หลากทัศนะ-ปฏิกิริยา ปม ‘ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2’ ไม่ผ่านเซ็นเซอร์

จากกรณีภาพยนตร์ ‘ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2’ ไม่ผ่านเซ็นเซอร์ จากคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ กบว. เนื่องจากประเด็นความอ่อนไหวทางศาสนา กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์บนโลกโซเชียลในแง่มาตรฐานทางศีลธรรมในการตัดสินและการตีความถึงความเหมาะสมที่แตกต่างระหว่างผู้ชมกับ กบว.

รัฐไทยเป็นกึ่งรัฐศาสนา-โลกวิสัย

นายสุรพศ ทวีศักดิ์ นักวิชาการด้านศาสนา ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า ถ้าเหตุผลไม่ผ่านเซ็นเซอร์เพราะ #ประเด็นอ่อนไหวทางศาสนา มีฉากพระบวชไม่นานร้องไห้เสียใจที่อดีตแฟนสาวเสียชีวิต(ตามข่าว) นี่ย่อมเป็นการใช้เหตุผลแบบ #รัฐศาสนา แล้วครับ

ถ้าเป็นรัฐโลกวิสัย (secular state) ที่ถือว่าศาสนาเป็นเสรีภาพส่วนบุคคล จะไม่มีการอ้างประเด็นอ่อนไหวทางศาสนาทำนองนี้มาจำกัดเสรีภาพการแสดงออกด้านศิลปะเช่นภาพยนตร์และอื่นๆ ในรัฐโลกวิสัยอย่างหลายประเทศในตะวันตกแม้แต่ฉากบาทหลวงมีบทเลิฟซีนเขาก็ไม่เซ็นเซอร์ เพราะรัฐไม่ได้มีหน้าที่ปกป้องศาสนา มีหน้าที่ปกป้องเสรีภาพที่ปัจเจกบุคคลจะเลือกนับถือ ไม่นับถือศาสนาเท่านั้น

รัฐไทยจะเป็นรัฐศาสนาก็ไม่ใช่ (เพราะไม่ได้นำหลักศาสนามาเป็นหลักการปกครองและการบัญญัติกฎหมาย) แต่จะเป็นรัฐโลกวิสัยก็ไม่เชิง (เพราะยังมีองค์กรศาสนาของรัฐ มีกฎหมายให้อำนาจองค์กรศาสนา และยังถือว่าชนชั้นปกครองมีสถานะทางศาสนาคือเป็น “สมมติเทพ”) สภาวะเช่นนี้ย่อมทำให้เกิด “การลักลั่น” ในการใช้อำนาจรัฐหรือใช้กฎหมายที่บางครั้งก็เปิดกว้างในเรื่องศาสนาแบบรัฐโลกวิสัย แต่บางครั้งก็ปิดกั้นราวกับเป็นรัฐศาสนา

มันเหมือนกับในทางการเมือง บางครั้งประชาชนก็มีเสรีภาพทางการเมืองมากขึ้นเมื่ออยู่ในช่วงเวลาของรัฐบาลจากเลือกตั้ง แต่บางครั้งก็ไร้เสรีภาพเมื่ออยู่ใต้รัฐบาลเผด็จการจากรัฐประหาร

พูดตรงๆ คือ สังคมไทยที่เป็นรัฐ “กึ่งศาสนา-กึ่งโลกวิสัย” และ “กึ่งเผด็จการ-กึ่งประชาธิปไตย” ไม่เคยมีเสรีภาพทางศาสนาและเสรีภาพทางการเมืองอย่างแท้จริงแบบที่เขามีกันในรัฐเสรีประชาธิปไตยที่เป็นรัฐโลกวิสัย

จนกว่าไทยจะเป็นเสรีประชาธิปไตยและเป็นรัฐโลกวิสัยเท่านั้น ปัญหาบ้าๆบอๆพวกนี้ถึงจะหมดไป

 

