“ดร.อ้อ” รศ.กฤษติกา คงสมพงษ์ แรงใจ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ ยุค Smart Soldiers Strong Army

หากกล่าวถึงรายการ “The Weakest Link กำจัดจุดอ่อน”

หลายคนคงจำชื่อรายการนี้ได้และจดจำพิธีกรได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นรายการที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองที่มีฉายในเวอร์ชั่นต่างๆ ทั่วโลก

ย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีก่อน พิธีกรบุคลิกดีและจริงจังเพื่อมากำจัดจุดอ่อน ชื่อว่า “ดร.อ้อ” รศ.ดร.กฤษติกา คงสมพงษ์ โด่งดังจากรายการนี้ เพราะเป็นรายการที่คนไทยไม่คุ้นชิน และเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงของ “ดร.อ้อ” ด้วย

วันนี้บทบาทของ “ดร.อ้อ” กลับเป็นที่สนใจอีกครั้งในฐานะภริยา ผบ.ทบ.คนที่ 41 “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์

นายทหารสายสมาร์ต ที่กำลังเป็นที่จับตาของฝ่ายต่างๆ

หลังออกมาระบุถึงการไม่รับประกันการรัฐประหาร

โดยชี้ว่าเหตุรัฐประหารมาจากการเมืองและการจลาจล

รวมทั้งบิ๊กแดงเป็นบุตรชาย “บิ๊กจ๊อด” พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทหารสูงสุด

จึงทำให้ “ครอบครัวคงสมพงษ์” เป็นที่รู้จักในสังคมมากขึ้น

และ พล.อ.อภิรัชต์ยังมีบทบาทสำคัญคือ การเป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ทม.รอ.) ด้วย

รวมถึงบุตรชายและบุตรสาว “ผู้กองพลุ” ร.อ.พิรพงศ์ คงสมพงษ์ นายทหารประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์

และ “หมอเพลิน” ร.ท.แพทย์หญิง อมรัชต์ คงสมพงษ์ ประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ที่ผ่านมา “หมอเพลิน” ก็ได้ออกงานของ ทบ. ร่วมกับ “ดร.อ้อ” มาบ้างแล้ว

แต่ทั้ง “ผู้กองพลุ-หมอเพลิน” ก็ล้วนเคยออกสื่อเมื่อนานมาแล้วร่วมกับ “ดร.อ้อ”

“ดร.อ้อ” ทั้งสวยและเก่ง เพราะเป็นอาจารย์ประจำสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถือเป็นระดับชั้นนำของประเทศ

และเป็นนักวิชาการด้านการตลาด-บริหารธุรกิจ

ซึ่ง “ดร.อ้อ” ไปอยู่สหรัฐตั้งแต่เด็กๆ เรียนไฮสกูล

ก่อนมาเรียนปริญญาตรี-โท-เอก ด้านการตลาดหรือบริหารธุรกิจทั้งหมด

ได้แก่ ปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ (Bachelor Degree In Business Administration) George Washington สหรัฐอเมริกา, ปริญญาโท University Master In Business Administrations จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาเอก คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาการตลาด ม.ธรรมศาสตร์

รวมทั้งเป็นกรรมการอิสระของบริษัทเอกชนบางแห่งด้วย

ย้อนไปไกลกว่านั้น ปี 2532 “ดร.อ้อ” เคยเข้าประกวดนางสาวไทยปีเดียวกับ “ยลดา รองหานาม” สมัยเรียนปริญญาตรี ซึ่งก็มีคนจำได้ นำภาพในอดีตมาแชร์ในโซเชียล

จุดนี้จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ “ดร.อ้อ” มีบุคลิกดี มีความเป็นตัวของตัวเอง มั่นใจในตัวเอง และดูแลตัวเอง ออกกำลังกายอยู่เสมอ

แต่วันนี้บทบาทของ “ดร.อ้อ” คือการเป็นนายกสมาคมแม่บ้านทหารบก

โดยได้สานงานต่อจาก “คุณเบิร์ด” นางเบญจวรรณ สิทธิสาท ภริยา “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี อดีต ผบ.ทบ.คนที่ 40

โดยได้เน้นย้ำการเป็น “Smart Thai Army Wives” หรือ “ครอบครัวเข้มแข็ง เป็นแรงใจให้ทหารกล้า”

