เครื่องเคียงข้างจอ/วัชระ แวววุฒินันท์/โหน่ง-วงศ์ทนง กับ The Standard

วัชระ แวววุฒินันท์

เครื่องเคียงข้างจอ/วัชระ แวววุฒินันท์

โหน่ง-วงศ์ทนง กับ The Standard

ใครที่เป็นแฟนประจำของรายการ “เจาะใจ” คงจะคิดถึง โหน่ง-วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ นะครับ เพราะเขาได้ห่างหายจากการเป็นคอลัมนิสต์ของเจาะใจไปปีกว่า

โหน่งเข้ามาบอกกับรายการว่าเขาขอเวลาไปเริ่มต้นกับงานใหม่สักระยะ แล้วถ้าพร้อมเมื่อไรจะกลับมาเยือนเวทีเจาะใจอีกครั้ง

งานใหม่ที่โหน่งพูดถึงคือ การก่อตั้งสำนักข่าวออนไลน์ที่ชื่อว่า “The Standard”

เมื่อเขาและทีมงานบางส่วนเดินออกมาจากชายคาของนิตยสาร a day ที่จะว่าไปแล้วก็แทบจะเป็นโลโก้หรือนามสกุลของโหน่งในช่วงระยะเวลากว่า 10 ปีเลย เวลามีใครพูดถึงเขาก็มักจะต่อท้ายว่า โหน่ง a day

เขาเปลี่ยนมือจากการทำสิ่งพิมพ์มาทำออนไลน์ เป็นจังหวะที่ลงตัวกับพฤติกรรมการเสพข้อมูลข่าวสารของคนยุคปัจจุบันพอดิบพอดี

หลังจากวันนั้นผมก็ได้เจอะเจอกับโหน่งประปราย

และวันหนึ่งผมก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมงาน ในโอกาส The Standard เดินทางมาถึง 1 ปีกับอีก 6 เดือน

 

รวดเร็วดีเหมือนกันนะครับ แป๊บเดียวเอง งานใหม่ที่โหน่งว่าวันนั้น ได้กลายเป็นงานที่ประสบผลสำเร็จไม่น้อยเลย ด้วยผลงานที่เป็นสถิติที่ยืนยันได้ อาทิ

เป็นสำนักข่าวออนไลน์มียอด website views ถึง 40 ล้าน views

ยอด users มีถึง 20 ล้าน users ซึ่งเมื่อเทียบกับประชากรเมืองไทยที่มีร่วม 70 ล้าน ก็นับว่าเป็นตัวเลขไม่น้อยเลย

ขณะเดียวกันก็มียอด followers อยู่ 1 ล้าน แหม…อย่างนี้กวักมือให้ไปร่วมชุมนุมย่อยๆ ได้เลยนะเนี่ย

มีคนที่ engage กับ The Standard ถึง 15 ล้าน engagement ต่อเดือน

ไอ้สถิติที่แจกแจงให้ดูข้างต้น เชื่อว่าผู้อ่านที่เป็นแฟนมติชนสุดสัปดาห์ที่สูงวัยหน่อย อาจจะงงงวยว่า อะไรของมันกัน (วะ)

ไม่เป็นไรครับ หากไม่รู้ว่าจะกี่ followers กี่ viewers แล้วมันเป็นยังไง เอาเป็นว่า สรุปว่า The Standard นั้นเขา “เจ๋ง” ก็แล้วกันนะครับ ง่ายดี

 

เคน-นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ บรรณาธิการหนุ่มหล่อของ The Standard กล่าวบนเวทีในงานว่า ไม่นึกว่า The Standard จะเดินมาไกลได้ขนาดนี้ จากจุดเริ่มต้นวันที่ 5 มิถุนายน 2560 ด้วยทีมงาน 80 ชีวิต ในวันนี้ The Standard สามารถทำยอดรายได้ถึง 100 ล้านแล้ว

แต่ตัวเงินคงไม่ใช่สิ่งที่ทีมงานภาคภูมิใจที่สุด หากเป็นความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อสำนักข่าวออนไลน์แห่งนี้ พิสูจน์ได้จากการจัดอันดับที่ The Standard อยู่ในแรงกิ้งที่ 1 ของหมวดเว็บไซต์ข่าวทั่วประเทศที่ไม่ได้มีฐานเป็นหนังสือพิมพ์แบบไทยรัฐ มติชน เดลินิวส์

ถ้าเป็นทีมฟุตบอลก็ต้องเปรียบเป็นทีมเรือใบสีฟ้า-แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยืนอยู่หัวตารางแบบหล่อๆ เท่ๆ

สิ่งที่ทำให้มาอยู่ตรงจุดนี้ได้ เพราะ The Standard ไม่ได้เป็นเฉพาะเว็บไซต์ข่าวปกติที่มุ่งขายข่าวอย่างเดียว แต่ขายความเป็น creative และ trust นั่นทำให้ The Standard แตกต่างและได้รับการยอมรับ โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่

งานของ The Standard เสนอผ่านพื้นที่ 3 แพลตฟอร์มด้วยกันคือ หนังสือพิมพ์ แต่เป็นหนังสือพิมพ์ออนไลน์, ทีวี แต่เป็นทีวีออนไลน์อีกนั่นแหละ และก็วิทยุ ในรูปแบบของ podcast ทำให้การเข้าถึงและการรับรู้ข่าวสารมีหลายช่องทาง ตามความเหมาะสมของเนื้อหาและผู้เสพ