การแบนคือการทำลายเมล็ดพันธุ์ของความคิดสร้างสรรค์และความกล้าหาญ

พระมหาไพรวัลย์ วรวรรณโณ แห่งวัดสร้อยทอง กทม. ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ หลังมีกระแสข่าวว่าสาเหตุที่หนังเรื่องนี้ถูกแบน เพราะเรื่องความอ่อนไหวทางศาสนา ความว่า

ไทบ้าน เดอะซีรีส์ เป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งนะ ในมุมมองของอาตมา เป็นหนังที่ฉายภาพของวัยรุ่นยุคใหม่ในสังคมชนบท (อีสาน) ได้หลากหลายมิติดีมากมาก

ทั้งเรื่องของความรัก วิถีชีวิต ความคิดความเชื่อ วัฒนธรรม ภาษาและอื่นอื่นอีกมากมาย ซึ่งมีพัฒนาการและเปลี่ยนไปจากภาพมายาคติของสังคมอีสานยุคเก่าเก่าที่แบบเราเคยมอง ไม่แปลกใจว่า ทำไมหนังเรื่องนี้ถึงเป็นที่ชื่นชอบของคนภาคอีสาน

อาตมาเห็นว่า การเเบนหนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องเกินกว่าเหตุ เป็นการทำลายเมล็ดพันธุ์ของความคิดสร้างสรรค์และความกล้าของคนรุ่นใหม่ที่จะริเริ่มผลิตผลงานภาพยนต์อย่างไม่มีชิ้นดีเลย (หัวใจคนทำหนังหมุ่นอุ้ยปุ้ยไปหมดแล้ว)

อาตมาไม่รู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงของการแบนหนังเรื่องนี้คืออะไร ถ้าเป็นเพราะฉากพระร้องไห้เพราะทำใจไม่ได้ที่อดีตแฟนตายตามที่สื่อนำเสนอ อันนี้เลอะเทอะนะ การร้องไห้หรือหัวเราะ มันเป็นธรรมชาติของปุถุชชน ตอนที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน พระส่วนหนึ่งก็ร้องไห้ทั้งนั้น ยกตัวอย่าง พระอานนท์ เป็นต้น

อาตมาอยากให้คณะกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติทำการทบทวนเรื่องนี้ใหม่นะ ติดเรทหนังก็ได้ ถ้ามีฉากที่ไม่เหมาะกับเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

เล่นแบนหมดแบบนี้ ต่อไปคนรุ่นใหม่ที่ไหนจะกล้ามีความคิดความอ่านมีความสร้างสรรค์เสนอภาพยนต์ที่เป็นทางเลือกเล่า เราจะมีหวังได้เห็นผู้กำกับหน้าใหม่ใหม่ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีฝีมือมีความสามารถไม่แพ้คนรุ่นเก่าเก่าได้อย่างไร

ทีหนังบ้าบ้าบอบอยังอนุญาตให้ฉายกันเต็มโรงไปหมด

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2358244627795407&set=a.1388703178082895&type=3&theater

 

ศาสนาไม่ใช่ตัวกำหนดทุกสิ่ง

ขณะที่เพจรีวิวหนังสายดาร์กอย่าง ‘ตั๋วร้อนป๊อปคอร์นชีส’ ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อการแบนหนังเรื่องนี้ว่า อันที่จริงไม่ควรมีหนังเรื่องไหนถูกริดรอนเสรีภาพในการนำเสนอด้วยซ้ำ โลกมีคำว่า เรต ไว้เพื่อจำกัดคนดู และ ศาสนาไม่ใช่ตัวกำหนดทุกสิ่งอย่าง

อาบัติ คืออีกหนึ่งหนังที่มีฉากหมิ่นเหม่เกี่ยวกับศาสนา แต่ในเนื้อเรื่องนั้นตัวละครก็ได้ถูกเวรกรรมตามลงโทษให้สาสม ซึ่งก็ถือเป็นคติสอนใจได้ว่าทำชั่วย่อมได้รับผลชั่ว แต่ก็ไม่ใช่ว่า อาบัติ จะไม่โดนนะ ถ้ายังจำกันได้ อาบัติ เองก็โดนเหมือนกัน ยื่อยุดกันอยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะได้ฉาย ทั้งที่ตัวหนังเองก็สอนให้คนดูรู้ถึงบาป บุญ คุณ โทษ เหมือนกับว่าท่านผู้ทรงคุณวุฒิเห็นผ้าเหลืองแล้วร้อนรุ่มเหมือนกระทิงวิ่งใส่ผ้าสีแดง ทั้งที่จริงๆแล้วตนเองตาบอดสี แยกแยะอะไรไม่ออก