ซึ่งสอดรับกับนโยบายของ “บิ๊กแดง” คือ Smart Soldiers Strong Army ด้วย

ถือเป็นแบบอย่างให้กับ “แม่บ้าน ทบ.” ได้เป็นอย่างดี ที่ทั้งสวยและเก่ง

โดยได้เรียนรู้การทำงานมาตั้งแต่ปี 2560 ในตำแหน่งอุปนายกสมาคมแม่บ้านทหารบก

แต่สิ่งที่ “คุณเบิร์ด” และ “ดร.อ้อ” ดูแล้วแตกต่างกันที่เครื่องประดับ เพราะ “คุณเบิร์ด” จะมีกิ๊บติดผมที่หลากหลายแบบในเวลาออกงานต่างๆ

ส่วน “ดร.อ้อ” จะอยู่ที่แว่นสายตาที่มีหลากหลายทรง

แต่ทั้ง “กิ๊บติดผม” หรือ “แว่นตา” ก็ต้องเข้ากับชุดที่สวมใส่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงที่ต้องเสริมบุคลิกภาพตนเอง

ทั้งนี้ ในเรื่องการทำงาน “ดร.อ้อ” มีวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนงานแม่บ้าน ทบ. คือ “สร้างครอบครัวกำลังพล ให้มีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ และสามารถบริหารจัดการเศรษฐกิจภายในครอบครัว ให้ดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข รวมทั้งดูแลบุตร-ธิดาให้เป็นคนดีของสังคม”

“แม่บ้านทหารไทยยุคนี้ควรเป็นแม่บ้านที่ทันสมัย เพราะมีสื่อออนไลน์และข่าวสารอยู่ปลายนิ้ว อยากเห็นแม่บ้านนำประเพณีอันงดงามของไทย ผนวกกับวัฒนธรรมการเป็นแม่บ้านของทหาร ซึ่งจะต้องเป็นพลังสร้างครอบครัวของเราให้เข้มแข็ง เพื่อที่จะเป็นแรงใจให้ทหารกล้าที่รักของเรารับใช้บ้านเมืองได้อย่างสบาย” รศ.กฤษติกากล่าว.

ในเดือนพฤศจิกายนนี้ “ดร.อ้อ” จะนำสมาคมเดินสายทุกกองทัพภาค เพื่อดูแลครอบครัวของกำลังพล

โดยเริ่มจากสมาคมแม่บ้าน ทบ. ในกลุ่มกองทัพภาคที่ 1 เพื่อติดตามการดำเนินงานและกำชับแผนงานปี 2562

ที่สำคัญ “ดร.อ้อ” มักออกงานสังคมต่างๆ หรือเรียกได้ว่าเป็น “ไฮโซ” เลยก็ได้ เพราะมักปรากฏอยู่ในข่าวหน้าสังคมและคนในแวดวงข่าวอยู่เสมอ

โดยในช่วงนี้ “ดร.อ้อ” ได้วางมือจากวงการบันเทิงแล้ว และมุ่งเน้นงานด้านวิชาการและงานสมาคมแม่บ้าน ทบ.เป็นหลัก

“บิ๊กแดง” เองก็ติดตามข่าวสารของ “ดร.อ้อ” เช่นกัน แม้ยืนยันว่าจะไม่เปิดโซเชียลทั้งเพจเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม แบบ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ

แต่ “บิ๊กแดง” ก็ยอมรับว่าตนดูโซเชียลอย่างเดียว ไม่ได้เล่น

หนึ่งในคนที่ติดตามคือ “ดร.อ้อ” นั่นเอง

“เวลาผมจะใช้โทรศัพท์แต่ละครั้ง ยังให้ลูกน้องทำให้ ผมไม่มีเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม แต่ได้ดูและติดตาม เพราะภรรยาของผมอยู่ในโซเชียล” พล.อ.อภิรัชต์กล่าว

ทั้งนี้ ด้วยความเป็น “นักวิชาการด้านการตลาด” แน่นอนว่างานของแม่บ้าน ทบ.ในยุค “ดร.อ้อ” จึงมีความรวดเร็วในการประชาสัมพันธ์ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์

แม้ว่า “ดร.อ้อ” จะระมัดระวังการใช้สื่อออนไลน์ก็ตาม

รวมทั้ง “บิ๊กแดง” ที่จะไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมากนัก จึงให้ทีมโฆษก ทบ. และ คสช. ทำการชี้แจงเรื่องต่างๆ แทน ทั้งเรื่องภารกิจกองทัพและการเมือง

แม้ “บิ๊กแดง” จะสามารถตอบคำถามการเมืองเองได้อย่าง “ตรงไปตรงมา” อย่างที่ได้เคยให้สัมภาษณ์สื่อถึงการรัฐประหารและการปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ

