 ปี เดือนละ 2,000 บาท ซึ่งมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่าจะเป็นการแจกเงินสูญเปล่าว่า หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าทุกวันนี้ กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. มีค่าครองชีพอยู่แล้วเดือนละประมาณ 2,200 บาท แต่ปลายทางเยาวชนผู้กู้จะเป็นหนี้รวมทั้งหมดตกคนละราวๆ 2 แสนบาท เงินเดือนเยาวชนส่วนนี้จะทำให้การกู้ผ่อนคลายลงเพราะไม่ต้องกู้ค่าครองชีพ ถ้าหากจะต้องกู้ กยศ. ก็ลดหนี้ไปแล้วหนึ่งแสน เป็นอย่างต่ำ เงินจำนวนนี้จะมอบให้กับเยาวชนทุกคนอย่างเท่าเทียม โดยมีเงื่อนไขอย่างเดียวคือต้องเป็นเยาวชนที่เข้าสู่ระบบเรียนรู้ และไม่จำเป็นต้องเป็นมหาวิทยาลัยเท่านั้น จะเป็นสายอาชีวะก็ได้ หรือจะเรียนทำอาหาร ตัดผม ออกแบบเสื้อผ้า ตามแต่ความสนใจของตนเอง แม้แต่หลักสูตรเสริมทักษะด้านใดด้านหนึ่งที่เขาคิดว่าเป็นประโยชน์กับตัวเขา

“นอกจากนั้น พรรคอนาคตใหม่มีนโยบายส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเองทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ให้กระจายทั่วทุกท้องถิ่นและทุกคนจับต้องเข้าถึงได้ เพื่อการเรียนรู้หลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่าง ออสเตรเลีย ซึ่งให้เงินสนับสนุนเยาวชนตามเกณฑ์ที่เชื่อมโยงกับการเรียนหรือการฝึกงาน โดยเงินที่ให้เน้นเพื่อการช่วยเหลือค่าครองชีพและการหาความรู้เพิ่มเติมให้กับตนเอง การมีเงินอุดหนุนเป็นของตัวเองจะทำให้เยาวชนมีอิสระในการเลือกเรียนสิ่งที่ตอบโจทย์กับชีวิตเขามากขึ้น และยังไม่ต้องถูกลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ด้วยการที่ต้องมาถ่ายรูปบ้านในมุมที่ดูจนที่สุดเพื่อเอาไปประกอบเป็นหลักฐานความจนในการขอกู้” น.ส.กุลธิดา กล่าว

น.ส.กุลธิดา กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่มองว่า รัฐสวัสดิการด้านการศึกษาเป็นสิทธิ์ ไม่ใช่การลงทุน ทุกๆ คนควรมีสิทธิ์เข้าถึงการเรียนในระดับสูง ซึ่งในระยะยาวหากเราได้เข้าไปทำงานบริหารประเทศ เราจะกำหนดค่าเทอมและเพดานการแสวงหากำไรของสถานศึกษาด้วย เราไม่อยากให้ภาพจำเชิงลบถูกเอามาใช้ตัดสินคนกลุ่มใหญ่ที่ยังขาดโอกาสในการพัฒนาตนเองอยู่ เราเชื่อว่ามีเยาวชนจำนวนมากที่มีความสามารถ แต่ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตัวเขา ถามว่าทำไมต้องให้เงินอุดหนุนเยาวชนทุกคน ทำไมไม่เน้นที่เยาวชนที่มาจากครอบครัวยากจน นั่นเพราะเด็กและเยาวชนทุกคนเป็นลูกหลานไทย เป็นทรัพยากรที่มีค่าของชาติ เราต้องดูแลให้ดี เพราะวันหนึ่งข้างหน้าพวกเขานี่แหละ จะต้องดูแลสังคมไทยต่อไป