เผยแพร่ |
---|
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม นายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ และอดีตแนวร่วม กปปส.แสดงความเห็นเกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐ เมื่อเงาสมศักดิ์-สุริยะ ทาบทับพลังประชารัฐ ภาพความสดใสก็เลือนหายไป กลายเป็นความหมองคล้ำ โครงสร้างอำนาจในพลังประชารัฐแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่
(1) กลุ่มสมศักดิ์-สุริยะ ถือเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในพลังประชารัฐและเป็นกลุ่มที่ผู้สมัคร ส.ส.ในกลุ่มมีโอกาสได้รับเลือกตั้งมากที่สุด
(2) กลุ่มสมคิดซึ่งมีอุตตม-สนธิรัตน์เป็นตัวเปิด ส่วนใหญ่เป็นอดีต กปปส. กลุ่มไฮโซ และอดีต ส.ส.จากพรรคต่างๆ ที่ถูกดูดเข้าไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่อดีต ส.ส.มีโอกาสสอบตกมากกว่ากลุ่มอื่นๆ
(3) กลุ่มสุชาติ ถือเป็นกลุ่มที่เล็กที่สุด
ส่วนการจัดวางลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อจะสลับกันไปทั้ง 3 กลุ่ม ตามอำนาจการต่อรองของแต่ละกลุ่ม แต่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหลัก คือผู้ออกเงินเป็นผู้กำหนด
เมื่อถึงเวลาตะลุมบอนในการเลือกตั้ง หัวหน้าของแต่ละกลุ่มจะมุ่งช่วยลูกน้องในกลุ่มตนเอง ดูสับสนวุ่นวายไร้ทิศทาง เพราะหัวหน้ากลุ่มแต่ละกลุ่มรู้ดีว่า ใครได้ ส.ส.มากที่สุด คนนั้นเสียงดังที่สุด
เมื่อผลการเลือกตั้งปรากฏ…!
พลังประชารัฐไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ ท่านผู้นำฝืนใจโบกมือลา…ด้วยความเจ็บช้ำ
พลังประชารัฐแตก…!
ปรากฏการณ์งูเห่าเกิดขึ้นทันที…
คนอย่างสมคิด-อุตตม-สนธิรัตน์ จะมีปัญญาหรือศักยภาพอะไรไปควบคุมคนอย่าง สมศักดิ์-สุริยะ-สุชาติ
สมศักดิ์-สุริยะ-สุชาติ จะนำ ส.ส.ในก๊วนเข้าสนับสนุนพรรคที่มีโอกาสเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลทันที
ทิ้งสมคิด-อุตตม-สนธิรัตน์ ไว้ข้างหลัง นั่งมองตาปริบๆ ร่วมกับนายพลชราทั้งหลาย
ให้มันรู้ซะบ้างว่า…ไผเป็นไผ
การใช้พลังงานของเพื่อนเพื่อผลักดันให้ตนเองเข้าสู่เป้าหมายคือยุทธวิธีที่ซ่อนอยู่ในพลังประชารัฐ
คนโง่ย่อมตกเป็นเหยื่อของคนฉลาดเสมอ…
ยิ่งโง่…ยิ่งอยากมีอำนาจ…ยิ่งเป็นเหยื่ออันโอชะ…!
มติชนออนไลน์