(20 พ.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย จำนวนหนึ่ง ซื้อข้าวหอมมะลิจากชาวนาในพื้นที่ภาคอีสานในราคากิโลละ 20 บาท และนำมาขายในราคาเดียวกันเป็นจำนวนกว่า 10 ตัน ว่า

“ถ้าเราวิเคราะห์จริงๆ แล้ว การเดินเกมของพรรคเพื่อไทย ที่ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ซื้อข้าวสารหอมมะลิ ราคากิโลละ 20 บาท และมาขายต่อกิโลละ 20 บาท เป็นเกมส์การตอกย้ำราคาข้าวเปลือกตกต่ำ และเพื่อหวังให้กระทบไปที่รัฐบาลอย่างรุนแรง เพราะราคาข้าวสารเหลือแค่กิโลละ 20 บาท” นพ.วรงค์ กล่าว

และว่า “แต่พรรคเพื่อไทยลืมคิดไปว่า ทุกภาคส่วนรวมทั้งรัฐบาลแก้ปัญหาด้วยสินเชื่อชะลอการขาย และ ให้ชาวนาสีข้าวเปลือกมาขายข้าวสาร ซึ่งมีราคาแทนที่จะขายแต่ข้าวเปลือก ราคาข้าวสารหอมมะลิราคาตกประมาณ 30-35 บาทต่อกิโล สิ่งที่เกิดขึ้นที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ซื้อและขายราคา 20 บาท จึงกลายเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง ที่ตนเองไม่ทันได้คิด”

นพ.วรงค์ กล่าต่อว่า “แม้น.ส.ยิ่งลักษณ์จะยิ่งอธิบายอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น จะอ้างว่าไม่คิดกำไร ลงทุนค่าขนส่งเอง และลดต้นทุนเรื่องถุง แทนที่จะสะเทือนรัฐบาล กลับสะท้อนมาที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะนี่คือทั้งกดราคาซื้อข้าวสาร และตัดราคาขายข้าวสารในเวลาเดียวกัน เนื่องจากเราต้องการให้ข้าวสารที่ชาวนาสีเองมีราคา และน.ส.ยิ่งลักษณ์คงคิดไม่ถึงที่สังคมช่วยกันซื้อข้าวสารจากชาวนาเต็มที่ ในราคาเป็นธรรม สูงกว่าที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ซื้อ-ขาย”

“ผมไม่เคยเห็นครั้งไหนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยดิ้นมากขนาดนี้เลย ทั้งส่งส.ส.เรียงหน้ามาโต้ แม้อ้างว่าซื้อข้าวเปลือกตันละ 12,000 บาท ก็ดิ้นไม่หลุดสั่งสมุนเขียนโจมตีในหลายประเด็น หาว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังซื้อและขายแค่กิโลละ 25บาท ทั้งๆที่เราก็ชี้แจงไปหลายครั้งว่านี่คือข้าวหอมจังหวัด ราคาถูกกว่าหอมมะลิที่อิสาน ปกติหอมจังหวัดราคา 25-30บาทต่อกิโล แต่ก็แกล้งไม่รู้” นพ.วรงค์ กล่าว

นพ.วรงค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “คงต้องเตือนน.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยให้รู้ว่า ข้าวชาวบ้านเรียกว่าแม่โพสพ มีสิ่งศักสิทธิ์คุ้มครองอยู่ ใครคิดไม่ดีต่อข้าวก็จะมีอันเป็นไป ถ้าทำด้วยความจริงใจ ช่วยชาวนาอย่างยั่งยืน ก็จะไม่มีปัญหา ไม่มีวิบากกรรม แต่ถ้าคิดไม่ดี แม้ทำจำข้าวข้าวในราคาสูงก็ไปไม่รอด ขนาดมาซื้อ-ขายข้าว 20บาท ก็ยังไปไม่รอดเพราะแม่โพสพดลใจนั่นเอง”