“ภูมิใจไทย” ลุยกทม. ขอโอกาสปักหลัก-ทำงานให้ ชูแคมเปญ “กรุงเทพฯ สะดวก สบาย”

“ภูมิใจไทย” ขอตามตื๊อคนกทม.อีก เพื่อโอกาสปักหลัก-ทำงานให้คนกทม. ชูแคมเปญ “กรุงเทพฯ สะดวก สบาย” อยู่บ้านก็ทำงานได้-เรียนได้

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรรคภูมิใจไทย (ภท.) แถลงแนวคิด กรุงเทพ สะดวก สบาย พร้อมเปิดตัวทีมยุทธศาสตร์กทม.ของพรรคภท.

โดยอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งว่า ภท.ยังไม่เคยปักหลักในพื้นที่กทม.ได้เลย และครั้งนี้เราตั้งใจที่จะมาปักหลักให้ได้ เพราะพี่น้องชางกรุงเทพฯน่าจะผ่านประสบการณ์มาแล้วว่าที่ผ่านมาเลือกคนนั้นคนนี้แล้วได้อะไร ซึ่งคำตอบคือไม่ค่อยได้อะไร ภท.จึงอยากเสนอตัวเข้ามา โดยเราไม่ได้เข้ามาเพื่อแสวงหาอำนาจ แต่มาเพื่อทำงาน เพื่อบ้านเมือง และเพื่อรับใช้ประชาชน เราไม่ได้ส่งส.ส.เพื่อเอาคะแนน แต่เราจะส่งคนที่สามารถทำงานให้พี่น้องประชาชนได้

ดังนั้น ขอโอกาสให้ภท.ได้แสดงผลงานอีกครั้ง ยอมรับว่าการเข้ามาในสนามเลือกตั้งกทม.นั้นยากลำบากมาก ต้องมาพร้อมความคิด และข้อเสนอที่ดี การลงพื้นที่กทม.เราจึงต้องนึกถึงหลากหลายปัญหา ตนเคยถอดใจบ้าง แต่ไม่เคยท้อถอย ทั้งนี้ ตนกลับมาใจสู้อีกครั้งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะตนเริ่มเห็นเพื่อนๆพี่ๆที่เป็นคนกทม.ของตนมาพูดคุยกับตนในฐานะหัวหน้าพรรคภท.มากขึ้น พร้อมมาชี้ทางว่าหากอยากชนะใจคนกรุงเทพฯต้องทำอย่างไร ตนเริ่มเห็นการยอมรับจากบรรดาคนกรุงเทพฯที่เป็นพรรคพวกกัน และด้วยประสบการณ์ทั้งหมดตนจึงอยากขออาสาเข้ามาทำงานให้กับกทม.

โดยปัญหาหลักๆของกทท. คือเรื่องของการจราจร เรื่องปัญหาการทำกิน ซึ่งเรามั่นใจว่าเราจะแก้ปัญหาได้ เราจะผลักดันสิ่งเหล่านี้ในสภาโดยไม่จำเป็นว่าเราจะต้องเป็นรัฐบาล แต่เราจะเสนอเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีอำนาจตอนนั้น และนโยบายใดที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเป็นนโยบายของพรรคใดตนก็พร้อมที่จะสนับสนุน

นายอนุทิน กล่าวว่า เราประชุมกันหลายครั้งตลอดช่วงที่ผ่านมาจนได้ชื่อแคมเปญว่า “กรุงเทพฯ สะดวก สบาย” โดยใช้เทคโนโลยีที่เรามีในมือมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และในการทำงาน เช่น การทำงานผ่านระบบดิจิทัล อยู่บ้านก็ทำงานได้ และดิจิทัลโฮมสกูล หรืออยู่บ้านก็เรียนได้ นอกจากนี้เราจะมีโคเวิร์คกิ้งสเปสในทุกแขวง เพื่อที่คนจะได้ไม่ต้องเข้ามาทำงานในเมือง สามารถทำงานในออฟฟิศที่เราจัดตั้งไว้ให้ได้ ภท.ทำได้เร็ว ทำได้เลย เราแค้ต้องการความกล้า และความเชื่อมั่น และเราได้พิสูจน์มาโดยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าด้วยนโยบายของพรรคภท.จะทำให้เราได้คะแนนเสียงจากพี่น้องกทม.ที่มีจิตใจเป็นธรรม และต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น ภท.ไม่สามารถที่จะถอดใจจากปัญหาของกทม.ได้ และตนจะไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ จะตามตื๊อจนกว่าพวกท่านจะใจอ่อน จะทำในทุกสิ่งที่ท่านจะชอบเราได้ เราขอตื๊อคนกรุงเทพฯอีกครั้งหนึ่ง ขอท่านให้โอกาสเราเข้ามาทำงาน ตนยังไม่เคยทำอะไรแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ที่ผ่านมาสำเร็จทุกอย่างแต่จะประสบความสำเร็จมาก หรือน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ พรรคภท.เราจะลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจให้ประชาชน ให้ประชนมีสิทธิ และศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน

พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรค และทีมยุทธศาสตร์ ด้านดิจิทัล กล่าวว่า ในทุกวันจะมีคน 7 ล้านคนเป็นอย่างน้อย เดินทางไป กลับ เช้า เย็น ในกรุงเทพ บนถนนที่มีจำกัด คนเหล่านั้นเสียเวลาแค่ไหน เสียงพลังงาน เสียค่าใช้จ่ายขนาดไหน เหล่านั้น เป็นพลังของชาติที่ถูกแช่แข็งไว้ในรถ มันถึงเวลาที่เราต้องหาทางใช้ประโยชน์จากพลังเหล่านั้น ตนทำงานกับกลุ่ม E-Sport คนกลุ่มนี้ ไม่ต้องรถติดไปทำงาน เขาใช้เวลาที่ไหนก็ได้ แล้วใช้พลังงานอย่างเต็มที่ในการทำงาน ขอพูดเรื่อง Startup ตนมองว่ารัฐบาลมาถูกทางแล้ว แต่กฎหมายมันไม่สอดคล้องกับเป้าหมาย กฎหมายประเทศไทยถูกร่างขึ้นมาในยุคที่เราต้องเอาคนมาทำงานที่เดียวกัน เพราะระบบการสื่อสาร ยังไม่ทันสมัยขนาดนี้ การเห็นหน้าตา ได้เรียกใช้ ถือเป็นความจำเป็น แต่ปัจจุบัน เทคโนโลยีมันเปลี่ยนไปแล้ว ถึงเวลาที่กฎหมายต้องปรับตาม

ด้านนายจุลภาส เครือโสภณ ทีมยุทธศาสตร์พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยนำเสนอไม่ใช่ความฝัน แต่มันเป็นสิ่งที่ถูกพิสูจน์แล้วว่าทำได้จริง ขอยกตัวอย่างที่สหรัฐอเมริกา ในหลายเมืองมีการลดเวลาทำงานของข้าราชการลง และจำนวนรถบนท้องถนนก็ลดลงจริง จนเป็นแนวทางแก้ปัญหารถติด และเมื่อเช็กย้อนไปที่ประสิทธิภาพการทำงาน ปรากฎว่า แม้จะให้ทำงานอยู่บ้าน แต่องค์กรต่างๆ ยังรักษาประสิทธิภาพการทำงานได้เท่าเดิม เท่ากับว่า เราต้องทบทวนรูปแบบการทำงานแบบเดิม เพื่อหาแนวทางการทำงานแบบใหม่

มติชนออนไลน์