เป็นที่รู้กันว่าสื่อมีพลังในการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับคนและสังคมได้มาก

1 ปีกับ 6 เดือนที่ผ่านมา ทีมงานของ The Standard ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงทางความคิด มุมมอง และชีวิตผ่านเรื่องราวของข่าว และบุคคลที่แวะเวียนเข้ามาถ่ายทอดความคิดและประสบการณ์ในหลายๆ คอลัมน์

ว่ากันว่าผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งชื่อดังที่กำลังจะโดดลงสนามเลือกตั้งของประเทศไม่กี่เดือนนี้ ผ่านการพูดคุยของ The Standard มาแล้วทั้งสิ้น

อย่างนักการเมืองรุ่นใหม่ไฟแรงที่ชื่อธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็มาเปิดตัวกับ The Standard เป็นที่แรก

บ.ก.เคนได้พูดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงนี้ไว้ว่า ตอนยังเรียนมหาวิทยาลัยเขาเคยได้อ่านเจอคำพูดที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่ประทับใจเขามากประโยคหนึ่ง เป็นคำพูดของมหาบุรุษ “มหาตมะ คานธี” ประโยคนั้นกล่าวว่า

Be The Change That You Wish To See In The World

“จงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่คุณอยากเห็นบนโลกนี้”

เคนบอกว่า เขานึกไม่ถึงว่าชั่วเวลาปีครึ่ง เขาและทีมงานจะได้เป็นคนสร้างการเปลี่ยนแปลงนั้น เป็นการเปลี่ยนแปลงตามที่เขาอยากเห็น นี่ไงที่เขาบอกว่ามันมาไกลกว่าที่เขาคิด

 

ย้อนกลับไปพูดถึงหนึ่งในผู้ก่อตั้งคือโหน่ง วงศ์ทนง อีกครั้ง

โหน่งเคยเล่าถึงความทรงจำในอดีตที่ส่งผลให้เขามีโอกาสสร้าง “ปรากฏการณ์ทางความคิด” ขึ้นมาให้กับสังคมไทย

“ผมเป็นแฟนหนังสือไปยาลใหญ่ของพี่นะรู้ไหม”

โหน่งเคยบอกผมอย่างนั้น และ “ไปยาลใหญ่” ที่ว่าก็คือนิตยสารเด็กแนวในสมัยเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ตอนนั้นเป็นความชอบส่วนตัวในโลกน้ำหมึกของผม จิก ประภาส และจุ้ย-ศุ บุญเลี้ยง จึงลงขันจับมือกันทำหนังสือ “ไปยาลใหญ่” ขึ้นมา

เนื้อหาในหนังสือไปยาลใหญ่ ก็เป็นการขายความคิดแปลกๆ แผลงๆ คิดนอกกรอบในมุมขำขัน อำเล่น ปนหยิกแกมหยอก ที่ไปโดนใจคนอ่านรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นซึ่งรวมถึงวัยรุ่นที่ชื่อโหน่ง-วงศ์ทนง ด้วย

และนั่นเป็นแรงบันดาลใจให้เขาลุกขึ้นมาทำนิตยสาร a day ในเวลาต่อมา และเขาก็ได้กลายเป็นเจ้าพ่อเด็กแนวของคนรุ่นต่อมา เหมือนคุณยายวรนาฏในทายาทอสูรคายตะขาบใส่ปากคนเพื่อสืบทอดยังไงไม่รู้

ผมเชื่อเสมอว่า แรงบันดาลใจส่งผ่านกันได้ และสร้างอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาได้

 

เมื่อโหน่งสร้าง a day ขึ้นมา ก็มีเด็กหนุ่มมาฝึกงานด้วยความหลงใหลเสน่ห์ความคิดแบบ a day และแบบโหน่ง เด็กหนุ่มคนนี้จบเภสัชฯ แต่รักในงานครีเอทีฟและงานขีดเขียน จึงได้ฝึกงานและค่อยเรียนรู้วิทยายุทธ์ต่างๆ จนเติบโตมาเป็นทีมงานที่แข็งแรง

และเมื่อโหน่งมาสร้าง The Standard ร่วมกับหุ้นส่วน ปิงปอง-นิติพัฒน์ สุขสวย เด็กหนุ่มเมื่อวันวานคนนั้นก็กล้าแข็งพอที่จะลุกขึ้นมารับตำแหน่งบรรณาธิการบริหาร เขาคือเคน-นครินทร์นั่นเอง

โหน่งบอกว่า เขาได้เคนมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง นำพา The Standard ยืนอยู่ได้อย่างสง่างามแล้ว และเขาก็มีเวลาว่างพอที่จะหวนมาสู่รายการ “เจาะใจ” อีกครั้ง

เขาบอกอย่างนั้นจริงๆ นะครับ ให้หน้ากระดาษนี้เป็นจารึกพยานสิเอ้า

อยากบอกโหน่งว่า รายการเจาะใจรอโหน่งอยู่เสมอนะ

อยากบอกโหน่งอีกว่า ดีใจกับก้าวที่สำเร็จของ The Standard ด้วย

และอยากจะบอกโหน่งอีกว่า โหน่งก็เป็นแรงบันดาลใจย้อนกลับมาหาผมด้วยเช่นกัน

เป็นแรงบันดาลใจวนๆ กันไปอย่างนี้ก็สนุกดีเหมือนกันนะโหน่ง