แต่ด้วยสถานะพิเศษของ “บิ๊กแดง” ก็ทำให้ต้องให้ทีมโฆษกทำหน้าที่แทน

โดยมีแนวทางที่สั่งการลงมาคือ “ความรวดเร็ว” ในการชี้แจงผ่านโซเชียล

อย่างไรก็ตาม “ดร.อ้อ” เองก็ขอมุ่งทำงานแม่บ้าน ทบ.เต็มที่ และขอทำงานอย่างเงียบๆ

ซึ่ง “ดร.อ้อ” ก็เริ่มโลว์โปรไฟล์ตัวเองตั้งแต่สมัย “บิ๊กแดง” ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 เมื่อปี 2559

แต่โดยเนื้อแท้บุคลิกของ “ดร.อ้อ” เป็นอีก “หญิงแกร่ง” เป็นที่ยอมรับของวงการภาคธุรกิจและวิชาการ มีความเป็นกันเองกับคนอื่นๆ

สิ่งที่ต้องจับตานับจากนี้คือ “บทบาท” ของ พล.อ.อภิรัชต์ในอนาคต จะไปสู่ตำแหน่งอื่นหรือไม่

โดยเฉพาะตำแหน่งนายกฯ ที่มีกระแสอยู่ตลอด ว่าจะเดินตามรอย “บิ๊กตู่”

ซึ่งสถานะของ “ดร.อ้อ” ก็จะต้องเปลี่ยน ตามสถานะของ “หน้าบ้าน” ไปด้วย หรือที่เรียกว่า “สตรีหมายเลข 1” นั่นเอง

เช่นเดียวกับ “อ.น้อง” รศ.นราพร จันทร์โอชา อดีตอาจารย์ประจำสถาบันภาษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยปัจจุบันทำหน้าที่เป็นรองประธานกรรมการบริหาร คนที่ 3 ในคณะกรรมการมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ที่ทำงานด้านนี้มานานกว่า 10 ปี

สิ่งที่ “อ.น้อง-ดร.อ้อ” เหมือนกันคือการโลว์โปรไฟล์ตัวเอง และระมัดระวังสิ่งต่างๆ เพราะต่างรู้ว่าถูกจับจ้องจากสังคม

รวมทั้งมีบทบาทเป็น “อาจารย์-นักวิชาการ” เหมือนกันด้วย

แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต การทำหน้าที่ “หลังบ้าน” ในบทบาทคุณแม่ ภรรยาของครอบครัว และตำแหน่งนายกสมาคมแม่บ้านทหารบกของ “ดร.อ้อ” ก็คือ “แรงใจ” ให้กับ “บิ๊กแดง” ตลอด 2 ปีในการดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.

เพราะภารกิจของ พล.อ.อภิรัชต์ นอกจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.แล้ว ยังเป็นเลขาธิการ คสช. ที่เป็น ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จะต้องสร้างบรรยากาศและรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้ง

รวมทั้งจะต้องทำงานในช่วง “รอยต่อรัฐบาล” ระหว่างรัฐบาลทหารกับรัฐบาลเลือกตั้งด้วย

หากนายกฯ คนต่อไปชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ก็สานงานต่อได้ทันที แต่หากเป็นชื่ออื่นหรือมาจากขั้วตรงข้าม คสช. เช่น พรรคเพื่อไทยและเครือข่าย ก็ต้องติดตามสถานการณ์กันต่อไป เพราะ “บิ๊กแดง” ถือว่ามีชื่อติด “แบล๊กลิสต์” ของคนเสื้อแดงมาตั้งแต่ปี 2552 สมัยเป็นผู้การ ร.11 รอ. ผ่านปฏิบัติการที่สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมไทยคม จ.ปทุมธานี

พร้อมจับตาว่าจะมี “เชื้อไฟ” การเกิดจลาจลหรือเหตุปัจจัยทางการเมืองที่นำไปสู่ “การรัฐประหาร” อีกหรือไม่ด้วย

อีกทั้งเคยปรากฏภาพถ่ายร่วมกับ “ตระกูลสะสมทรัพย์” ที่สนามกอล์ฟ หลัง “บิ๊กตู่” ไปออกรอบที่ จ.นครปฐม แถมพ่วง “บิ๊กฉัตร” พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ เพื่อน ตท.12 และ “บิ๊กแดง” สมัยเป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. ไปด้วย แม้ “บิ๊กตู่” จะย้ำชัดแค่ “บังเอิญเจอ” ก็ตาม ยิ่งทำให้ “บิ๊กแดง” ถูกโฟกัสมาโดยตลอด

ในวันที่ “ดร.อ้อ” ต้องเป็น “แม่บ้าน” ที่ต้อง “สมาร์ต แอนด์ สตรอง” หนุนทัพ “พ่อบ้าน” ต่อไป