ส่วนใน ไทบ้าน เดอะ ซีรี่ส์ นั้น ข่าวว่าไม่ผ่านเซ็นเซอร์เพราะมีฉากพระร้องไห้ข้างโลงศพแฟนเก่า ซึ่งเอาเข้าจริงๆหากมองด้วยสายตาผู้ทรงคุณวุฒิ มันก็ถือเป็นเรื่องไม่สมควร ไม่สำรวม ทำให้ภาพลักษณ์ทางศาสนาเสื่อมถอย(?) แต่หากมองด้วยสายตาของมนุษย์ธรรมดาๆที่ใช้มองมนุษย์ด้วยกันแล้ว พระก็คือมนุษย์เนี่ยแหละ ใช่ว่าบวชแล้วจะละทิ้งทางโลกได้ทันที สวดมนต์เยอะๆแล้วจะทำให้ต่อมน้ำตาตายด้าน ไม่รู้สึกรู้สาต่อการสูญเสียใดๆ ผ้าเหลืองไม่ใช่ที่เอาไว้คุมขังอารมณ์และความรู้สึกของใครได้ ในขณะที่คณะกรรมการภาพยนตร์และวิดิทัศน์แห่งชาติ ก็เช่นกัน ไม่ใช่หน่วยงานที่เอาไว้คุมขังเสรีภาพในการนำเสนอศิลปะ อย่าคิดแทนคนดูกันมากนักเลย

https://www.facebook.com/TuaronPopcorncheese/photos/a.678291035554718/2162846793765794/?type=3&theater

สำหรับภาพยนตร์ไทยที่เคยเจอการห้ามฉายเนื่องจากการนำเสนอประเด็นทางศาสนา เคยเกิดขึ้นมาแล้ว อย่างเช่น นาคปรกที่เกือบไม่ได้ฉายเพราะเนื้อหาที่ทำให้ภาพลักษณ์พระสงฆ์เสื่อมเสียจนได้มีการแก้ไขและสามารถฉายได้ แต่หนังที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาที่ทำให้ถูกแบนและเป็นประเด็นมากในเวลานั้นคือ อาบัติ ของปรัชญา กิ่งแก้ว ที่ถูกสั่งห้ามฉายเพราะมีบางฉากกระทบกระเทือนจิตใจชาวพุทธเกินไป

ทั้งนี้ ล่าสุด สุรศักดิ์ ป้องศร ผู้กำกับไทบ้านเดอะซีรีส์ กล่าวว่า มีผู้ใหญ่หลายๆฝ่ายที่ยังไม่สบายใจในเรื่องนี้ จึงอยากออกมารับผิดชอบ และต้องยุติการฉายเอาไว้ก่อน ส่วนรายละเอียดนั้นทีมงานต้องประชุมและวางแผนกันก่อนว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร

ด้าน อวิรุทธ์ อรรคบุตร โปรดิวเซอร์ ขอโทษแฟนคลับ เนื่องจากไม่สามารถฉายรอบสื่อมวลชนได้ เพราะไม่ผ่านการเซ็นเซอร์ กำลังอยู่ในการเจรจา และขอคำแนะนำจากหลายๆฝ่ายของกองเซ็นเซอร์ สิ่งที่เกิดขึ้นจะเก็บเป็นบทเรียน และพัฒนาต่อๆไป และจะพยายามผลักดันให้หนังเข้าฉายต่อไป

อย่างไรก็ตามตอนนี้ขอประกาศว่า ต้องเลื่อนฉายออกไปไม่มีกำหนด หลังจากนี้จะขอโอกาสกองเซ็นเซอร์ เข้าไปชี้แจง และอธิบายข้อมูลต่างๆให้ชัดเจนขึ้น